‘พิธา’ ซัด ‘ประยุทธ์’ ตัวทำลายประเทศ ชี้ ยุทธศาสตร์ 3 แกน ของจริงคือ 3 กลวง ลั่น รัฐนาวา 8ปี ต้องจบ 23 ก.ค.นี้ เพื่อสร้างประเทศที่ดีกว่า
เมื่อเวลา 15.38 น. วันที่ 22 ก.ค. 2565 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ว่า พอกันที 8 ปีที่ พล.อ.ประยุทธ์ ทำให้คนไทยมืด 8 ด้าน ทั้งที่มืดไปแล้ว 3 ด้าน กับยุทธศาสตร์ 3 แกนแห่งอนาคต เมื่อแถลงออกมาก็มีฉันทามติสหบาทาจากทุกฝ่าย ว่า 3 แกน คือ 3 กลวง เพราะนายกฯ ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังพูดอะไรอยู่
ยกตัวอย่างที่ นายกฯ พูดถึงแกนที่ 1 เรื่องโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ที่บอกว่าใกล้เสร็จแล้ว ทั้งที่สัญญา 3 สนามบิน ที่คืบหน้า 0% หรือรถไฟไทย-จีน คืบหน้า 6% จึงไม่รู้ว่าใกล้เสร็จของนายกฯ กับนักลงทุนเป็นความย้อนแย้งหรือไม่ ชัดเจนว่าถ้าปล่อยให้ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ต่อก็จะเละเป็นโจ๊ก เหมือนตอม่อโฮปเวลล์
ตนไว้วางใจไม่ได้กับความมั่วของอุตสาหกรรมอีวี ที่นายกฯ บอกว่าจะทำให้ไทยเดินนำหน้าทุกประเทศ ซึ่งถูกจีนแซงหน้าไปมากแล้ว ในช่วงที่หนี้สาธารณะสูงที่สุด ค่าครองชีพสูงที่สุด และค่าปุ๋ยแพงที่สุด สิ่งที่ประชาชนอยากได้ยินจากนายกฯ คือทางแก้ของแพงค่าแรงถูก ไม่ใช่มาพูดเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน หรือรถยนต์อีวี
นายพิธา กล่าวว่า เท่าที่ตนฟังนายกฯ ชี้แจงมาตลอด 4 วัน พบว่านายกฯ มีแกน 3 คือ นายกฯ คือตัวทำลายศักยภาพของประเทศ คือแกนที่หนึ่ง ทำลายศักยภาพไทยในต่างประเทศ คือแกนที่สอง และทำลายศักยภาพของประชาชน คือแกนที่สาม
แกนที่หนึ่ง คือ ตลอด 3 ปี นายกฯ ใช้งบประมาณกว่า 5 แสนล้านบาท อย่างสุรุ่ยสุร่าย และไม่มีประสิทธิภาพ เช่น นายกฯ ไม่มีความกล้าชนเพื่อเจรจากับนายทุนผู้ผลิตไฟฟ้าเพื่อให้ค่าไฟถูกลง นอกจากนี้ ยังมีการทุจริต และไม่มีความสุจริตอย่างเป็นที่ประจักษ์ มีพฤติกรรมลอยนวลพ้นผิด กรณีการจัดซื้อจีที 200 ที่ไม่มีชื่อของผู้เซ็นอนุมัติจัดซื้ออยู่ในสำนวนคำฟ้อง
ส่วน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ยังมีข้อกังขาการครอบครองนาฬิกาหรูว่ามีที่มาอย่างไร ถ้า พล.อ.ประวิตร จำซีเรียลนัมเบอร์ไม่ได้ ก็มาเอาที่ตนแล้วไปเช็กที่ห้างคืนนี้ก็ได้ จะได้รู้ทันทีว่ามีที่มาจากที่ไหน และเจ้าของชื่ออะไร
นายพิธา กล่าวอีกว่า แกนที่สอง พล.อ.ประยุทธ์ ทำลายศักยภาพไทยในต่างประเทศ นโยบายการต่างประเทศของไทยกำลังอยู่ในช่วงวิกฤตที่จำเป็นต้องมีผู้นำที่เก่ง และมีไพ่หลายใบในการเจรจา เพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนไทยให้ได้มากที่สุด ตนอยากให้พล.อ.ประยุทธ์ รู้ว่าการต่างประเทศกับระเบียบการทูตนั้นต่างกัน
การที่ท่านได้รับการเชิญให้ไปต่างประเทศเยอะๆ ไม่ใช่การต่างประเทศ แต่เป็นระเบียบทางการทูต คือไม่ได้หมายความว่าท่านมีความสามารถทางการต่างประเทศแต่อย่างใด ด้วยความที่ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่มีความเข้าใจเรื่องการต่างประเทศนี้ ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ มองว่าปัญหาเมียนมาเป็นเรื่องเล็กน้อย จึงปล่อยให้เครื่องบินเมียนมาเข้ามาในน่านฟ้าไทย ซึ่งอาจจะทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องขึ้นศาลโลกในอีก 10-20 ปี ในฐานะอาชญากรสงครามหรือไม่
นายพิธา กล่าวว่า แกนที่สาม คือ การทำลายศักยภาพของพี่น้องประชาชน กรณีการใช้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งไม่ได้ทำให้ศักยภาพคนในสังคมดีขึ้น ทั้งที่เป็นหน้าที่ของนายกฯ ที่ต้องเป็นผู้ริเริ่มในการแก้ไขมาตรา 112 ด้วยซ้ำ ไม่ใช่พวกตน เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปข้างหน้าได้ เพราะความรู้สึกของประชาชนเปลี่ยนไปแล้ว
สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งปวงที่กล่าวไป ทำให้ประชาชนสิ้นหวัง นายกฯ ตอบตนได้หรือไม่ เหตุใดประเทศไทยจึงมีคนฆ่าตัวตายมากที่สุดในอาเซียน โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ คือ ช่วงอายุ 25-34 ปี นั่นเป็นเพราะความสิ้นหวังของคนไทย ที่เกี่ยวข้องกับระบบเศรษฐกิจ
“นายกฯ คนต่อไปจึงต้องเป็นคนที่ทำงานเพื่อประชาชนก่อนตัวเอง ต้องเป็นคนที่มีวิสัยทัศน์ มีความสามารถ รอบรู้ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เป็นคนที่มีความฝันแต่ไม่เพ้อฝัน พร้อมที่จะดึงพลังสร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่เข้ามาทำงานร่วมกัน แม้จะมีความเห็นต่าง เพื่อสร้างประเทศที่ดีกว่าไปด้วยกัน แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่มีคุณสมบัติเหล่านี้ เป็นที่พิสูจน์แล้วว่า รัฐนาวาที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ มายาวนาน 8 ปี ไม่ได้พาเราไปที่ไหน และการเดินทางควรจะจบได้ในวันที่ 23 ก.ค. เป็นต้นไป” นายพิธา กล่าว