สำนักข่าว CNN รายงานว่า นาซา อัปเดตจากการศึกษาวงโคจรต่อเนื่อง พบว่าโอกาสที่ดาวเคราะห์น้อย 2024 YR4 จะพุ่งชนโลกในเดือนธันวาคม 2032 เหลือเพียง 0.0017% เท่านั้น

หลังจากที่ทั่วโลกเฝ้าจับตา “2024 YR4” ซึ่งถือเป็นดาวเคราะห์น้อยที่มีความเสี่ยงสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ที่อาจพุ่งชนโลกในปี 2032 ล่าสุด องค์การอวกาศนาซา (NASA) และองค์การอวกาศยุโรป (ESA) ออกมาเปิดเผยว่า โอกาสที่ดาวเคราะห์น้อยดวงดังกล่าวจะชนโลกได้ลดลงจนเกือบเป็นศูนย์แล้ว

เมื่อวันที่ 24 ก.พ. นาซา ประมาณการว่า ดาวเคราะห์น้อย 2024 YR4 มีโอกาสพุ่งชนโลกในเดือนธ.ค. 32 เพียง 0.0017% เท่านั้น ขณะที่ ESA ประเมินความเสี่ยงไว้ใกล้เคียงกันที่ 0.002% ตัวเลขดังกล่าวเท่ากับว่า 2024 YR4 มีโอกาสพุ่งชนโลกเพียง 1 ใน 59,000 นอกจากนี้ ข้อมูลใหม่บ่งชี้ว่า ดาวเคราะห์น้อยมีโอกาสพุ่งชนดวงจันทร์เพียง 1.7%

นาซา ระบุว่า “เมื่อค้นพบดาวเคราะห์น้อย 2024 YR4 ครั้งแรก เราพบว่ามันมีโอกาสพุ่งชนโลกของเราน้อย แต่ก็ถือว่าต้องเฝ้าระวัง ขณะที่การสังเกตการณ์ดาวเคราะห์น้อย ทำให้ผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์ศึกษาวัตถุใกล้โลกของห้องปฏิบัติการขับเคลื่อนไอพ่นของนาซาสามารถคำนวณแบบจำลองที่แม่นยำยิ่งขึ้นของวิถีโคจรของดาวเคราะห์น้อยได้”
“ตอนนี้เราพบว่า ดาวเคราะห์น้อยนี้ไม่มีศักยภาพสำคัญที่จะพุ่งชนโลกของเราไปจนถึงศตวรรษหน้า การสังเกตการณ์ล่าสุดช่วยลดความไม่แน่นอนของวิถีโคจรในอนาคตลงอีก และระยะของตำแหน่งที่เป็นไปได้ที่ดาวเคราะห์น้อยอาจโคจรในวันที่ 22 ธันวาคม 2032 ได้เคลื่อนตัวออกไปไกลจากโลกมากขึ้น”

ดาวเคราะห์น้อย 2024 YR4 ยังถูกลดระดับความอันตรายมาอยู่ที่ 0 จาก 10 ในมาตราความเสี่ยงโทริโน ซึ่งเป็นเครื่องมือสำหรับจำแนกความรุนแรงของการชนกันที่อาจเกิดขึ้นระหว่างวัตถุในอวกาศกับโลก มันถูกตรวจพบด้วยกล้องโทรทรรศน์เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2024 คาดว่ามีความกว้าง 40 ถึง 90 เมตร ซึ่งเทียบได้กับอาคารขนาดใหญ่ และอาจทำให้เกิดความเสียหายกับเมืองใหญ่ได้หากดาวเคราะห์น้อยพุ่งชนโลกของเรา

ริชาร์ด บินเซล ผู้คิดค้นมาตราส่วนโทริโน กล่าวว่า การที่ความเสี่ยงของดาวเคราะห์น้อยลดลงอย่างรวดเร็วเป็นผลมาจาก “การทำงานอย่างมุ่งมั่นและไม่ได้รับการกล่าวขานของนักดาราศาสตร์” ซึ่งได้ทำการสังเกตการณ์ดาวเคราะห์น้อยอย่างต่อเนื่องโดยใช้กล้องโทรทรรศน์ทั่วโลก