พัฒนาการล่าช้า! หมอเด็ก เผย กัญชา กระทบต่อสมองเด็กและวัยรุ่น

Home » พัฒนาการล่าช้า! หมอเด็ก เผย กัญชา กระทบต่อสมองเด็กและวัยรุ่น
กัญชา

หมอเด็ก เผย กัญชา กระทบต่อสมองเด็กและวัยรุ่น พัฒนาการล่าช้า ปัญหาพฤติกรรม เชาวน์ปัญญาลดลง และส่งผลต่ออารมณ์และจิตใจ

10 มิถุนายน 2565 วานนี้ เพจ สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว ได้ออกมาเผยถึง จุดยืนของหมอเด็ก เรื่องกัญชา โดยเฉพาะผลกระทบต่อสมองของเด็กและวัยรุ่น เช่น พัฒนาการล่าช้า ปัญหาพฤติกรรม เชาวน์ปัญญาลดลง และส่งผลต่ออารมณ์และจิตใจ เช่น มีความเสี่ยงต่อการป่วยเป็นโรคจิตเภท ภาวะฆ่าตัวตาย เสี่ยงต่อการติดสารเสพติดชนิดอื่น ๆ รวมถึงส่งผลเสียต่อสุขภาพกาย ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยได้ระบุแถลงการณ์ จุดยืนของราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย ว่า

เรื่องผลกระทบของกฎหมายกัญชาเสรีต่อสุขภาพเด็กและวัยรุ่น ลงวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2565

สืบเนื่องจากประกาศกระทรวงสาธารณสุข ในราชกิจจานุเบกษา วันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2565 ประกาศยกเว้นจากการเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 โดยเฉพาะกัญชา ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ.2565

จะส่งผลให้ประชาชนทุกคนในประเทศไทย รวมถึงกลุ่มเปราะบาง คือเด็กและวัยรุ่น สามารถเข้าถึงกัญชาและผลิตภัณฑ์ ที่มีส่วนผสมของกัญชาได้ โดยไม่ผิดกฎหมาย จากการบริโภคอาหารและเครื่องดื่ม ที่มีส่วนผสมของกัญชา รวมถึงการนำกัญชาซึ่งเป็นสารที่มีฤทธิ์ทำให้เสพติด มาใช้เพื่อนันทนาการ

ในพืชกัญชามีสารแคนนาบินอยด์ (cannabinoid) หลายชนิด แบ่งเป็น สารออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท (psychoactive) ที่สำคัญ ได้แก่ THC (delta-9-/delta-8 tetrahydrocannabinol) และสารไม่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท (non-psychoactive) ที่สำคัญ ได้แก่ แคนนาบินอยด์ (cannabidiol-CBD) ซึ่งในทางการแพทย์มีการนำมาใช้รักษาโรคลมชัก ชนิดดื้อยากันชัก

สำหรับ THC มีการนำมาใช้ในทางการแพทย์เช่นกัน เช่น ในการรักษาประคับประคองของมะเร็งระยะสุดท้าย แต่หากมีการนำกัญชาหรือสารสกัดกัญชามาใช้เป็นส่วนผสมของอาหารหรือการแปรรูปต่าง ๆ หรือให้มีการใช้กัญชาได้อย่างเสรี โดยไม่มีกฎหมายควบคุม ประชาชนก็จะมีโอกาสได้รับสารแคนนาบินอยด์ เหล่านั้นเข้าไปจนอาจจะมีผลกระทบที่รุนแรง

โดยเฉพาะผลกระทบต่อสมองของเด็กและวัยรุ่น เช่น พัฒนาการล่าช้า ปัญหาพฤติกรรม เชาวน์ปัญญาลดลง และส่งผลต่ออารมณ์และจิตใจ เช่น มีความเสี่ยงต่อการป่วยเป็นโรคจิตเภท ภาวะฆ่าตัวตาย เสี่ยงต่อการติดสารเสพติดชนิดอื่น ๆ รวมถึงส่งผลเสียต่อสุขภาพกายทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย ร่วมกับ สมาคมกุมารประสาทวิทยา (ประเทศไทย) ชมรมจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่นแห่งประเทศไทย ชมรมพัฒนาการและพฤติกรรมเด็กแห่งประเทศไทย มีความห่วงใยและตระหนักถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นจึงมีคำแนะนำเพื่อป้องกันผลกระทบที่เกิดจากกัญชาต่อเด็กและวัยรุ่น ดังนี้

1.เด็กที่อายุน้อยกว่า 20 ปี ไม่ควรเข้าถึงและบริโภคกัญชา เนื่องจากสมองยังพัฒนาไม่เต็มที่ และกัญชามีสาร THC ที่มีผลต่อสมองเด็กในระยะยาว ดังนั้นเด็กจึงไม่ควรได้รับ THC ยกเว้นกรณีมีความจำเป็นทางการแพทย์เช่น ประกอบการรักษาประคับประคองผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย โรคลมชักรักษายาก ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลรักษาของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิด

2.ให้มีการประชาสัมพันธ์กับประชาชน เรื่องโทษของการใช้กัญชากับสมอง กัญชาเป็นสารที่มีฤทธิ์เสพติด ส่งผลต่อสุขภาพกาย และจิตในระยะเฉียบพลัน และอาจรุนแรงถึงกับชีวิตได้ รวมถึงมีผลกระทบในระยะยาวต่อสมอง ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างและการทำงานของสมองที่กำลังพัฒนา

3.ให้มีมาตรการควบคุม การผลิต และขายอาหารหรือผลิตภัณฑ์ที่มีกัญชาผสม และให้มีเครื่องหมาย/ข้อความเตือนอย่างชัดเจน เพื่อป้องกันการใช้ในเด็กและวัยรุ่น โดยระบุ “ห้ามเด็กและเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริโภค”

4.ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรควบคุมการโฆษณาผลิตภัณฑ์ ควบคุมไม่ให้มีการจงใจออกแบบผลิตภัณฑ์ที่มีกัญชาเป็นส่วนผสม เช่น ภาพการ์ตูน หรือใช้คำพูดสื่อไปในทางให้เกิดความเข้าใจผิดว่าเป็นอาหารหรือขนมที่เด็กและวัยรุ่นบริโภคได้

5.ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการติดตามผลกระทบของกัญชาต่อเด็กอย่างต่อเนื่องและจริงจังหลังจากใช้กฎหมายกัญชาเสรี

ทั้งนี้ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย พร้อมเสมอที่จะให้ข้อมูลที่เที่ยงตรงและถูกต้องบนพื้นฐานของวิทยาศาสตร์การแพทย์ รวมถึงให้ข้อแนะนำที่เหมาะสมแก่บุคลากรทางการแพทย์และประชาชน เกี่ยวกับผลกระทบของกัญชาต่อเด็กและวัยรุ่น

ขอบคุณรูปภาพจากเพจ สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว
ขอบคุณรูปภาพจากเพจ สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว
ขอบคุณรูปภาพจากเพจ สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ