พระมหาสมปอง แจงร้องไห้กลางไลฟ์เพราะอึดอัด – ศรีสุวรรณ ไม่เห็นด้วยจะถูกจับสึก

Home » พระมหาสมปอง แจงร้องไห้กลางไลฟ์เพราะอึดอัด – ศรีสุวรรณ ไม่เห็นด้วยจะถูกจับสึก

“พระมหาสมปอง” ยอมรับอึดอัดทั้งเรื่องจะถูกบุกจับสึก-แม่กำลังป่วย “ศรีสุวรรณ” โผล่เซอร์ไพรส์ บอกไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งที่ใครจะมาจับท่านสึก ชื่นชมเป็นพระที่รับฟังด้วยเหตุผล

วันนี้ (11 ต.ค.) พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต ให้สัมภาษณ์ในรายการ “โหนกระแส” ช่อง 3 ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พร้อมด้วย นายจตุรงค์ จงอาษา นักวิชาการอิสระด้านพระพุทธศาสนา และสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กรณีที่พระมหาสมปองร้องไห้ขณะไลฟ์เพราะถูกกดดันจากบางหน่วยงานที่จ้องจะจับสึกจากการเป็น พส. หรือพระสงฆ์นั้น

พระมหาสมปอง เปิดเผยว่า ไม่ได้รู้สึกกังวล แต่วันที่มีการดราม่าไลฟ์สดร้องไห้นั้น เนื่องจากมารดาซึ่งป่วยอยู่เห็นข่าวดราม่าต่างๆ ที่เกิดขึ้น อีกทั้งยังมีหน่วยงานหนึ่งจะฟ้องร้องพร้อมกับมีกระแสออกมาว่าจะบุกเข้ามาจับสึกในวันนั้น จึงเป็นความรู้สึกอึดอัด พร้อมยืนยันว่ายังคงอยากช่วยเผยแพร่ศาสนาต่อไป

  • #Saveพระมหาสมปอง ติดเทรนด์ หลัง พส.หลั่งน้ำตากลางไลฟ์ ถูกจ้องจับผิด-จะจับสึก

ด้าน นายจตุรงค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เท่าที่ทราบมา พระมหาสมปอง โดนหน่วยงานหนึ่งล่อเป้า 3 เรื่อง คือ ไม่สำรวม, หัวเราะเกินไป, ละเมิดกฎหมาย ซึ่งตนมองว่าเป็นเรื่องแปลกห่วงเรื่องอารมณ์พระเป็นหลัก ปีก่อนในหนังมีพระร้องไห้มีคนโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ปีนี้พระหัวเราะ บางคนก็มองว่าไม่ได้ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าอย่าลืมธรรมชาติความเป็นมนุษย์ อย่ามองพระเป็นเทวดา ขอให้มองเป็นกัลยาณมิตร เป็นคนรุ่นใหม่ผู้เผยแพร่

ขณะที่ นายศรีสุวรรณ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ช่วงท้ายรายการ โดยมองเรื่องนี้ว่า พระมหาสมปอง ไม่ควรถูกสึก ตนชื่นชมพระมหาสมปองเป็นพระที่ควรรักษาไว้ซึ่งตัวแทนของพระพุทธศาสนาในไทย มีวัตรปฏิบัติ มีบุคลิกที่ไม่ควรสึก เพียงแต่บางสิ่งอาจไม่เป็นที่พออกพอใจของใครหลายคน ก็เป็นเรื่องปกติ บางครั้งที่ตนมองว่าไม่เหมาะสม ตนก็ท้วงติงท่าน ท่านก็รับฟังด้วยดี ใครที่จะไล่ท่าน ตนไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง

ทั้งนี้ เนื้อหาการสนทนาในรายการมีดังต่อไปนี้

มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมสองวันก่อน พระอาจารย์พูดระบายความรู้สึกกับฝั่งพระมหาไพรวัลย์?

พระมหาสมปอง : จริงๆ จะไลฟ์ธรรมดานี่แหละ ขำๆ กัน พูดไปพูดมา เรามีข่าวจากน้องนุ่ง เราก็มีสายว่าจริงๆ เมื่อคืนต้องมีการบุกมาจับสึกจากองค์กรนึง ซึ่งองค์กรนั้นเราไปบรรยายบ่อยด้วยนะ แต่ยังไม่ได้กรองนะ ได้ยินมา ก็เฉยๆ วันนึงก็โทรหาเลขาฯ เหมือนไปโพสต์อะไรเกี่ยวกับเสื้อ เขาก็คิดง่ายๆ ว่าขายได้แล้วแบ่งส่วนหนึ่งมาให้ท่านทำบุญ คิดว่าหล่อแล้ว ดีแล้ว แต่จริงๆ มันไม่ได้ไง ผิดกฎ ตื่นเช้ามาน้องคนนึงก็โทรมา แอดมินมี 5 คนเยอะไปหน่อย ก็เรื่องราวเดียวกัน ถ้าเราโพสต์เองก็ผิด แต่ถ้าแชร์มาไม่ผิด ก็ไม่เป็นไร คงเป็นเลขาฯ เรานี่แหละ เราก็ด่าน้องไป ก็ขึ้นๆ นิดนึงเหมือนกัน ก็มีหลายเรื่องหลายราว มีเรื่องสำรวม เรื่องหัวเราะยังมีอยู่ เรื่องธรรมวินัย เรื่องหลายๆ อย่าง อาตมาเลยบอกว่าก็ตกผลึกมาแล้วกัน กฎหมายดิจิทัล กฎหมายคณะสงฆ์ พูดไปพูดมาก็เริ่มอึ๊กๆ ขึ้นมา แต่อาตมาไม่รับนะ อาตมาไม่ได้ร้องไห้ น้ำตาไม่ได้ไหล เป็นน้ำรอระบาย ปกติดูอะไรซึ้งๆ ก็น้ำตาไหล อย่างน้าเน็กบอกให้กดหัวใจให้ท่านหน่อย เรานั่งดูนิ่งๆ แป๊บเดียวก็จะมาแล้ว อาตมาไปนั่งคุยในรายการกับน้าเน็ก เราตรงเวลาที่สุด อย่าทำอะไรพี่หนุ่มเลย อาตมาผิดเอง ผิดอีกแล้ว สำนึกแล้วที่มาสาย อาตมาไม่ดื้อ อาตมาปฏิเสธคนไม่เป็น (หัวเราะ) ท่านไพรวัลย์ก็แซวว่าถ้าจะเอาลูกเพจผมไปก็ไม่ต้องทำแบบนั้น ไม่ต้องทำเป็นร้อง ก็แซวๆ มันอึ๊กๆ สองครั้ง เราเป็นพระเราเข้มแข็งอยู่แล้ว พอท่านพูดว่าไม่เคยย้ายไปจากโรงเรียนอื่นก็อึก ก็บอกตัวเองอย่าร้อง เดี๋ยวมันเสียฟอร์มอยู่

สรุปตอนนี้ในมุมพระอาจารย์ สืบแน่ชัดหรือยังว่าหน่วยงานนี้จะจับพระอาจารย์สึก?

พระมหาสมปอง : ก็น้องเราบอกมา

ไปทำอะไรผิดมา หน่วยงานนี้ต้องเอาพระอาจารย์สึก เรื่องขอบริจาคน้ำท่วม เกี่ยวมั้ย?

พระมหาสมปอง : ไม่นะ อันนั้นผ่านมาแล้ว เราไม่กล้าขึ้นอย่างนั้นอีกเลย ดูจากพระมหาไพรวัลย์ที่บอกว่าอย่าหน้าใหญ่ใจโตประกาศ อยากทำอะไรเราก็ไปทำ ไม่ต้องขึ้นเป็นทางการ เพราะมันมีเรื่องกฎหมาย อาตมาคือน้องไปด้วย ก็ประกาศเป็นทางการ แต่ที่ไปไม่เกี่ยว วันนั้นสองชั่วโมงสนุกสนานช่วยคน แต่ตอนท้ายๆ เรามีการแซวเอามาตบกบาลหน่อยซิ (หัวเราะ) ก็เป็นประเด็นนิดนึง เราว่าเวย์เราเล็กๆ นะ สมมติเดือดร้อนสักพันแห่ง ก็ช่วยได้ 5 แห่งหรือเปล่า เป็นกลุ่มเล็กๆ ไม่น่าขัดหูขัดตาขัดใจใคร เราน่าจะไปในนามคณะสงฆ์แหละ

เป็นไปได้มั้ยพระอาจารย์แซะเรื่องการเมือง เขาหมั่นไส้ หรือไม่เกี่ยวเรื่องนี้?

พระมหาสมปอง : ไม่เกี่ยวหรอก ไม่แซะนานแล้วนะ ตั้งแต่มาออกครั้งก่อน เราไม่ได้พูดถึงนานแล้ว

ที่พูดในไลฟ์อยากให้ทำอะไรก็ทำ อยากให้แก้ไขก็แก้ หมายถึงใครบอกให้แก้?

พระมหาสมปอง : เอาตรงๆ ไม่ได้คิดถึง มส. มหาเถรสมาคมเลย จริงๆ ไม่ได้คิดถึงพระมหาเถระเลยนะ แต่ท่านไพรวัลย์ก็แย้งๆ นิดนึง พอบอกเป็นลูกท่านหลานท่านเขาก็คิดถึงพระมหาเถระแหละ แต่เราไม่ได้คิดถึงจริงๆ เราหมายถึงใครก็ได้ที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาเรา เราเหมือนลูกหลาน ทีมงานก็เหมือนน้อง ถ้าเราผิดพลาดอะไรเขาก็น่าจะบอกเรา แต่คนบอกเราคือ พี่ๆ น้องๆ ที่นิมนต์เราไป เป็นห่วงเรา จะรู้ข้อมูลตรงนี้ เราคาดหวังว่าสำนักพุทธฯ น่าจะช่วยเรานะ เราคือลูกหลานท่าน อย่ามาด่าพระเณร อะไรไม่ถูกต้องมาแนะนำเรา บอกเรา เราก็ไม่ดื้อ ไม่ให้กดกระดิ่งก็ไม่กด ไปกดเอฟเฟกต์แทน อะไรแบบนี้

คนที่จะสึกพระอาจารย์ได้คือท่านเจ้าอาวาสวัดสร้อยทองเท่านั้น?

พระมหาสมปอง : จริงๆ ถ้ามีคำสั่งจากเบื้องบนกว่านี้ก็ได้ เหมือนมีคนชงไป อาจารย์ยังถามว่าเราจะยังไงต่อ

สำนักพุทธฯ แจ้งมาว่าเขาไม่ได้มีการสึกพระอาจารย์หรือพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องพระอาจารย์ ประเด็นคือเขาบอกว่าคนสึกพระอาจารย์ได้มีแค่ท่านเจ้าอาวาสวัดสร้อยทอง แต่พระอาจารย์บอกว่าไม่เกี่ยว?

พระมหาสมปอง : ท่านเจ้าอาวาสไม่ได้เข้าข้างเรานะ ท่านไม่ชอบสไตล์เราด้วยซ้ำ ท่านเป็นคนหัวเก่า แต่ท่านก็บอกว่าให้ญาติโยมตัดสินเอง ประโยชน์/โทษอันไหนมากกว่ากัน สำหรับท่าน ท่านกลางๆ ไม่ได้เข้าข้าง แต่ให้ญาติโยมดูเอง ถ้าดีมีประโยชน์ก็แล้วแต่ญาติโยม เดี๋ยวจะหาว่าท่านเข้าข้าง เห็นสำนักข่าวบางที่บอกเอือมระอา เจ้าอาวาสหนุนสอง พส. ซึ่งมันไม่ใช่ ท่านก็เป็นกลาง ท่านเมตตาเราแหละ ให้ญาติโยมตัดสินเอง

มุมนึงเซฟพระอาจารย์ อีกมุมตำหนิ อยากให้สึก บอกว่าไม่น่าเคารพ บอกว่าจะสอดแทรกธรรมก็ไม่มี แถมพูดตลกโปกฮา ขายของต่างๆ นานา?

พระมหาสมปอง : สอดแทรกก็ใส่เยอะไม่ได้หรอก ต้องดูประมาณนึง มันดูที่จังหวะการพูด อย่างเมื่อคืนคุยกับท่านเจ้าคุณสวีเดน พอเนื้อหาสาระ คนก็ออกไปเรื่อย ก็ค่อยๆ เติม ค่อยๆ แซว อาตมาไม่ฉลาดแหละเวลาช่วยเหลือคน อาตมาชอบยื่นหน้ากล้องหน้าอะไร แต่ท่านไพรวัลย์แค่เปิดกล้องมา รับของเสร็จก็คืน ก็เรียนรู้จากน้อง ที่บอกช่วยคนไม่ได้ตังค์ แถมปังปิ๊นาศ ก็มุกหน่อย ช่วงโควิดก็เลียนแบบท่านไพรวัลย์ อาตมาเพิ่งเข้าวงการไลฟ์ เราเริ่มไลฟ์ได้เดือนกว่าเองนะ แบทเทิลพระมหาไพรวัลย์เสร็จ แสงเสียง มารยาทการช่วยคนยังไม่รู้เลย ทุกวันนี้เรียนรู้จากท่านไพรวัลย์

ท่านมหาสมปอง อึดอัดใจบางหน่วยงานจะบุกจับสึก เขาบอกว่าหน่วยงานนี้จะบุกไปจับเลย ทำให้ท่านตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น ถ้ารู้ไปถึงโยมแม่ซึ่งไม่สบาย จะยิ่งไปกันใหญ่ แต่โชคดีที่โยมแม่ไม่ทราบเรื่องนี้?

พระมหาสมปอง : โยมแม่งงๆ เบลอๆ จำอะไรไม่ได้แล้ว ก็ดีเหมือนกัน จริงๆ เราต้องไม่สบายใจแม่อัลไซเมอร์ ตอนนี้อยากให้เป็นแล้วล่ะ

หน่วยงานนี้ยืนยันเขามีสิทธิ์จับพระอาจารย์สึกได้เหรอ?

พระมหาสมปอง : เราไม่แน่ใจ เราก็ไม่ชัด เราได้ยินน้องบอกวันสองวัน แต่น้องเขากรองข้อมูลมั้ย จริงมั้ย ยังไม่รู้ รู้ว่าชาวบ้านอยากรู้ชัดๆ แต่พูดชัดไม่ได้ ถ้าไม่มีก็หมาเลย แต่เราก็ได้ยินอย่างนี้ มันถึงอึดอัด พูดไม่ชัด

อ.จตุรงค์ ในฐานะเป็นผู้คร่ำหวอดทางพุทธศาสนา?

อ.จตุรงค์ : ทราบแล้ว เขามีประวัติจับสึกพระมาหลายหน่วยงาน อย่างคดีธรรมกาย ต้องอธิบาย พ.ร.บ.คณะสงฆ์ ให้อำนาจหน่วยงานรัฐหลายหน่วยงานที่สามารถจัดการได้ หลักๆ ก็ตำรวจ รวมถึงหน่วยงานย่อยต่างๆ ส่วนหน่วยงานที่โชว์ให้ดูเมื่อกี้ มีหลายฟังก์ชั่น เช่น ฟังก์ชั่นที่ดิน ป่าสงวน ซึ่งไม่เกี่ยวกับท่านอยู่แล้ว สุดท้ายมีเรื่องเส้นทางการเงิน เขาคงสงสัยเส้นทางการเงินและอยากตรวจสอบ แต่ถ้าจำนโยบายหน่วยงานนี้ไม่ผิด เขาไม่สามารถรับได้ตราบใดที่วงเงินไม่เกิน 100 ล้านบาท กับอีกวิธี ถ้ายอดเงินไม่ถึง แต่เห็นพ้องต้องกันว่าจะเอา ก็จะเปิดไฟเขียวให้ทำงานได้ ไม่รู้ว่ากรณีท่านสมปอง เป็นอย่างแรกเป็นวงเงินเกิน 100 ล้านโดยอัตโนมัติเลยเป็นคดีของหน่วยงานนี้ หรือสองคณะกรรมการเขาลงความเห็นมาว่าให้จัดการ แต่โดยหลักไม่น่าเป็นไปได้ ถ้าไม่จำเป็นเขาไม่ลงมายุ่ง

เปิดเลยมั้ย?

พระมหาสมปอง : ไม่เอา เผื่อมันไม่ใช่ เราได้ข้อมูลมาน้องก็ไม่ได้กรอง

แต่เป็นเรื่องเสื้อที่เลขาฯ พระอาจารย์เอาไปขายในเพจ แล้วหักเงินให้พระอาจารย์?

พระมหาสมปอง : อาตมาไม่ได้อ่านรายละเอียดด้วยซ้ำ งัวเงียตื่นมา

ได้เท่าไหร่จากเสื้อ?

พระมหาสมปอง : ยังไม่ได้เลย น้องเพิ่งโพสต์

แสดงว่าพระสมปองร้องไห้ อาจเทศน์สนุกสนาน จับสึกก็ไม่ใช่ประเด็นนั้น หรือไปแซะก็ไม่ใช่ มันเป็นเรื่องเลขาฯ พระอาจารย์ลงขายเสื้อ แล้วมีประเด็นตามมาคือหักเงินส่วนหนึ่งให้พระอาจารย์ แต่ยังไม่ได้เริ่ม หน่วยงานเขารู้เขาเห็น เขาเลยบอกว่าจริงๆ คืนนั้นต้องถูกบุกจับเลย อาจารย์จตุรงค์มองยังไง?

อ.จตุรงค์ : ต้องยอมรับความจริงว่ามันมีแรงกระเพื่อมมาที่วัดสร้อยทองหลายหน่วยงาน เอาหน่วยงานตรงๆ ที่พูดได้ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กับมหาเถรสมาคม เขาเคยพูดหลายทีเรื่องการแต่งตั้งเจ้าอาวาส ต้องยอมรับว่ารักษาการเจ้าอาวาสวัดสร้อยทอง ท่านก็เมตตา ดูแลกำกับพระอารามโดยดี แต่ก็มีข่าวว่าผู้ใหญ่บางรูปไม่อยากให้เจ้าคุณราชขึ้น จะเอาเจ้าคุณศรีขึ้น ซึ่งถ้าเห็นข่าววาระที่แล้วที่ประชุมมส.ไป เขาสั่งปลดไปสามวัด แต่คิวแรกที่ต้องโดนจัดการคือวัดสร้อยทอง แต่ด้วยความที่วัดนี้มีพระสมปองกับพระไพรวัลย์อยู่เขาไม่กล้าแตะ แต่ก็ฝากไปถึงมหาเถรสมาคม และสำนักพุทธ ผมไม่เห็นด้วยการตั้งลูกศิษย์เป็นเจ้าอาวาสตัวจริง ใครเป็นอาจารย์ ใครเป็นผู้ใหญ่ของวัดควรให้เครดิตกับเขา แต่ท่านสมปองเท่าที่ทราบ มีล่อเป้าอยู่สามเรื่อง เรื่องแรกคือความไม่สำรวม

พระมหาสมปอง : สำรวมที่สุด

พระร้องไห้ออกสื่อได้มั้ย?

อ.จตุรงค์ : นั่นสิ เป็นเรื่องที่แปลก สองหัวเราะเกินไป สามเรื่องการละเมิดกฎหมาย ประเทศนี้แปลก ห่วงเรื่องอารมณ์พระเป็นหลัก ถ้าจำได้เมื่อปีสองปีก่อน มีพระในหนังเรื่องไห้ เรื่องไทบ้านเดอะซีรีส์ โอ้ย โกรธแค้นเป็นฟืนเป็นไฟ พระร้องไห้ พอมาปีนี้พระหัวเราะเอิ๊กอ๊ากก็ไม่ได้ สังคมนี้มันแปลก พระประเทศนี้หัวเราะร้องไห้ไม่ได้ เป็นเรื่องใหญ่ แต่พระนั่งเบนซ์ มียศศักดิ์ ร่ำรวย รับซองหนาๆ ทำได้ แปลกมั้ย มาห่วงเรื่องพระหัวเราะ ถามหน่อยการที่ท่านสมปอง ท่านรับบริจาคเงินอะไรก็แล้วแต่ ท่านมีเลขบัญชี การที่มีเลขบัญชีหมายความว่ารัฐควบคุม ผ่านช่องทางธนาคารแห่งประเทศไทย แต่คนอยากมาสึกท่านสมปอง มีซองหนาๆ ประเคน มีใครมาตรวจสอบ นี่เล่าให้ฟัง ไม่ว่าตัวเลขบัญชีท่านไพรวัลย์หรือวัดไหนก็แล้วแต่ ธนาคารแห่งประเทศเขาตรวจสอบได้ มีใจเป็นธรรมกันหน่อย

พระมหาสมปอง : ควรสบายใจมั้ย อ.ฟันฉับๆ ไม่รู้จะหาทัวร์มาลงให้อีกหรือเปล่า แต่ท่านก็พูดชัดเจน ชอบตั้งแต่หัวเราะ เทคโนโลยี อย่างช้อนส้อมสมัยนึง อยากให้พระใช้ โยมก็ด่าว่าเป็นของสิ้นเปลือง

เหมือนนั่งอยู่แล้วมีของตั้งอยู่ข้างหน้า?

อ.จตุรงค์ : จริงๆ ไม่ควรทำ แต่พูดแบบกวนประสาท คุณจ่ายค่าน้ำค่าไฟให้ท่านสมปองหรือเปล่า พระก็คืออาชีพนึงต้องยอมรับความจริง ทุกคนเลิกได้แล้วที่จะบอกว่าพระเป็นเทวดามาจากไหน พระก็คือวิชาชีพ วิชาชีพนึง เขาต้องเลี้ยงปากท้องเขา ไม่ว่าจะการเดินบาตร น้ำไฟต้องจ่าย ภาษีก็ต้องเสีย เลิกซะทีมาบอกว่าพระห้ามทำโน่นนี่ อะไรละเมิดวินัยเขาก็ไปปลงอาบัติของเขา ถ้าจะลงนรกก็นรกของเขา ไม่เข้าใจชาวพุทธไทยจะมาเดือดร้อนอะไร ถามว่าอย่างท่านสมปองก็ปลงอาบัติของท่านสิ ผมเชื่อว่าประเทศนี้อยู่ได้เจริญได้เพราะอาบัติ ชมพูทวีปมาประกาศศาสนาบ้านเราได้ยังไง บินมาเหรอ ก็ต้องนั่งเรือ นั่งเกวียนถึงมาประกาศศาสนา ต้องผ่านการอาบัติทั้งนั้น พระต้องอยู่กับอาบัติให้ได้ เราต้องรู้จักปรับปรุงตัวแก้ไข วินัยต้องรักษา ไม่เถียง แต่อะไรไม่ดีต้องปรับปรุง

อ.มีปัญหาหรือทะเลาะสำนักพุทธฯ มั้ย?

อ.จตุรงค์ : ผมเป็นขาประจำ แต่เรียนตรงๆ ว่าสำนักพุทธเขาก็รู้ตัว บางอย่างเราไปบังคับเขาไม่ได้ เมื่อวัดต้องหารายได้ จะให้วัดทุกวัดบนโลกมีแต่ป่าเหรอ มีแต่ต้นไม่เขียวๆ เหรอ เอามั้ยล่ะ เอารถไถทุกวัดให้เอาต้นไม้ไปลงให้หมด มันก็ไม่ใช่ ใครชอบวัดป่าก็ไปวัดป่า ใครชอบวัดบ้านก็ไปวัดบ้าน ใครชอบวัดเสี่ยงโชคก็ไปวัดเสี่ยงโชค ใครชอบวัดบาลีก็ไปวัดบาลี

ท่านสมปอง เหมือนจะหลั่งน้ำตา ผมก็ส่งไลน์ไปหา ให้กำลังใจ จริงๆ ร้องได้?

อ.จตุรงค์ : ได้ ร้องไปเถอะ ถ้าเขาจะอาบัติก็ปล่อยเขา เขามีฟังก์ชั่นปลงอาบัติ

พระร้องไห้คนด่า แต่ทำไมพระพุทธรูปร้องไห้ได้?

อ.จตุรงค์ : ไม่ต้องสนใจวิธีคิด หลายครั้งเราลืมธรรมชาติมนุษย์เกินไป พระอรหันต์ปรินิพพาน พระสาวกหลายรูปก็ร้องไห้ มีใครเก่งไปตามอาบัติให้ที ผมว่าเลอะเทอะและไร้สาระ อย่าไปมองพระเป็นทวยเทพเทวดา มองพระเป็นกัลยาณมิตร สหายธรรม มองเป็นคนรุ่นใหม่ผู้เผยแผ่ดีมั้ย ต้องแยกแยะนะ งานอนุรักษ์ก็ให้ฝ่ายอนุรักษ์นิยมทำไป อยากทำนุบำรุงศาสนาก็ทำไป แต่งานเผยแผ่ต้องให้เสรีนิยมเป็นคนทำ คำถามถ้าเอาคนสองฟากมาทำงาน เอาฝั่งเสรีมาทำนุบำรุงก็พังสิ ถ้าเอาฝั่งอนุรักษ์นิยมไปเผยแผ่ ศาสนาก็ดักดานสิครับ ต้องแบ่งฟังก์ชั่นงานกันให้ชัด ใครอยากอนุรักษ์ไปอนุรักษ์ แต่ถ้างานเผยแผ่ก็ให้เสรีเผยแผ่ จะได้กระจายกว้างไกล ผมเรียนนิดนึง กรรมการมหาเถรสมาคมผมเคยคิดว่าเขาน่าจะเกลียดท่านสมปอง เพราะเขาเป็นฝั่งธรรมยุทธ์ แต่เลขาฯ เจ้าคุณสมเด็จโทรหาว่าเห็นคุณึค่าและประโยชน์ อย่างน้อยสองคนนี้ยังหาฟอลโลเวอร์ได้เป็นล้าน มีคนดูเป็นแสน เราเราซะอีกไปนั่งเทศน์จะมีคนดูเป็นร้อยหรือเปล่า นี่ขนาดมหาเถรสมาคมบางท่านเขาไม่ชอบเขายังเห็นคุณค่า

แต่บางคนบอกว่าไม่ได้ พี่ศรีสุวรรณบอกว่ากรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา ผู้มีแสงในตัว?

อ.จตุรงค์ : ดาวเคราะห์ดาวฤกษ์

พระมหาสมปอง : ไม่ใช่ดาวเคราะห์ดาวฤกษ์ เป็นอะไรนะ (หัวเราะ)

กรณี อ.จตุรงค์พูดอย่างนี้ ถือว่ามีเหตุมีผลมั้ย?

พระมหาสมปอง : อาจารย์ชอบ ท่านดุท่านสอนด้วยซ้ำ มีแต่คำแนะนำดีๆ

ต่อสายหา “ศรีสุวรรณ จรรยา” ไปลงแซะอีกแล้ว กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา?

ศรีสุวรรณ : ก็เป็นผลของการกระทำของท่านมหานั่นแหละครับ ก็ไม่ได้มีนัยยะอะไรหรอกครับ

ถามตรงไปตรงมา ชัดเจน เอาแบบแมนๆ สมควรถูกสึกมั้ย?

ศรีสุวรรณ : ไม่ครับ ท่านเป็นพระที่น่าจะรักษาไว้ ซึ่งตัวแทนของพระพุทธศาสนาในประเทศไทยของเรา ท่านมีวัตรปฏิบัติบุคลิกอะไรหลายอย่างที่ไม่ควรสึก แต่บางอย่างอาจเป็นที่ไม่พอใจของใครหลายคน ก็เป็นเรื่องธรรมดาของสังคมพุทธศาสนา บางครั้งวัตรของท่านบางเรื่องอาจไม่ถูกไม่น่าเหมาะสม ผมก็ท้วงติง ท่านก็รับฟังด้วยดี เชื่อว่าท่านเองนำสิ่งที่ถูกตำหนิติเตียนไปปรับปรุงเพื่อสิ่งที่ดีหรือสิ่งที่เหมาะสม ใครคิดจะไล่ท่านหรือคิดให้ท่านสึกไป ผมไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง

ไม่อยากเชื่อจะได้ยินแบบนี้จากพี่ศรี?

อ.จตุรงค์ : ไม่น่าเชื่อ

ทราบมั้ยหน่วยงานไหนจะจับสึก?

ศรีสุวรรณ : ผมไม่ทราบ ท่านมหาน่าจะรู้ดีมากกว่า แต่ยังน้อยใจ นิมนต์ท่านมาจิบกาแฟ ยังไม่มา ยังไงรับสายผมด้วย

พี่ศรีสุวรรณพูดนะ?

พระมหาสมปอง : ตกใจเลย

อ.จตุรงค์ : เซอร์ไพรส์

พระอาจารย์จะสึกมั้ย เพราะบอกว่าถ้าหมดประโยชน์จะไปเอง?

พระมหาสมปอง : ไม่หรอกครับ ไม่ใช่อาตมา เป็นท่านไพรวัลย์กระซิบบอกอาตมาว่าไม่ได้วอรี่ แม่ก็ไม่สบายอยู่ ทำงานมีคุณค่าก็อยู่แต่ถ้าอยากให้ไปจริงๆ ก็ไม่วอรี่ แต่อาตมาวอรี่อยู่นะ (หัวเราะ) ให้เราทำงานเถอะ ให้เราช่วยคน ดูแลพระพุทธศาสนา ไม่ได้มีส่วนตัวอะไร

อยากบอกอะไร?

อ.จตุรงค์ : ประเทศไทยแปลกอย่างนึง ชี้ให้เห็นชัดๆ อย่างหนังขรัวโต ยอดขายตั๋วไม่ดีนะ แต่ถ้าพระฮาๆ หลวงพี่เท่ง หลวงพี่แจ๊ส หนังขายดีเป็นร้อยล้าน ฝากไว้ให้คิด ถึงแม้ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ตาม ประเทศนี้คิดเยอะ พระร้องไห้ หัวเราะก็คิดเยอะ แต่พระตลกๆ ดันเป็นหนังที่ขายดี พระไม่ตลกซะอีก หนังแป้ก

สควิดเกม?

อ.จตุรงค์ : โอ้ย ประเทศนี้คิดเยอะ หนังตลกขายดี หนังไม่ตลกแป้ก

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ