พระยันไม่ออกจากหมู่บ้าน ถีบผญบ.เพราะอยากสั่งสอน เผยยอมรับอยู่ในวัดไม่ได้ เพราะมีแต่ความอิจฉา จึงออกเดินมาพำนักภายในพื้นที่ป่าสงวน
วันที่ 18 ก.พ. 65 นายสมพร จันอุด ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วยพระครูวิบูลย์ ธรรมวัฒน์ เจ้าคณะอำเภอเขาสวนกวาง และพระมหาชัชวาล ฐิตะคุโณ เลขาธิการเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น รวมทั้งพ.ต.อ. นัฏฐ์ วันเพ็ญ ผกก.สภ.เขาสวนกวาง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ฝ่ายปกครองและผู้นำชุมชน เดินทางเข้าพบครูบาจอน ที่พำนักอยู่ในที่พักสงฆ์ภายในพื้นที่ป่าสงวน โคกภูบ้านดง พื้นที่บ้านโนนหัวช้าง ม.8 ต.โนนสมบูรณ์ อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น
เพื่อแจ้งถึงความจำเป็นให้ทราบว่า ชาวบ้านให้ครูบาจอนออกนอกพื้นที่ เนื่องจากมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เพราะไม่รับกิจนิมนต์และไม่ยอมให้ชาวบ้านใส่บาตร รวมถึงทำร้ายร่างกายผู้ใหญ่บ้านด้วย โดยในขณะที่มีการพูดคุยเจรจากันนั้น พระจอนก็เตรียมที่จะเก็บของออกไป แต่ก็ไม่ได้ไปเพราะต้องให้ทางต้นสังกัดพิจารณาก่อน จึงจะอยู่ที่นี่ต่อ และยังให้ผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านทั้งหมู่บ้าน เข้ามาขอขมาตนด้วย
ขณะที่ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยนาทีพระจอนเดินบนถนนภายในหมู่บ้าน ตรงเข้าไปที่ศาลากลางบ้านโนนหัวช้าง ม.8 ต.โนนสมบูรณ์ เข้าไปใช้เท้ากระโดดถีบเข้าที่อกของผู้ใหญ่บ้าน คือ นายวิเชียร สุขศรี อายุ 59 ปี ผู้ใหญ่บ้านโนนหัวช้าง จนหงายหลังท่ามกลาง ผอ.โรงเรียนและชาวบ้าน
จากนั้นพระจอนได้วิ่งออกจากศาลากลางบ้าน แต่มีชาวบ้านและผู้ช่วยใหญ่บ้านวิ่งไปจับตัวไว้ได้ จากนั้น ในภาพจะเห็นว่าหลังจากที่ถูกถีบล้ม ผู้ใหญ่บ้านลุกขึ้นได้ตามไปทำร้ายพระจอนที่กลางถนนจนหมอบลงไป ซึ่งภาพนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยทั้งคู่ได้เดินทางไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.เขาสวนกวาง เรียบร้อยแล้ว
ครูบาจอน อายุ 38 ปี กล่าวภายหลังทราบรายละเอียดจากพระมหาชัชวาล ฐิตะคุโณ เลขาธิการเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น และผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดขอนแก่น ว่า รู้ตัวว่าทำไม่ถูกต้อง เพราะเป็นพระ ไม่ควรทำเช่นนั้น แต่ถ้าไม่ทำเช่นนี้ก็ไม่ได้สั่งสอนผู้ใหญ่บ้าน เพราะผู้ใหญ่บ้าน นิ่งเฉยกับการตัดไม้ เผาทำลายป่า
ยอมรับว่าบวชที่วัดหลวงตามหาบัว ธรรมเจดีย์(วัดป่าหินร้อยก้อน) อ.หนิงวัวซอ แต่อยู่ในวัดไม่ได้ เพราะมีแต่ความอิจฉา จึงออกเดินเท้าสำรวจป่าไม้ในพื้นที่ เนื่องจากได้สำรวจพื้นที่ป่าในแผนที่แล้วพบว่า ที่ป่าสงวนโคกภู พื้นที่ตำบลโนนสมบูรณ์ อ.เขาสวนกวาง นั้นป่าโล่ง ไม่มีความเขียวชอุ่ม จึงเดินเท้ามาเรื่อย ๆ จนมาถึงที่โคกภู
ซึ่งตลอดระยะทางที่เดินผ่านมา พบการตัดไม้ ทำลายป่ามาตลอดทาง เมใอมาพำนักที่ที่พักสงฆ์ป่าโคกภู ก็พบชาวบ้าน ตัดเอาไม้ไปเผาถ่านขาย ลักลอบเผาป่า ห้ามหลายครั้งก็ไม่ฟัง จึงเกิดความคิดว่า ต้องเริ่มเปิดประเด็นจากตัวผู้ใหญ่บ้าน จึงได้เข้าไปคุยกับผู้ใหญ่บ้านเพื่อขอรายชื่อของคนที่เกี่ยวข้องกับการตัดไม้ แต่ผู้ใหญ่บ้านไม่ให้ความร่วมมือ จึงใช้เท้าถีบผู้ใหญ่บ้านดังกล่าว