“พรเพชร” เชื่อ ส.ว.เลือก นายกฯ คนใหม่ คำนึงถึงความมั่นคงของสภาฯ – ดูพรรคการเมืองฟอร์มทีม ไม่มองวาระ “บิ๊กตู่” นั่งนายกฯ กี่ปี เตือน “ส.ว.” ออกตัวแรง ระวังถูกร้องหลุดตำแหน่งได้
2 ม.ค. 65 – นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ถึง ข้อครหาเกี่ยวกับอำนาจส.ว.ที่มีสิทธิ์เลือกนายกรัฐมนตรี ในการเลือกตั้งครั้งหน้า หลายคนมองว่า ตอนนี้ ส.ว.แบ่งออกเป็นฝ่ายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และฝ่ายของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า
เป็นธรรมดาของสังคมหรือของวุฒิสภา คงจะไปบอกว่าทุกคนเหมือนกันหมดไม่ได้ เพราะทุกคนต่างมีความคิดเห็น ซึ่งตนเชื่อว่าสมาชิกย่อมมีความเห็นแตกต่างกัน ต้องไปดูตอนลงคะแนน และก่อนที่จะลงคะแนนเขาจะมีเสียงออกมาชัดเจน ซึ่งมีน้อยคนที่จะแสดงความชัดเจนในตอนนี้ เพราะคงไม่อยากไปขัดแย้งอะไร และเราก็พูดไม่ได้
“คนเป็นประธานฯ ยิ่งไปบอกไม่ได้ว่า คุณจะเลือกอะไร ตอนนี้คุณเห็นพรรคไหนดี หรือถ้าคะแนนไม่ถึง แล้วพรรคนี้เขาได้ และคุณจะสนับสนุนหรือไม่ ถ้าโดยหลักการก็ต้องพูดอย่างนั้นว่า วุฒิสภามีหน้าที่ที่จะดูว่า ประเทศชาติเราจะเดินหน้าได้อย่างไร ”นายพรเพชร กล่าว
เมื่อถามว่า การเลือกนายกฯ จากการเลือกตั้งครั้งหน้าถือเป็นครั้งสำคัญเพราะเป็นครั้งสุดท้ายของส.ว.ชุดนี้ ที่ผ่านมา ส.ว.แทบจะไม่แตกแถวในการเลือกพล.อ.ประยุทธ์ มาเป็นนายกฯ ครั้งนี้จะใช้หลักอะไร หาก 2 ป. ต้องแข่งกัน
ประธานวุฒิสภา กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งแรกเป็นการเลือกคนเดียว แต่การเลือกครั้งใหม่ เท่าที่ตนฟังจากสมาชิกบอกว่า เขาต้องดูก่อนว่าเมื่อเขาเลือกไปแล้วจะมีความมั่นคงในระบบรัฐสภาหรือไม่ อาจจะเป็นความคิดของตนก็ได้ที่ตนได้ยินมาว่า ส.ว.ควรที่จะเลือกให้ระบบรัฐสภาที่มี 2 สภาอยู่ได้ ตาม กฎหหมายที่ให้สมาชิกวุฒิสภาเลือก นายกฯ ได้ ถ้าเราเลือกไม่ดี ไม่ถูกต้อง ก็จะมีผลกระทบ ไม่ว่าส.ว.หรือ ส.ส. ทุกคนก็รักประเทศชาติ และอยากให้ประชาธิปไตยเดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งนี่เป็นความคิด และเป็นความตั้งใจ แต่แน่นอนว่าต้องมีบางท่านที่เขาผูกพันกับความต้องการอย่างไร เขาก็คงต้องยืนตามนั้น
เมื่อถามว่า ที่ระบุว่า ส.ว.จะคิดถึงความมั่นคง ในการเลือกนายกฯ หมายรวมถึงอายุการดำรงตำแหน่งด้วยหรือไม่ นายพรเพชร กล่าวว่า ความมั่นคง อยู่ในขั้นตอนแรกของการเลือกพรรคการเมืองใหม่เข้ามา แน่นอนว่าการเลือกตั้งครั้งใหม่จะต้องมีการฟอร์มรัฐบาลให้ได้เร็ว และรัฐบาลต้องมั่นคง ส.ว.ก็คงต้องมีบทบาท เพราะ ส.ว.ต้องคำนึงถึงว่า สร้างความมั่นคงได้อย่างไร ถ้าไม่มั่นคงก็ยุบสภากันอีก
ดังนั้น อายุการดำรงตำแหน่งของนายกฯก็มีส่วน เพราะคนที่จะเป็นนายกฯได้ สมมติเขาอยู่ในพรรคการเมืองที่ได้เสียง 250 ถึง 255 แล้วมาได้เสียงจากส.ว. โหวต นายกฯ ก็ไม่มั่นคงเท่าไหร่ ถ้าจะให้ดีส.ส.ที่รวมกันต้องมีเสียงมาก ส.ว.เพียงไปช่วยสนับสนุน
เมื่อถามว่า อายุการดำรงตำแหน่งนายกฯของพล.อ.ประยุทธ์ ที่เหลืออีก 2 ปี ถือว่ามั่นคงหรือไม่ นายพรเพชร กล่าวว่า เป็นเรื่องของพล.อ.ประยุทธ์ ตนคงไปวิพากษ์วิจารณ์ไม่ได้
เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าการเป็นนายกฯ 4 ปี กับ 2 ปี จะเป็นตัวเลือกที่ส.ว.ต้องพิจารณาใช่หรือไม่ นายพรเพชร กล่าวว่า ต้องรอดูการฟอร์มของรัฐสภา ตนถึงจะตอบได้ วันนี้ไปด่วนพูดก็ไม่เกี่ยวกับวุฒิสภาเท่าไหร่ อยากให้ส.ส.เป็นผู้พิจารณา
เมื่อถามว่า มองอย่างไรที่มีการระบุว่าถ้าเสียงของส.ส.เกิน 250 แล้ววุฒิสภา ไม่ทำตามส.ส.จะเกิดความวุ่นวาย การพิจารณาต้องคำนึงถึงเรื่องเหล่านี้ด้วยหรือไม่ นายพรเพชร กล่าวว่า เป็นส่วนหนึ่งที่ต้องพิจารณา แต่ต้องดูว่าโครงสร้างของส.ส.นั้น ส.ว.เขาพอใจหรือไม่ โครงสร้างคือพรรคการเมืองสามารถฟอร์มได้ และเรื่องความวุ่นวายก็เป็นสิ่งที่ส.ว.ต้องพิจารณา แต่ถึงตอนนั้นอาจจะไม่วุ่นวายก็ได้ ตอนนี้เราอย่าไปด่วนคิดไปก่อน
เมื่อถามว่า หากฝ่ายค้านชุดปัจจุบันจับมือเป็นเสียงข้างมากในสภา ฯ ส.ว.พร้อมที่จะเลือกนายกฯจากฝ่ายค้านหรือไม่ นายพรเพชร กล่าวว่า ตนตอบไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าฝ่ายค้านที่มารวมกันเป็นอย่างไร และจะไปบอกว่า เขาเป็นฝ่ายค้านปัจจุบันไม่ได้ เขาก็พร้อมที่จะเป็นรัฐบาลทั้งนั้น
ซึ่งในความเห็นส่วนตัว ตนจะดูลักษณะการรวมตัวของพรรคต่างๆเหล่านั้น มีความมั่นคง เป็นพวกกันจริงหรือไม่ แต่ตนก็ลงคะแนนไม่ได้ เพราะตามมารยาทที่ตนทำหน้าที่เป็นประธาน ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยโหวตสักเรื่องเลย ดังนั้น ในส.ว. 250 จึงไม่เคยมีตนอยู่ เหมือนนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ก็ไม่เคยโหวตเลย
เมื่อถามย้ำอีกว่า หากแคนดิเดตนายกฯเป็นคนจากพรรคเพื่อไทย (พท.) ทางวุฒิสภาจะเลือกหรือไม่ ประธานวุฒิสภา กล่าวว่า เรื่องนี้ตนตอบไม่ได้จริงๆ แต่คิดว่ามีคนเลือกแทบทุกพรรค และการโหวตเลือกนายกฯ คิดว่าคราวนี้ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นไปในทางเดียวกัน เสียงย่อมไม่ 100% ตนจึงตอบแทนสมาชิกไม่ได้ เพราะตอนนี้ยังไม่รู้ว่าใครจะลงสมัครแข่งขันเป็นผู้แทนเลย มีเพียงพรรคที่เขามีอยู่แล้วเท่านั้น
เมื่อถามต่อว่า มองอย่างไรที่ขณะนี้มีการรวมเสียงส.ว.ไปอยู่กับพล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร แล้ว ทำให้มีเสียงสนับสนุนถึง 375 เสียง นายพรเพชร กล่าวว่า ตนยังไม่ได้ยินใครจะทำอย่างนั้น แต่เชื่อมั่นว่าไม่มี อย่างไรก็ตามต้องให้พรรคการเมืองฟอร์มให้เห็นชัดก่อน
เมื่อถามต่อีกว่า ช่วงปีใหม่พรรคการเมืองหาเสียงเข้มข้น ในขณะที่ส.ว.ออกมาแสดงท่าทีว่าสนับสนุนใครหรือไม่สนับสนุนใครแล้ว จะทำให้เกิดข้อครหาหรือไม่ นายพรเพชร กล่าวว่า ถ้าเขาทำเช่นนี้ก็ขัดต่อรัฐธรรมนูญ และเป็นอันตรายต่อตัวเขาเอง ที่อาจจะถูกดำเนินการในทางกฎหมาย ถึงขั้นพ้นจากตำแหน่ง