พิธา นำทีม กทม.33 เขต จับเบอร์ มั่นใจติวเข้มผู้สมัคร ไม่มีงูเห่า เสียดาย ‘บิ๊กป้อม’ ไม่ขึ้นดีเบต งัดกลยุทธ์ เคาะทุกประตู เดินทุกถนน แจกใบปลิวทุกคน
เมื่อวันที่ 3 เม.ย.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับความเคลื่อนไหวของพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ได้เดินทางถึง ที่สนามกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์กีฬาไทย-ญี่ปุ่น เวลา 06.50น. นำโดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พาผู้สมัคร ส.ส.กทม.ทั้ง 33คน เดินทางด้วยรถเมล์ สาย 97 เลขทะเบียนตต 9243 โดยบรรยากาศมีกองเชียร์จำนวนมากมารอให้การต้อนรับ
นายพิธา กล่าวว่า วันนี้กำลังใจเกินร้อย รู้สึกทั้งภูมิใจและตื่นเต้น ภูมิใจที่ได้ทำงานกับคนข้างหลัง และตื่นเต้นที่จะได้เลือกตั้งอย่างสมศักดิ์ศรี ขอบคุณกองเชียร์ทุกคนที่มาตั้งแต่เช้า พรรคก้าวไกลจะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังอย่างแน่นอน
การเลือกตั้งครั้งนี้หลังจากได้เบอร์ เชื่อว่าจะหาเสียงอย่างสนุกขึ้น และอยากให้ประชาชนไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งเยอะๆ ตอนนี้ตั้งเป้า กทม.ต้องได้ทั้ง 33 เขต เพราะโพลนำมาเป็นที่หนึ่งตลอด และ ส.ส.ในพื้นที่ก็พื้นที่ดี สภาเด่น
เมื่อถามว่าการเลือกตั้งครั้งก่อนกับครั้งนี้ ครั้งไหนยากกว่ากัน นายพิธากล่าวว่า สองครั้งนี้แตกต่างกันเยอะ ทั้งเศรษฐกิจและการเมือง ฉะนั้นเรามีผู้สมัครที่เข้มแข็ง สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาก็คือผลงานในสภาถ้าเราได้เข้าทำเนียบรัฐบาลต้องทำได้ดีกว่าเดิมแน่นอน ว่าที่ผู้สมัครตอนสมัยอนาคตใหม่อาจจะมีโอกาสน้อยแต่ว่าที่ผู้สมัครชุดนี้สามารถทำหน้าที่ ส.ส.ได้ในวันพรุ่งนี้เลย
เมื่อถามว่า กทม.ยากกว่าต่างจังหวัดหรือไม่ นายพิธากล่าวว่า กทม.พร้อมสู้ทุกเขตอยู่แล้ว เพราะจาก ส.ก.ที่ผ่านมาเราไม่แพ้ใครและผลงานก็จะส่งมาในสภา ถ้าประชาชนชอบการทำงานแบบก้าวไกลก็ต้องแก้กฎหมายในสภา ซึ่งถ้าอยากทำงานไร้รอยต่อต้องเลือกให้ครบทั้ง 33 เขต อยากแก้ปัญหาการคมนาคมและฝุ่น PM2.5 ต้องเลือกก้าวไกล
เมื่อถามว่าการมี ส.ส.เพียง 2 คน จากเขตเดิม กังวลหรือไม่ นายพิธา ย้ำว่า ไม่มี เพราะเราต้องรักษาเขตเดิมเพิ่มเติมเขตใหม่ มองว่าการมีคนใหม่ๆเข้ามา ต้องทำอะไรให้ประชาชน คนเดิมก็ทั้งนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ และนายเท่าพิภพ ลิ้มลิจิตรกร
เมื่อถามว่ากระแสการเลือกตั้งครั้งอนาคตใหม่ต่างกับครั้งนี้หรือไม่ เราเปรียบเทียบกับตัวเองในเมื่อวาน คิดว่ากระแสดีขึ้นเรื่อยๆทั่วประเทศ ตั้งแต่ภาคเหนือถึงภาคใต้ การเลือกตั้งครั้งนี้มีนโยบายมากกว่า 300 นโยบายที่ตอบโจทย์ในแต่ละพื้นที่ เชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ประชาชนจะออกไปใช้สิทธิอย่างถล่มถลายมากกว่า 80% และจะกระแสจะชนะกระสุนอย่างแน่นอน
นายพิธา กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) จะไม่ขึ้นดีเบตว่า น่าเสียดายที่ประชาชนจะไม่ได้ฟังวิสัยทัศน์ วิธีการทำงานการเมือง และความตั้งใจ วิธีการสื่อสารของ พล.อ.ประวิตร ประชาชนไม่ได้ฟังด้วย เป็นการสื่อสารฝั่งเดียว
ส่วนเรื่องผลโพลที่ก้าวไกลได้รับความนิยมในกทม. อย่างมากนั้น พิธากล่าวว่า ตอนขึ้นไม่หลง ตอนลงไม่ท้อ ซึ่งเรามีจุดเด่นด้านนโยบาย ว่าที่ผู้สมัคร และการทำงาน ตอนนี้เวลาที่เหลือต้องเคาะทุกประตู เดินทุกถนน แจกใบปลิวให้กับทุกคน ทั้งคนที่เคยเลือกและไม่เลือกเรา ตนพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีให้กับทุกคน
ส่วนเรื่องงูเห่า มองว่าเป็นระบบนิเวศที่มาจากรัฐธรรมนูญปี 2560 ซึ่งเราต้องแก้ปัญหา มองว่าเรื่องงูเห่ามีทุกพรรคการเมือง ส่วนพรรคก้าวไกลต้องขอโทษประชาชนกับสิ่งที่เกิดขึ้น รอบนี้มีการคัดกรองที่แน่นหนากว่าเดิม ตนขอยืนยันว่า ผู้สมัครของพรรคมีทั้งอุดมการณ์และประสิทธิภาพ ส่วนเรื่องบัตรสองใบมองว่ามีส่วนที่เพิ่มมามากกว่าส่วนที่ขาด เปิดโอกาสให้ประชาชนเลือก ส.ส.คนรุ่นใหม่ เปลี่ยนหน้า ส.ส.เขตหน้าเดิม
เมื่อถามว่าน้องพิพิมให้กำลังใจอย่างไรบ้าง นายพิธายิ้ม ก่อนบอกว่า ไม่ได้ให้อะไรเลย หลับอย่างเดียว
ภายหลังการให้สัมภาษณ์ ได้มีคุณยายอายุประมาณ 80 ปี เดินฝ่าวงล้อมสื่อมวลชน เข้ามามอบดอกไม้ให้กำลังใจนายพิธา พร้อมระบุว่า ขอเป็นกำลังใจให้ชนะการเลือกตั้ง นายพิธากล่าวขอบคุณ และบอกให้คุณยายระวังเป็นลมเพราะคนเยอะ