พี่นักศึกษาสาว เผยปมปัญหา น้องจะเลิกกับหนุ่มมือฆ่าหลายครั้งแล้ว รู้ข่าวน้องกลายเป็นศพใต้ทางด่วนถึงกับใจสลาย

จากกรณีพบศพ นางสาวหมิง (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี ถูกฆาตกรรมถูกทิ้งไว้ข้างป่าหญ้าเหตุเกิดใต้ทางด่วนอุดรรัถยา ม.4 ต.บางพูน อ.เมืองปทุมธานี ก่อนจะจับกุมตัว นายซี (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี แฟนหนุ่มไว้ได้ขณะกำลังกินยาฆ่าตัวตายที่บ้านหรู ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

• สลด ศพสาวใต้ทางด่วน ปาดคอ-ตัดมือ มัดด้วยเข็มขัดราชภัฏ พลเมืองดีถ่ายผู้ต้องสงสัยทัน
• รวบแล้ว! หนุ่มมือฆ่าสาวหมกใต้ทางด่วน พ่อมาเจอหลังกินยาหนีความผิด คาบ้านหรู

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวจั้ม อายุ 23 ปี พี่สาวของคนตาย ได้เดินทางมาให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน สภ.ปากคลองรังสิต กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุประมาณ 2-3 เดือนที่แล้ว ก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกันน้องสาวจะเลิกแต่เขาไม่ยอมเลิก โดยมีการมัดมือมัดเท้าแล้วก็ไม่ทำไปมากกว่านั้นแล้วก็จบไป ฝ่ายชายไม่เคยมีพฤติกรรมรุนแรงทำร้ายน้องสาวเลยเพิ่งจะมีครั้งนั้น

ซึ่งน้องสาวเราเรียน ม.ปลาย มากับเขา และทำงานที่ร้านสะดวกซื้อด้วยกันอยู่แถวดอนเมือง พอมาทราบข่าวน้องสาวแบบนี้ตนเองใจจะสลาย น้องสาวเคยบอกกับตนเองว่าเคยจะเลิก ซึ่งเขาก็เคยพูดไว้ว่าถ้าจะเลิกจะไม่จากกันไปแบบเป็น ก็ต้องจากกันไปแบบตาย โดยคำพูดนี้พูดมาแล้วประมาณ 2 เดือนที่แล้ว โดยเหตุการณ์ที่มัดมือมัดเท้าก็เป็นเพราะน้องสาวจะเลิกเช่นกัน

ก่อนหน้านี้ น้องสาวเคยโทรมาคุยซึ่งบอกว่าจะขอเลิกและย้ายออกมา และจะกลับบ้านที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ตนเองก็ยังบอกไปว่าถ้าจะออกมาก็บอกเดี๋ยวตนจะรับไปส่ง แล้วน้องสาวก็พูดว่าลองขอคุยดูก่อน แต่สุดท้ายก็ดีกัน ก็ไปนานมากประมาณ 1-2 เดือน

ซึ่งน้องสาวได้มาอยู่บ้านนี้กับแฟนตั้งนานแล้ว และไม่เคยไปเช่าหออยู่ที่ไหน แต่ก็มีการพูดคุยกันว่าจะไปเช่าหออยู่ใกล้ ๆ กับมหาวิทยาลัย แต่ก็ยังไม่ทันทำอะไรเลยก็มาจบชีวิตลงก่อน  เราก็เคยเตือนน้องบอกว่าไม่อยากให้เขาคนนี้ แต่เราก็ทำอะไรไม่ได้เพราะน้องสาวรักจริง ๆ

“ตัวหนูก็คิดนะว่ามันจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะเร็วขนาดนี้ ที่คิดแบบนี้เพราะว่าแฟนของน้องสาวเคยมีคดีเก่าเรื่องทำร้ายร่างกาย และก็เคยได้ยินแฟนน้องสาวพูดประมาณว่าเขาชอบเขาตื่นเต้นเกี่ยวกับการทำร้ายหรือการฆ่าคน”

ทั้งนี้ ตนเองเคยได้ยินออกมาจากปากของทางผู้ชาย โดยอยู่กันครบมีทั้งตนเองและน้องสาวด้วย ซึ่งลักษณะการพูดของผู้ชายจะพูดแบบลักษณะติดเล่น แต่ตนเองก็ไม่คิดว่ามันจะเกิดจริง