“พิชาย” ชี้ หากหัวหน้าพรรค ภท.-พปชร. รู้เห็นใช้รายงานประชุมไอทีวี ร้อง “พิธา” ส่อผิด ม.143 โทษหนักถึงยุบพรรค ส่วนคนร้องติดคุก 7-10 ปี
วันที่ 11 มิถุนายน 2566 จากกรณี ฐปนีย์ ข่าว 3 มิติ เปิดคลิปที่ประชุมผู้ถือหุ้นไอทีวี นาทีตอบคำถามยังเป็นสื่อหรือไม่ โดยพบว่าจากคำตอบว่า “ตอนนี้บริษัทยังไม่มีการดำเนินการใดๆครับ ก็รอผลคดีความให้สิ้นสุดก่อนนะครับ” เมื่อลงในบันทึกการประชุมถูกบิดเบือนกลายเป็น “ปัจจุบันยังดำเนินกิจการอยู่ ตามวัตถุประสงค์ของบริษัทและมีการส่งงบการเงินและยื่นแบบภาษีเงินได้นิติบุคคลตามปกติ”
ล่าสุด รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต อาจารย์คณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า เนื่องจากผู้เริ่มต้นเรื่องนี้เป็นผู้สมัคร ส.ส. พรรค ภท. และ ผู้ร้องเรียนเป็นสมาชิกพรรค พปชร.
หากหัวหน้าพรรคหรือกรรมการพรรค ภท. และ พปชร. รู้เห็นเป็นใจเรื่องการใช้เอกสารรายงานการประชุมของ itv เพื่อร้องเรียนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี อาจเข้าข่าย มาตรา 143 ของ พรป. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. นั่นคือ ให้ถือว่าพรรคนั้นกระทำอันเป็นการบ่อนทำลายความมั่นคงต่อราชอาณาจักร ซึ่งหมายความว่าต้องถูกยุบพรรค ส่วนคนร้องเรียนและผู้เกี่ยวข้องกับการทำเอกสาร โทษสูงสุดคือ จำคุก 7-10 ปี