“พรเพชร” พอใจผลงานวุฒิสภา ยอมรับไม่พอใจผลงานปฏิรูปประเทศ ย้ำส.ว.ให้ความสำคัญ ลั่นเดินหน้าเต็มที่ก่อนครบวาระ ยัน ไม่ได้ทำงานตามใบสั่ง
เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 2565 ที่รัฐสภา นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางการทำงานของส.ว. ในปี 2566 ว่า การทำงานของ ส.ว. เหลืออีกปีเศษๆ ก่อนครบวาระ 5 ปี ประสบการณ์ที่ผ่านมา 3-4 ปี จากการทำงานและประสานงานกับส.ส. เพื่อให้ได้กฎหมายที่ดี จะเห็นได้ว่าวุฒิสภามีส่วนในการแก้ไขกฎหมายแทบทุกฉบับ แต่ถ้ามีเรื่องที่มีปัญหามาก อาจจะไม่ผ่าน ก็ต้องยอมรับ
เมื่อถามถึงการปฏิรูปประเทศที่ทางวุฒิสภาต้องดำเนินการ แต่ถูกวิจารณ์ว่ายังไปไม่ถึงไหน นายพรเพชร กล่าวว่า ส่วนนี้เราต้องยอมรับว่า กฎหมายเกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศ มีบางส่วนที่ได้ผ่านไปบ้างแล้ว เช่น เรื่องการปฏิรูปตำรวจ แต่เท่าที่ตนทราบยังไม่เป็นที่พอใจ ส่วนเรื่องพ.ร.บ.การศึกษา ที่จะเข้าที่ประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 10-11 ม.ค.66 นั้น รู้สึกว่าขณะร่างมาก็ยังไม่พอใจ แต่ถ้าเป็นเรื่องที่สั้นหน่อยก็ผ่านไปได้ เช่น กฎหมายการซ้อมทรมาน รวมถึงกฎหมายทำแท้งก็ผ่านไปได้ด้วยดี
เมื่อถามว่า ใกล้ครบวาระ 5 ปี ของส.ว.แล้ว การติดตามเรื่องการปฏิรูปจะไปทางไหน เพราะมีการมองว่า ส.ว. ไม่มีบทบาทเต็มที่ นายพรเพชร กล่าวว่า เรื่องนี้พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภาคนที่หนึ่ง เคร่งครัดมาก ที่จะให้เป็นไปตามแผนปฏิรูปประเทศที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญและในกฎหมาย ซึ่งในส่วนของกฎหมาย ยังไม่เป็นที่พอใจ แต่ในส่วนที่ต้องดำเนินการโดยไม่ต้องใช้กฎหมายก็มีเยอะ ทั้งนี้ เรายังมีเวลาในการดูสิ่งเหล่านี้เพื่อให้ประสบผลสำเร็จ อาจจะไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ต้องได้ผลประโยชน์ตามที่รัฐธรรมนูญเขียนไว้
“เรื่องนี้วุฒิสภาให้ความสำคัญมาก และเท่าที่ผมดู ส.ว.บางส่วนมาจากสภาปฏิรูปประเทศ (สปท.) เขาก็เข้มแข็งและพยายามที่จะดูสิ่งเหล่านี้ และคงต้องดำเนินการต่อไป ถึงแม้จะเป็นช่วงปิดสมัยประชุม และรอรัฐบาลชุดใหม่มา ผมก็บอกกับสมาชิกว่าเราต้องทำงานต่อ แม้ว่างานด้านนิติบัญญัติจะยังทำไม่ได้ เพราะสภายังไม่มี
แต่หากมีเรื่องที่สำคัญจริงๆ ก็สามารถให้มีการเปิดสภาได้ในบางขั้นตอน แต่ก็ยาก จึงต้องไปเน้นในเรื่องการปฏิบัติ เช่น ปฏิบัติต่อหน่วยราชการต่างๆ รับฟังความคิดเห็นของประชาชนซึ่งต้องอยู่ในขอบเขตจำกัด และต้องหยุดไปก่อน เพราะพรรคการเมืองต่างๆ หาเสียงกัน เมื่อได้สภาใหม่เราค่อยดำเนินการไปหาประชาชนต่อ” นายพรเพชร กล่าว
เมื่อถามต่อว่า พอใจกับผลงานของวุฒิสภาตลอดปี 65 รวมถึงการทำงานในฐานะประธานวุฒิสภาหรือไม่ นายพรเพชร กล่าวว่า ตนประเมินว่าทำได้ดี อาจมีที่ถูกวิจารณ์ว่าไม่ผ่าน โดยมีเฉพาะกฎหมายรัฐธรรมนูญ ผ่านไปเพียงเรื่องระบบเลือกตั้ง จึงเป็นเรื่องที่ต้องพัฒนากันต่อไป ซึ่งตนก็ยอมรับว่า ประชาชนหรือผู้ที่เห็นว่ากฎหมายที่ไม่ผ่านเป็นต้นเหตุมาจากรัฐธรรมนูญ ที่ให้อำนาจส.ว. 1 ใน 3 จริงๆ แล้วบางครั้งที่กฎหมายไม่ผ่าน ก็ไม่ได้เกี่ยวกับเสียงส.ว. 1 ใน 3 เพราะบางครั้งเสียงส.ว.ก็ไม่ให้ผ่านเลย
เมื่อถามว่า เสียงส.ว.ที่ไม่ให้กฎหมายผ่าน เป็นเพราะส.ว. มาจากการแต่งตั้งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หรือไม่ นายพรเพชร กล่าวว่า เมื่อตนมาเป็นประธานวุฒิสภา หลายคนเข้าใจว่าตนสามารถสั่งการได้ แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ สมาชิกเลือกตนมาในแง่ที่ตนมีประสบการณ์เรื่องนิติบัญญัติ ตั้งแต่สมัยอายุยังน้อย จึงไว้วางใจให้ตนทำงานด้านนี้ แต่ตนมั่นใจว่าส.ว.ไม่ไปทางเดียวกันตลอด