พิธาโต้ ส.ว.เสรี ชี้คนรุ่นใหม่ถูกยุยงปลุกไม่ได้ ไม่งั้นคงอินค่านิยม 12 ประการแล้ว

Home » พิธาโต้ ส.ว.เสรี ชี้คนรุ่นใหม่ถูกยุยงปลุกไม่ได้ ไม่งั้นคงอินค่านิยม 12 ประการแล้ว
พิธาโต้ ส.ว.เสรี ชี้คนรุ่นใหม่ถูกยุยงปลุกไม่ได้ ไม่งั้นคงอินค่านิยม 12 ประการแล้ว

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ผู้ถูกเสนอชื่อต่อที่ประชุมรัฐสภาเป็นนายกรัฐมนตรี กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี (13 ก.ค.) ระหว่างการอภิปรายก่อนเลือกนายกรัฐมนตรี ตอบโต้นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ว่านายเสรีจะกล่าวหาว่าคนรุ่นใหม่ถูกยุยงปลุกปั่นโดยง่ายไม่ได้ เพราะถ้าทำได้ คงซึมซับค่านิยม 12 ประการ ที่ถูกบังคับให้ท่องจำไปแล้ว

“เยาวชนคนหนุ่มสาวสมัยใหม่นี้นะครับยุยงปลุกปั่นไม่ได้หรอกครับ เขามีความคิดเป็นของตัวเอง เขาเข้าถึงข้อมูลได้เยอะคนรุ่นเรา ถ้าสมมติว่ามันยุยงปลุกปั่นได้ด้วยข้อมูล ด้วยการชักจูง ด้วย Propaganda (โฆษณาชวนเชื่อ) ผมว่าค่านิยม 12 ประการที่เคยมีมาก็คงจะทำให้เขารู้สึกแบบนั้นได้ แต่ก็หาเป็นเช่นนั้นไม่” นายพิธา กล่าว

ก่อนหน้านั้นนายเสรีอภิปรายนายพิธาและพรรคก้าวไกลว่าสนับสนุนคนรุ่นใหม่ให้ทำผิดกฎหมาย หนึ่งในวิธีการสนับสนุนดังกล่าว คือ การใช้ตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ไปประกันตัวเมื่อคนกลุ่มนั้นทำผิดกฎหมาย

นายพิธาตอบโต้ประเด็นนี้ว่าการใช้ตำแหน่งไปประกันตัวให้ผู้ถูกคดีทางการเมืองและคดีอื่นๆ ที่ประชาชนไม่ได้รับความยุติธรรมไม่ว่าเรื่องใด คือ การยืนยันว่าตัวแทนของประชาชนจะต้องพิทักษ์สิทธิเสรีภาพของประชาชนและการเข้าถึงเครื่องมือป้องกันตัวทางกฎหมาย

“ส.ส. จากพรรคก้าวไกลก็มีหน้าที่ที่จะทำให้เกิดเสรีภาพในการแสดงออกและก็สิทธิในการเข้าถึงทนายและสิทธิในการที่จะสันนิษฐานว่าบริสุทธิ์ไว้ก่อนถ้ายังไม่มีคำพิพากษาให้ถึงที่สิ้นสุดครับ” นายพิธา กล่าว

ต่อมานายเสรีก็ลุกขึ้นตอบโต้อีกว่าคลิปที่ตนเห็นยืนยันว่าพรรคก้าวไกลสนับสนุนการกระทำดังกล่าวจริง ไม่ใช่เฟกนิวส์อย่างที่นายพิธาอธิบาย นายพิธาจึงลุกขึ้นตอบโต้ว่า ถ้าหากเป็นตนที่เห็นข้อมูลดังกล่าวจะขอตรวจสอบก่อนพูดออกไป เพราะคนที่จะเป็นผู้นำได้ต้องมีวุฒิภาวะเพียงพอใจการตรวจสอบข้อมูลเหล่านั้น

“ถ้าเป็นผมเวลาจะพูดอะไรแบบนี้ในทางกลับกันที่อาจจะทำลายผมหรือทำลายฝ่ายตรงกันข้ามนะครับ ผมคงพิสูจน์ก่อนที่จะเอามาพูดในรัฐสภาแห่งนี้ครับว่าเป็นข้อเท็จจริงสักเพียงใด เพราะฉะนั้นสิ่งที่ถูกพูดไว้เนี่ยมันถูกบันทึกไว้หมด เพราะฉะนั้นเนี่ยก่อนที่จะเป็นผู้นำได้ก็ต้องมีวุฒิภาวะพอในการตรวจสอบว่ามันจริงไม่จริงอย่างไร” นายพิธา กล่าว

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ