พาหนะคู่ใจ น้องปูเป้ ยังขี่ช้างไปเรียน แถมดังไกลถึงญี่ปุ่น สื่อยุ่นทาบถ่ายทำรายการ

Home » พาหนะคู่ใจ น้องปูเป้ ยังขี่ช้างไปเรียน แถมดังไกลถึงญี่ปุ่น สื่อยุ่นทาบถ่ายทำรายการ


พาหนะคู่ใจ น้องปูเป้ ยังขี่ช้างไปเรียน แถมดังไกลถึงญี่ปุ่น สื่อยุ่นทาบถ่ายทำรายการ

บุรีรัมย์ “น้องปูเป้” นักเรียนหญิง ป.5 วัย 11 ขวบ ยังขี่พลายโอเล่ไปโรงเรียนทุกวัน มีความสุขที่ได้อยู่ใกล้ช้าง พ่อปลื้มเห็นลูกรักผูกพัน ล่าสุดสื่อญี่ปุ่นบินข้ามทะเลติดต่อ ถ่ายทำรายการ

20 ก.ค. 65 – จากกรณีที่ ด.ญ.พัชราภา โยงรัมย์ หรือน้องปูเป้ อายุ 11 ขวบ นักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนบ้านสำโรงพิมาน ต.ท่าม่วง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ กลายเป็นกระแสฮือฮาและโด่งดังในโลกโซเชียล

หลัง นายวิศัลย์ชน โยงรัมย์ อายุ 38 ปี ผู้เป็นพ่อได้โพสต์คลิปของลูกสาว ขณะขี่ช้างที่ครอบครัวเลี้ยงชื่อพลาย “โอเล่” อายุ 25 ปี ไปโรงเรียนระยะทาง 1 กิโลเมตร ประกอบกับเป็นช่วง ราคาน้ำมันแพงพอดี จึงทำให้ได้รับความสนใจจากผู้ที่เข้ามาชมและติดตามเป็นอย่างมาก

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปติดตามชีวิตของน้องปูเป้ อีกครั้ง ก็ยังคงเห็นน้องปูเป้ ขี่หลังช้างพลายเจ้าโอเล่ ไปโรงเรียนเป็นปกติ โดยมีพ่อและแม่คอยเดินตามไปด้วย ขณะที่ชาวบ้าน และครู ต่างก็ชื่นชมในความสามารถของน้อง

ส่วนเพื่อนๆ ที่โรงเรียนต่างก็ตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้เห็นน้องปูเป้ ขี่ช้างมาเรียน อาจจะเพราะความน่ารักของเจ้าพลายโอเล่ด้วย โดยเฉพาะวันนี้พลายโอเล่ ได้มาพร้อมกันพลายงามโชค ลูกชายวัย 4 ปีที่กำลังอยู่ในวันน่ารักและขี่อ้อน

จากการสอบถาม น้องปูเป้ บอกว่า พ่อได้ฝึกให้ขี่ช้างมาตั้งแต่เด็กแล้ว ซึ่งตอนแรกก็กลัว เพราะยังไม่คุ้นชินกับช้าง แต่ทุกวันนี้ก็คุ้นชินและมีความผูกพันกับช้าง จึงขี่มาโรงเรียนทุกวัน ประกอบกับช่วงประหยัดค่าน้ำมันที่บ้านด้วย เพราะช่วงนี้น้ำมันแพง

ซึ่งก่อนจะขึ้นขี่ช้างทุกครั้ง ก็จะยกมือไหว้ก่อนเพื่อเป็นการขอขมา ซึ่งมีความสุขทุกครั้งที่ได้ขี่และอยู่ใกล้ช้าง ความฝันโตขึ้นอยากเป็นสัตวแพทย์ จะได้ช่วยรักษาสัตว์ โดยเฉพาะช้าง และก็อยากจะสืบทอดวิถีเลี้ยงช้างของครอบครัวด้วย

นายวิศัลย์ชน โยงรัมย์ พ่อน้องปูเป้ บอกว่า ได้พาน้องฝึกขี่ช้างมาตั้งแต่เด็กก่อนจะเข้าโรงเรียน จนทุกวันนี้น้องก็สามารถขึ้นขี่ช้างเองได้ จุดประสงค์หลักๆ คืออยากปลูกฝังให้น้องรู้จักวิธีการเลี้ยงช้าง อ่านใจ และสังเกตว่า ช้างมีความรู้สึกยังไง โดยเฉพาะเวลาที่เจ็บป่วย เวลาโตขึ้นน้องจะได้ช่วยดูช้างแทนพ่อได้

ส่วนที่ว่าขี่ช้างมาโรงเรียนเพื่อประหยัดน้ำมันนั้น ก็เป็นช่วงที่ราคาน้ำมันแพงพอดี จึงกลายเป็นกระแสฮือฮา ส่วนความฝันของน้องโตขึ้นเขาบอกว่า อยากเป็นสัตวแพทย์ เพราะเขาเป็นคนรักสัตว์ อยากจะมารักษาสัตว์

ส่วนน้องจะสืบทอดการเลี้ยงช้างต่อจากพ่อแม่หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของตัวน้องเอง แต่เท่าที่สังเกตเวลาน้องอยู่กับช้างจะดูมีความสุขมาก โดยเฉพาะเจ้าโอเล่ กับลูกสาวจะมีความผูกพันกันมาเหมือนคนในครอบครัว

ซึ่งล่าสุดได้มีสื่อสำนักหนึ่ง จากประเทศญี่ปุ่น ติดต่อมาขอถ่ายทำรายการชีวิตของน้องปูเป้ และพลายโอเล่ ด้วย

ปัจจุบันมีช้างอยู่ 4 เชือก พ่อแม่ลูก คือ เจ้าพลาย “โอเล่” อายุ 25 ปี พังวาสนา เพศเมีย อายุ 22 ปี งามโชค เพศผู้ อายุ 4 ปี และ งามตา เพศเมีย อายุ 2 เดือน ทั้งสองเป็นลูกของ พังวาสนา พลายโอเล่

ก่อนหน้านี้ได้นำช้างไปแสดงโชว์ และบริการนักท่องเที่ยวที่ปางช้าง จ.พระนครศรีอยุธยา แต่พอประสบปัญหาโควิด-19 จึงกลับมาบ้านเกิดที่ อ.สตึก ทุกวันนี้ก็ต้องออกไปรับจ้างและไลฟ์เพื่อหารายได้ซื้ออาหารเลี้ยงช้าง เพื่อรอให้แหล่งท่องเที่ยวเปิด ถึงจะได้กลับไปแสดงโชว์อีกครรั้ง

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ