พรีวิว GoPro Hero 13 Black ปรับใหม่หมด ให้ใช้ง่ายขึ้นในงบ 15,900 บาท

Home » พรีวิว GoPro Hero 13 Black ปรับใหม่หมด ให้ใช้ง่ายขึ้นในงบ 15,900 บาท
พรีวิว GoPro Hero 13 Black ปรับใหม่หมด ให้ใช้ง่ายขึ้นในงบ 15,900 บาท

หลังจากที่เปิดตัว GoPro Hero 13 Black และ GoPro Hero รุ่นเล็กในตลาดโลก ล่าสุดกล้องแอ็คชั่นใหม่รุ่นนี้เปิดราคาในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้ว โดยมีราคาดังนี้

  • GoPro Hero 13 Black = 15,900 บาท
  • GoPro Hero 13 Black Creator Edition = 23,900 บาท 
  • GoPro Hero = 7,900 บาท

รอบนี้เรามาดูพรีวิวกล้องใหม่กับ GoPro Hero 13 Black กันก่อนครับ

ดีไซน์ของกล้อง GoPro Hero 13

 

GoPro Hero 13 Black เป็นอีกกล้องที่เปลี่ยนแปลงเยอะ เพราะรอบนี้ออกแบบเพื่อแก้จุดบอดจากรุ่นเดิม โดยเฉพาะเรื่องแบตเตอรี่ เพราะมีการเปลี่ยนรูปแบบตั้งแต่ตัวเครื่องที่สามารถเสียบกับระบบชาร์จไฟด้านข้างที่ทนทาน มีหน้าจอด้านอกขนาดเท่าเดิมและชัดเหมือนเ้ดิม นอกจากนี้ด้านข้างมีปุ่ม Menu ด้านบนมี Quik Capture และด้านหลังมีหน้าจอทัชสกรีนจากที่ได้ทดลองพบว่ามีความแม่นยำ

ด้านล่างเป็นจุดที่เปลี่ยนเยอะ แม้ว่าขาเดิมยังอยู่แต่สามารถออกแบบให้รองรับกับขาตั้งที่เป็นแม่เหล็กด้วยแล้วครับ

จุดเด่นของ GoPro Hero 13

เราขอสรุปให้คุณได้อ่านดังนี้

 batch_line_album_992024_24090_1

  • Slo-Mo สุดคมชัด: ถ่ายวิดีโอ Slo-Mo แบบรัวได้ถึง 13 เท่า ที่ความละเอียด HD 720p (400fps), 5.3K (120fps) และ 900p (360fps)
  • แบตเตอรี่อึดขึ้น: แบตเตอรี่ใหม่จุมากขึ้น 10% และแบตเตอรี่ Enduro ประหยัดพลังงาน ให้คุณถ่ายได้นานขึ้นในทุกสภาพอากาศ
  • ยึดติดง่าย: ขายึดสลักแม่เหล็กแบบ Snap and Go เพิ่มความสะดวกในการติดตั้งกล้อง
  • Wi-Fi 6 เร็วขึ้น: ถ่ายโอนไฟล์ไวขึ้นถึง 40%
  • วิดีโอ HDR ระดับมืออาชีพ: บันทึกวิดีโอ HDR แบบ HLG 10-bit เพื่อภาพที่สวยงามและสมจริงยิ่งขึ้น
  • ปรับแต่งเสียงได้: เลือกการตั้งค่าเสียงที่เหมาะกับสถานการณ์ของคุณ
  • GPS + Performance Stickers: ติดตามและแสดงข้อมูลการเคลื่อนไหวของคุณบนวิดีโอ
  • และอื่นๆ อีกมากมาย: ตั้งค่าสำเร็จรูป QuikCapture ที่พัฒนาขึ้น และฟีเจอร์อื่นๆ อีกเพียบ

นอกจากนี้ยังตอบสนองในเรื่องการถ่ายภาพต่อเนื่องโดยการกดปุ่ม Quik Capture พอกดหยุดสามารถกดต่อได้ โดยกล้องจะมีการนับ 5 วินาที กดต่อได้ ทันที และถ้าต้องการเข้ากล้องต่อ กดปุ่ม Power Button ได้เลย

 

นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์เสริมดังนี้

เลนส์ HB-Series

สำหรับ GoPro ใหม่นี้จะมีการเพิ่มเลนส์ออกมาในกลุ่มของ HB-Series ด้วยครับ ในรอบนี้จะแบ่งออกเป็นชุดเลนส์ดังนี้

batch_hero13_anamorphic-tile

  • Ultra Wide Lens Mod (3,900 บาท): เปลี่ยน HERO13 Black ให้เป็นกล้อง POV ที่ดีที่สุดด้วยการจับภาพได้มากขึ้นในทุกช็อตด้วยมุมมองภาพ 177° และอัตราส่วนภาพใหม่ 1:1 ช่วยให้คุณมีมุมมองภาพมากขึ้นและมีความอิสระในการครอบตัดฟุตเทจของคุณเป็นภาพแบบจอกว้าง 16:9 หรือแนวตั้ง 9:16 ไม่ว่าจะติดตั้งกล้องอย่างไรก็ตาม และเลนส์นี้ยังเพิ่มประสิทธิภาพ HyperSmooth สูงสุดสำหรับการกันสั่นวิดีโอด้วยการล็อกแนวเส้นขอบฟ้า 360° ในตัวกล้อง ที่ความละเอียดสูงสุด 4K60
  • Macro Lens Mod (5,000 บาท): ขยายขอบเขตความคิดสร้างสรรค์ด้วยการปรับโฟกัสของวัตถุที่อยู่ไกลและวัตถุที่อยู่ใกล้กว่าเลนส์ GoPro มาตรฐานถึง 4 เท่า วงแหวนโฟกัสแบบปรับได้ช่วยให้คุณสามารถปรับระยะโฟกัสได้ด้วยตนเองจากระยะใกล้สุดถึง 11 ซม.
  • Anamorphic Lens Mod (ราคาไม่ยังระบุ): บันทึกภาพวิดีโอมุมกว้างพิเศษสุดอาร์ตโดยมีความผิดเพี้ยนน้อยกว่ามุมมองภาพมุมกว้างแบบดั้งเดิมในอัตราส่วน 21:9 อันน่าทึ่ง เหมือนกับที่เห็นในภาพยนตร์ต่าง ๆ เลนส์แฟลร์ระดับภาพยนตร์เพิ่มความโดดเด่นให้กับภาพวิดีโอของคุณ ส่วนคุณสมบัติ “บีบภาพ” ในกล้องช่วยให้คุณบันทึก รีวิว และตัดต่อคอนเทนต์แบบ Anamorphic ได้โดยไม่ต้องอาศัยกระบวนการโพสต์โปรดักชันที่ยุ่งยาก
  • ฟิลเตอร์ ND ชุด 4 ชิ้น (2,700 บาท): สร้างโมชั่นเบลอระดับภาพยนตร์ให้กับช็อตอย่างง่ายดายด้วยฟิลเตอร์ตัดแสง (ND) จาก HB-Series ได้แก่ ND4 / ND8 / ND16 / ND32 เพียงติดตั้งฟิลเตอร์แล้ว HERO13 Black จะตรวจจับฟิลเตอร์นั้น สลับเป็นโหมดวิดีโอ Auto Cinematic และปรับไปใช้การตั้งค่าที่ดีที่สุดตามสภาพแวดล้อมโดยอัตโนมัติ

สำหรับการวางจำหน่ายUltra Wide Lens Mod, Macro Lens Mod และฟิลเตอร์ ND ชุด 4 ชิ้นจำหน่ายแยกจาก HERO13 Black และสามารถสั่งซื้อล่วงหน้าได้แล้วที่ GoPro.com การจัดส่งสินค้าที่สั่งซื้อล่วงหน้าและการจำหน่ายในร้านค้าปลีกทั่วโลกจะเริ่มในวันที่ 10 กันยายน Anamorphic Lens Mod จะวางจำหน่ายในปี 2025 

สำหรับใครที่สงสัยว่า Max Mods 2.0 เดิมสามารถใช้ได้ไหม ล่าสุดเราได้สอบถามมาแล้วพบว่า สามารถใช้งานได้แต่ไม่มีระบบ Auto Detect มาให้ อย่างไรก็ตาม Media Mods ของเดิมยังคงใช้ได้กับ GoPro Hero 13 Black

แบตเตอรี่ใหม่

batch_si10349_240626_falllaun

แบตเตอรี่ Enduro 1900mAh ที่มีความจุมากขึ้น 10% ผสานกับประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ได้รับการปรับปรุงและช่องใส่แบตเตอรี่ที่ออกแบบใหม่เพื่อให้ใช้งานได้นานขึ้นในทุกสภาวะ HERO13 Black บันทึกต่อเนื่องได้นานถึง 1.5 ชั่วโมงในความละเอียดสูงสุด 4K30 และการตั้งค่า 5.3K30 รวมถึงบันทึกต่อเนื่องได้นานกว่า 2.5 ชั่วโมงในคุณภาพระดับ HD 1080p30

นอกจากนี้ยังมีชุดแม่เหล็กสำหรับเสียบชาร์จไฟเหมาะกับคนที่ต้องการถ่ายระยะเวลายาวนาน โดยราคาของสายนี้อยู่ที่ 3,100 บาท ซึ่งสายนี้สามารถต่อได้ทั้งชาร์จไฟและถ่ายโอนข้อมูลได้ด้วย ดังนั้นใครที่บ่นเรื่องเสียบแล้วโดนน้ำหรือกล้องชื้นอยู้ หมดปัญหาสำหรับเรื่องนนี้ได้เลย

 

ยึดกล้องแบบใหม่แบบสับ

batch_si10363_150_creators_ed

สลักแม่เหล็กรุ่นใหม่ (950 บาท) และขายึดกล้องข้อต่อกลม (1,500 บาท) จะให้วิธีที่รวดเร็วที่สุดในการสลับ HERO13 Black ไปยังอุปกรณ์ยึดต่าง ๆ อุปกรณ์เหล่านี้เข้ากันได้กับขายึดกล้อง GoPro ที่มีอยู่ทั้งหมด และใช้ระบบสลักคู่แบบถอดเร็วเพื่อยึดกล้องให้แน่นหนา เพียงใช้นิ้วกดเพื่อปลดล็อกและเปลี่ยนขายึด หรือจะกลับด้านกล้องแบบ 180° เพื่อเปลี่ยนมุมมองก็ได้

ความประทับใจหลังจากที่ได้ลอง

batch_line_album_992024_24090_4

สำหรับส่วนนี้เราได้ทดลองแบบสั้นๆ พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงเยอะทั้งการออกแบบและฟีเจอร์ของตัวเครื่องที่สามารถใช้งานได้ง่ายมากขึ้น แต่น่าเสียดาย ที่ต้องบอกว่า สเปกเซนเซอร์ยังไม่มีการปรับอะไรสักเท่าไหร่ นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงที่ทำให้ถ่ายวิดีโอได้นานกว่ารุ่นเดิม แต่เรื่องที่เหลือที่ไม่ได้บอกต้องรอกล้องมาทดลองในภาครีวิว ทั้งนี้จะต้องบอกว่าสเปกของกล้อง GoPro Hero 13 Black รุ่นใหม่ล่าสุด

สำหรับการสัมผัสกล้อง GoPro Hero รออ่านได้อีกไม่นานหลังจากนี้

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ