ผู้ว่าฯ ภูเก็ตผ่อนคลายมาตรเข้าจังหวัด ยกเลิกผลตรวจโควิด ยกเลิกลงทะเบียนออนไลน์ ตั้งแต่ 16 พ.ย.เป็นต้นไป ให้โหลดแอพหมอพร้อม แสดงเมื่อเรียกตรวจ
เมื่อวันที่ 15 พ.ย.64 นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ตามที่จังหวัดภูเก็ต มีคำสั่งที่ 6245/2564 ลงวันที่ 11 ตุลาคม 2564 เรื่อง มาตรการตรวจคัดกรองการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต ตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 มีผลตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค.64 เป็นต้นไปนั้น เพื่อผ่อนคลายมาตรการและเร่งฟื้นฟูการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมควบคู่ไปกับมาตรการทางด้านสาธารณสุข
ดังนั้น เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการบริหารจัดการด้านสาธารณสุขอย่างมีประสิทธิภาพ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต ตามมติที่ประชุมครั้งที่ 61/2564 เมื่อวันที่ 13 พ.ย.64 จึงลงนามคำสั่งจังหวัดภูเก็ตวันที่ 15 พ.ย.64 แก้ไขเพิ่มเติม คำสั่งจังหวัดภูเก็ตที่ 6245/2564 ลงวันที่ 11 ต.ค.64 ดังนี้
ข้อ 1 ให้ยกเลิกความในข้อ 3 ของคำสั่งจังหวัดภูเก็ต ที่ 6245/2564 ลงวันที่ 11 ต.ค.64 เรื่อง มาตรการตรวจคัดกรองการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต ตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
ซึ่งรายละเอียดความในข้อ 3 คำสั่งที่ 6245/2564 ที่ยกเลิกคือได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธีการ RT-PCR หรือ ATK ที่ยืนยันผลเป็นลบจากสถานพยาบาล หรือห้องปฏิบัติการ และสามารถนำชุดตรวจ ATK ที่ได้มาตรฐานการรับรองจาก อย.ไปตรวจกับสถานพยาบาล หรือห้องปฏิบัติการ หรือ รพ.สต.นำผลยืนยันเป็นลบมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ใช้ยืนยันผลได้ครั้งละไม่เกิน 7 วัน
ข้อ 2 ให้ยกเลิกความในข้อ 4 ของคำสั่งจังหวัดภูเก็ตที่ 6245/2564 ลงวันที่ 11 ต.ค.64 เรื่อง มาตรการตรวจคัดกรองการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต ตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รายละเอียดความในข้อ 4 ของคำสั่งจังหวัดภูเก็ต ที่ 6245/2564 คือให้ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นหมอพร้อม และลงทะเบียนออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.gophuget.com เพื่อแจ้งข้อมูลในการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ตล่วงหน้า และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
4.ให้ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น ‘หมอพร้อม’ และแสดงเมื่อเจ้าหน้าที่เรียกตรวจ”
หากผู้ใดฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งฉบับนี้ อาจเป็นความผิดตามมาตรา 51 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือมาตรา 52 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับแห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 และอาจได้รับโทษตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548
ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 16 พ.ย.64 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
ที่มา มติชนออนไลน์