ช็อกกันหมด สาวปีนขึ้นหลังคารถ ถอดกางเกงกลางถนน แถมยังทำท่าทางอนาจาร คนผ่านไปมาตกใจ แทบไม่เชื่อสายตา

ตามรายงานระบุว่า เกิดเหตุน่าตกใจนี้เกิดขึ้นบนถนนในเมืองกุ้ยหลิน มณฑลกวางสี ประเทศจีน เมื่อเร็วๆ นี้ ตามคลิปที่มีการเผยแพร่ออกมาจะเห็นได้ว่า ผู้หญิงคนหนึ่งปืนขึ้นไปยืนอยู่บนหลังคารถ พฤติกรรมอุกอาจนี้ดึงดูดความสนใจของผู้คนที่เดินผ่านไปมาได้ทันที ก่อนที่เธอจะถอดกางเกงออกและเคลื่อนไหวด้วยท่าทางที่ไม่เหมาะสม

โดยผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ผู้หญิงคนนั้นแสดงพฤติกรรมที่ผิดปกติบนหลังคารถ แล้วยังถอดกางเกงออกต่อหน้าทุกคน นั่งยองๆ ทำท่าทางอนาจารบนหลังคารถอีกด้วย

ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ ระบุว่า เจ้าหน้าที่รีบไปยังที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็วหลังจากได้รับการแจ้งเรื่อง โดยเบื้องต้นพบว่าพฤติกรรมของผู้หญิงรายดังกล่าว “ผิดปกติ” อย่างแน่นอน และสงสัยว่าเธออาจมีสภาพจิตใจไม่มั่นคง ดังนั้น เพื่อรักษาความสงบรียบร้อยของสังคม และปกป้องความปลอดภัยของตัวหญิงสาวเอง ตำรวจจึงใช้มาตรการอย่างเด็ดขาดในการนำเธอออกจากที่เกิดเหตุทันที 

พ่อค้าในบริเวณดังกล่าวเล่าว่า “ตอนนั้นฉันอยู่ในร้าน คนมากันเยอะมาก รวมทั้งรถตำรวจหลายคันด้วย” แม้ว่าผู้หญิงคนนั้นยังคงพูดไร้สาระหลังจากถูกตำรวจพาลงมาจากหลังคารถ แต่สุดท้ายตำรวจก็สามารถพาตัวออกไปได้สำเร็จ และถนนกลับคืนสู่สภาพปกติอย่างรวดเร็ว

ฉากอันไม่พึงประสงค์ดังกล่าวถูกบันทึกไว้อย่างรวดเร็วบนโทรศัพท์มือถือ ทำให้เกิดการแชร์บนโซเชียลมีเดียอย่างรวดเร็ว ตามมาด้วยการถกเถียงกันอย่างกว้างขวางในสังคม ผู้คนต่างตกใจและงงงันกับพฤติกรรมของผู้หญิงในคลิป ไม่เพียงแต่ดึงความสนใจไปที่สุขภาพจิตของเธอเท่านั้น แต่ยังเตือนให้เราทุกคนใส่ใจปัญหาสุขภาพจิตในสังคมยุคใหม่ให้มากขึ้นด้วย

นักวิจารณ์บางคนเชื่อว่า ผู้หญิงคนนั้นอาจกำลังประสบปัญหาสุขภาพจิต และพฤติกรรมที่ผิดปกตินี้อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความเจ็บป่วยทางจิตของเธอ เหตุการณ์นี้ย้ำเตือนว่าปัญหาสุขภาพจิตถือเป็นความท้าทายทางสังคมที่ไม่อาจมองข้ามได้ ในสังคมยุคใหม่ผู้คนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ต้องเผชิญกับแรงกดดันมหาศาลทั้งจากการทำงาน ชีวิต และแรงกดดันทางสังคม

ปัญหาสุขภาพจิตอาจแสดงออกมาเป็นอาการต่างๆ เช่น วิตกกังวล ซึมเศร้า ความไม่มั่นคงทางอารมณ์ และในกรณีที่รุนแรงอาจนำไปสู่พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมด้วย อย่างไรก็ตาม ปัญหาสุขภาพจิตมักถูกสังคมมองข้าม เพราะปัญหาสุขภาพจิตต่างจากปัญหาสุขภาพกายตรงที่ซ่อนเร้นและยากต่อการมองเห็นและเข้าใจ ส่งผลให้ผู้ป่วยจำนวนมากเกิดความกลัวหรือไม่รู้จะขอความช่วยเหลืออย่างไร