พิจิตร พร้อมรับเจ้าภาพสองล้อเสือภูเขาทางเรียบใจเกินร้อย – Bike 4 All

Home » พิจิตร พร้อมรับเจ้าภาพสองล้อเสือภูเขาทางเรียบใจเกินร้อย – Bike 4 All



พิจิตร ยืนยันความพร้อมในการจัดศึกสองล้อเสือภูเขาทางเรียบ (ใจเกินร้อย) และปั่นเพื่อชีวิต Sport Tourism Bike 4 All สนามที่ 1 ระหว่างวันที่ 18-19 มิ.ย.

พิจิตร ยืนยันความพร้อมในการจัดศึกสองล้อเสือภูเขาทางเรียบ (ใจเกินร้อย) และปั่นเพื่อชีวิต Sport Tourism Bike 4 All” สนามที่ 1 ระหว่าง 18-19 มิ.ย. เส้นทางรอบบึงสีไฟ และภายในจังหวัดพิจิตร ด้าน “ประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์” อดีต รมช.คลัง เตรียมผลักดันจังหวัดพิจิตรให้เป็น “เมืองกีฬา” ต่อไปในอนาคต

นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ อดีตรมช.คลัง และ “เสธ.หมึก”พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ร่วมกันเป็นประธานการประชุมหารือจัดจักรยานเสือภูเขาทางเรียบ (ใจเกินร้อย) และจักรยาน “ปั่นเพื่อชีวิต Sport Tourism Bike 4 All” สนามที่ 1 ที่ห้องประชุมอบจ.พิจิตร เมื่อวันที่ 3 พ.ค.

นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ จังหวัดพิจิตรมีเป้าหมายที่จะก้าวไปสู่การเป็นเมืองกีฬาในอนาคต โดยมีแผนที่จะพัฒนาเส้นทางรอบ ๆ บึงสีไฟ ให้เป็นเส้นทางปั่นจักรยาน ตนเองจึงได้ขอคำปรึกษาจาก พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมจักรยาน ซึ่งต้องขอขอบคุณที่ได้ให้คำแนะนำมาเป็นอย่างดี หลังจากนี้ทางจังหวัดพิจิตร และอบจ.พิจิตรจะเร่งดำเนินการและประสานกับสมาคมกีฬาจักรยานฯ เพื่อให้การจัดการแข่งขันเป็นไปตามแผนและเรียบร้อยตามวัตถุประสงค์ทุกประการ

ด้าน พลเอกเดชา กล่าวว่า สมาคมเคยร่วมกับจังหวัดพิจิตร จัดจักรยานชิงแชมป์ประเทศไทย เมื่อหลายปีก่อน ส่วนในปีนี้ท่านนายกอบจ.พิจิตร มีนโยบายจะทำเส้นทางปั่นจักรยานรอบบึงสีไฟ ภายใต้การนำของท่านผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้มาปั่นจักรยานเพื่อออกกำลังกาย

ขณะเดียวกันเมื่อมีเส้นทางจักรยานแล้วควรจะมีกิจกรรมเปิดเส้นทางจักรยานให้พี่น้องประชาชนทั่วประเทศได้รับทราบ จึงมีโครงการจัดจักรยานเสือภูเขาทางเรียบ (ใจเกินร้อย) และปั่นเพื่อชีวิต Sport Tourism Bike 4 All” สนามที่ 1 ระหว่างวันที่ 18-19 มิถุนายน ต้องขอขอบที่มอบให้สมาคมมาจัดจักรยานชิงแชมป์ประเทศไทย ทั้ง 2 รายการดังกล่าว

นายกสองล้อไทย กล่าวอีกว่า สำหรับการแข่งขันวันที่ 18 มิ.ย. จะใช้เส้นทางรอบบึงสีไฟ ส่วนวันที่ 19 มิ.ย. จะเป็นเส้นทางภายในจังหวัดพิจิตร ซึ่งจะผ่านแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ ๆ ของจังหวัดพิจิตร เช่นวัดบางคลาน, วัดท่าหลวง นักปั่นและผู้ติดตามจะมีโอกาสได้กราบไหว้สักการะขอพร หลวงพ่อเงิน และหลวงพ่อเพชร อันศักดิ์สิทธิ์

นอกจากนี้นักปั่นยังสามารถเลือกซื้อของที่ระลึก เช่นผ้าทอป่าแดงตะพานหิน, ส้มโอท่าข่อย, ผลิตภัณฑ์ OTOP จักสานผักตบชวาบ้านทุ่งโพธิ์ เป็นต้น ขอเชิญชวนนักปั่นจากทั่วประเทศมาร่วมแข่งขันจักรยานทั้ง 2 รายการ และมาท่องเที่ยวที่บึงสีไฟ จังหวัดพิจิตร รับรองว่าจะประทับใจอย่างแน่นอน

ด้าน นายไพบูลย์ ณะบุตรจอม พ่อเมืองพิจิตร กล่าวว่า ขอขอบคุณท่านพลเอกเดชา ที่ได้นำจักรยานระดับชิงแชมป์ประเทศไทยมาเปิดเมืองพิจิตร มาส่งเสริมการท่องเที่ยว และกระตุ้นเศรษฐกิจภายในจังหวัดพิจิตร

การจัดแข่งขันในครั้งนี้จะส่งผลให้ธุรกิจโรงแรมที่พัก ร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ต่างมีรายได้เพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงสินค้าที่ระลึกอย่างเช่น ผ้าทอป่าแดง ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่ได้ส่งเสริมและสนับสนุนการใช้ผ้าไทยให้แพร่หลาย

รวมทั้งเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ทำให้นักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศได้รู้จักบึงสีไฟมากขึ้น ทางจังหวัดพิจิตร และ อบจ.พิจิตร ยินดีให้การสนับสนุนการจัดแข่งขันในครั้งนี้อย่างเต็มที่ โดยมีท่านประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ ให้เกียรติเป็นที่ปรึกษา

ขณะที่ พ.ต.อ.กฤษฎา ภัทรประสิทธิ์ นายกอบจ.พิจิตร กล่าวว่า อบจ.พิจิตรจะเร่งประสานงานกับทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมการด้านต่าง ๆ ให้มีความพร้อมมากที่สุด ขอขอบคุณสมาคมกีฬาจักรยานที่ให้เกียรติจังหวัดพิจิตรเป็นเจ้าภาพ หลังจากนี้จะมีการประชุมเตรียมความพร้อมให้การแข่งขันออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด

พลเอกเดชา กล่าวเสริมว่า สมาคมไม่เคยหยุดนิ่ง ทำงานกันตลอดทั้งปี หลังจากจบซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่เวียดนาม จะมีจักรยานประเภทถนนชิงแชมป์ประเทศไทย และจักรยานประเภทเสือภูเขาชิงแชมป์ประเทศไทย สนามที่ 5 ระหว่าง 3-5 มิ.ย. ที่จันทบุรี

ต่อด้วยการแข่งขันจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ ชิงแชมป์ประเทศไทย สนามที่ 5 สนามสุดท้าย ระหว่างวันที่ 11-12 มิถุนายน ที่สนามบีเอ็มเอ็กซ์ ภายในสวนกีฬากมล สปอร์ตพาร์ค เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร

“เสธ.หมึก” กล่าวอีกว่า หลังจากนั้นจะเป็นนจักรยานเสือภูเขาทางเรียบ (ใจเกินร้อย) และปั่นเพื่อชีวิต Sport Tourism Bike 4 All” สนามที่ 1 ที่จังหวัดพิจิตร, สนามที่ 2 ระหว่าง 16-17 ก.ค. ที่จังหวัดเพชรบุรี, สนามที่ 3 ระหว่าง 6-7 ส.ค. ที่จังหวัดกำแพงเพชร หรือจังหวัดลพบุรี ซึ่งอยู่ระหว่างการประสานงาน และสนามที่ 4 (สนามสุดท้าย) ที่จังหวัดสุพรรณบุรี

ขณะที่จักรยานประเภทลู่ชิงแชมป์ประเทศไทย จำนวน 5 สนาม ดังนี้สนามที่ 1 ระหว่าง 24-26 มิ.ย., สนามที่ 2 ระหว่าง 1-3 ก.ค., สนามที่ 3 ระหว่าง 12-14 ส.ค., สนามที่ 4 ระหว่าง 9-11 ก.ย., สนาม 5 ระหว่าง 23-25 ก.ย. โดยทุกสนามแข่งขันที่สนามเวลโลโดรม หัวหมาก กรุงเทพมหานคร

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ