นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ทีมในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ กำลังจะได้เจ้าของคนใหม่ หลังจากที่ กองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะ (Public Investment Fund – PIF) จากซาอุดีอาระเบีย สามารถพิสูจน์ต่อ พรีเมียร์ลีก ได้ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับรัฐซาอุดีอาระเบีย ที่ถูกกล่าวหาเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชน
การเข้าซื้อกิจการ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ของกลุ่มทุนจากซาอุดีอาระเบียใกล้จะได้ข้อสรุป เมื่อ พรีเมียร์ลีก เตรียมอนุมัติในอีก 24 ชั่วโมงข้างหน้า โดย PIF จะเป็นผู้จัดหาเงิน 80% ของกลุ่มทุนที่มี อแมนดา สตาเวลีย์ นักการเงินเจ้าของ PCP Capital Partners บริษัทที่ปรึกษาด้านการลงทุน และมหาเศรษฐีพี่น้องรูเบน ร่วมอยู่ด้วย เพื่อใช้เป็นทุนในการเทกโอเวอร์ 300 ล้านปอนด์ (ประมาณ 13,760 ล้านบาท)
แม้รัฐบาลซาอุดีอาระเบียจะถูกกล่าวหาว่าละเมิดสิทธิมนุษยชน จากการคุกคามผู้เห็นต่างและผู้นับถือศาสนาต่างนิกาย รวมถึงการจำกัดสิทธิสตรี ฯลฯ แต่ PIF สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นหน่วยงานที่แยกจากกัน ทำให้ปัญหาการละเมิดสิทธิ์ใดๆ ของราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียก็ตาม ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการเทกโอเวอร์ในมุมมองของพรีเมียร์ลีกอีกต่อไป
โดยมกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ที่ทรงดำรงตำแหน่งประธาน PIF ถูกกล่าวหาว่าเป็นคนสั่งประหาร จามาล คาชูจกิ ผู้สื่อข่าวที่มักเขียนวิจารณ์ราชวงศ์ อย่างไรก็ตาม พระองค์ได้ทรงปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว
เป็นที่เชื่อกันว่าการอนุญาตให้มีการเทกโอเวอร์เกิดขึ้น หลังจากซาอุดีอาระเบียยุติข้อพิพาทเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์กับ beIN Sports ซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดพรีเมียร์ลีกในตะวันออกกลาง
ข่าวดังกล่าวจะสร้างความพึงพอใจให้กับแฟนบอล โดยผลสำรวจของกลุ่ม Trust ซึ่งเป็นสาวกของ นิวคาสเซิล แสดงให้เห็นว่า 93% ของสมาชิกเห็นด้วยกับการเทกโอเวอร์
แฟนๆหลายคนต้องการให้ ไมค์ แอชลีย์ เจ้าของปัจจุบันออกจากสโมสรหลังจากบริหารทีมมายาวนาน 14 ปี ซึ่งแฟนบอลเชื่อว่า แอชลีย์ ขาดความทะเยอทะยานและการลงทุนในทีม
อย่างไรก็ตาม ศาลอุทธรณ์คดีการแข่งขันทางการค้า (Competition Appeal Tribunal – CAT) ที่จะตัดสินใจเกี่ยวกับการพิจารณาคดีของ นิวคาสเซิล ที่ฟ้องร้อง พรีเมียร์ลีก เรื่องขัดขวางการเทกโอเวอร์ ในวันที่ 3 มกราคม 2022 นั้น อาจกลายเป็นเรื่องซ้ำซ้อนหากการเทกโอเวอร์ได้รับการอนุมัติ
สำหรับ โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน วัย 36 ปี เป็นมกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย โดยนิตยสาร ซีอีโอเวิลด์ รายงานว่าสมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน ผู้เป็นพระราชบิดาของพระองค์นั้น มีทรัพย์สินราว 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 6.1 แสนล้านบาท