พังงาปรับภูมิทัศน์เกาะไข่ เตรียมตัวเปิดรับการท่องเที่ยวอีกครั้ง

Home » พังงาปรับภูมิทัศน์เกาะไข่ เตรียมตัวเปิดรับการท่องเที่ยวอีกครั้ง
พังงาปรับภูมิทัศน์เกาะไข่ เตรียมตัวเปิดรับการท่องเที่ยวอีกครั้ง

ที่บริเวณ เกาะไข่ใน ต.พรุใน อ.เกาะยาว จ.พังงา ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆเกาะหนึ่ง โดยแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ จากหาดทรายขาว ทะเลสวย ปะการังน้ำตื้นมีความสมบูรณ์ ในช่วงปกติจะมีนักท่องเที่ยวเข้าเที่ยววันละไม่ต่ำกว่า 1,000 – 2,000 คน กระทั่งช่วงการสถานการณ์โควิด ทำให้นักท่องเที่ยวไม่สามารถเข้าประเทศและแหล่งท่องเที่ยวได้ ชายหาดที่ขาวสวยใส เต็มไปด้วยขยะทะเลที่ถูกคลื่นพัดจนทำความงามของชายหาดหม่นหมองไป

ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ภาครัฐ ได้ร่วมมือกับภาคเอกชน เข้าเก็บกวาดขยะทะเลเหล่านี้ทั่งทางบกและใต้น้ำ เพื่อเตรียมการรองรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบแหล่งท่องเที่ยวแบบ ทะเลสวยน้ำใส นอกจากนี้ภาครัฐยังร่วมมือกับเอกชนในพื้นที่ อ.เกาะยาว ในการให้ความรู้ มาตรฐาน SHA Plus คือ ความปลอดภัยของสุขภาพ ซึ่งมีเกณฑ์ตัวชี้วัด ซึ่งต้องผ่านการอบรม ให้ความรู้ ซึ่งจะมีความเชื่อถือต่อนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยพังงาเข้าสู่โหมดของ 7 บวก 7 บวก 14 บวกบวก หากนักท่องเที่ยวพักมาจากภูเก็ต 14 วัน สามารถเที่ยวเหมือนนักท่องเที่ยวปกติภายใต้มาตรการ DMHTTA โดยจังหวัดพังงาพร้อมที่จะแนะนำแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ใน Sealed Route SHA Plus เพื่อให้นักท่อเที่ยวสามารถเที่ยวในพื้นที่ที่ปลอดภัยจากแหล่งระบาดเชื้อโควิด

โดยนายกริช สันธิญา กรรมการผู้จัดการ สันธิญา เกาะยาวใหญ่ รีสอร์ท แอนด์ สปา จำกัด กล่าวว่า ทางโรงแรมสันธิญา ได้ประชุมร่วมกับชาวบ้าน ร้านค้า ร้านอาหาร ในพื้นที่ อ.เกาะยาว เพื่อส่งเสริม ให้ความรู้ เกี่ยวกับการเข้าสู่มาตรฐาน SHA Plus ซึ่งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่จะเข้ามาเที่ยวในพื้นที่ อ.เกาะยาว ต่อไปนี้ ส่วนใหญ่จะได้รับคำแนะนำให้เข้าพัก รับประทาน ดื่ม กระทั่งใช้บริการที่ผ่านมาตรฐาน ดังนั้นร้านค้าชุมชน ร้านอาหาร ร้านบริการต่างๆ ที่ได้รับมาตรฐาน SHA Plus สามารถเปิดบริการนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติได้

ด้านนายพงศกร เกตุประภากร ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดพังงา กล่าวว่า ภาคเอกชนในพื้นที่จังหวัดพังงาได้เดินหน้าขับเคลื่อนตามนโยบายรัฐบาลมุ่งมั่นจะเปิดประเทศภายใน 120 วัน สำหรับจังหวัดพังงารัฐบาลเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าเที่ยวนำร่องได้ใน 2 พื้นที่ คือ เขาหลักและเกาะยาว ซึ่งเขาหลักจะวางรูปแบบการท่องเที่ยวแบบ Sealed Area นาใต้รูปแบบเป็น SHA Plus To SHA Plus เช่นเดียวกับเกาะยาว ซึ่งจะทำเงินให้กับประเทศตามที่คาดการณ์ไว้ไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ