พระพุทธรูป 300 ปี ศิลปะสมัยอยุธยา ผิวด้านนอกแตกร้าว เพิ่งรู้มีอะไรซ่อนอยู่ข้างใน

Home » พระพุทธรูป 300 ปี ศิลปะสมัยอยุธยา ผิวด้านนอกแตกร้าว เพิ่งรู้มีอะไรซ่อนอยู่ข้างใน
พระพุทธรูป 300 ปี ศิลปะสมัยอยุธยา ผิวด้านนอกแตกร้าว เพิ่งรู้มีอะไรซ่อนอยู่ข้างใน

พระพุทธรูป 300 ปี ศิลปะสมัยอยุธยา ผิวด้านนอกแตกร้าว เพิ่งรู้มีอะไรซ่อนอยู่ข้างใน เป็นเทคนิคของช่างสมัยโบราณ

เฟซบุ๊ก สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสาคร รายงานว่า ตามที่เพจวัดโคกขาม จ.สมุทรสาคร ได้เผยแพร่ภาพพระพุทธรูปในอุโบสถ์เก่าอายุกว่า 300 ปี สมัยกรุงศรีอยุธยา (แต่ปัจจุบันคือ วิหาร) เกิดรอยแตกร้าวที่องค์พระบางส่วน จนทำให้เห็นว่า ด้านในขององค์พระนั้น มีพระพุทธรูปอีกองค์ซ้อนซ่อนอยู่

เมื่อเวลา 16.00 น. ของวันที่ 7 สิงหาคม 2567 ผู้สื่อข่าวได้ไปที่วัดโคกขาม ต.โคกขาม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร โดยพบว่าในส่วนของพระพุทธรูปที่เกิดการแตกร้าวมีจำนวน 3 องค์ ประกอบด้วย พระประธาน 1 องค์ และ พระพุทธรูปรอบๆ พระประธานอีก 2 องค์ โดยรวมพระพุทธรูปเหล่านี้ชาวบ้านเรียกกันมานับแต่ในอดีตว่า “8 อรหันต์” ซึ่งชิ้นส่วนที่แตกร้าวก็ตกไปอยู่ที่ฐานพระและไม่มีการหยิบจับหรือเคลื่อนย้ายใดๆ ส่วนด้านในองค์พระ 2 องค์ที่อยู่รอบพระประธานแล้วเกิดการแตกร้าว จะสังเกตพบว่าเหมือนมีพระพุทธรูปอีกองค์ซ้อนซ่อนอยู่ด้านใน ซึ่งมีลักษณะคล้ายศิลาแลง โดยจะเห็นเศียรพระพุทธรูปอย่างชัดเจน

จากการสอบถามพระลูกวัดโคกขาม และศิษยานุศิษย์ ก็เล่าว่า พระพุทธรูปร้าวเมื่อราวๆ ต้นเดือนที่ผ่านมา และได้มีการสังเกตเห็นว่า มีพระพุทธรูปอีกองค์อยู่ด้านในองค์พระที่แตกร้าว จึงแจ้งไปยังกรมศิลปากรเนื่องจากโบสถ์เก่า หรือวิหารแห่งนี้มีอายุกว่า 300 ปี และขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของกรมศิลปากร อยู่ในความรับผิดชอบดูแลของสำนักศิลปากรที่ 1 ราชบุรี โดยเบื้องต้นได้แจ้งให้ทางกรมศิลปากรทราบแล้ว

ซึ่งทางผู้เชี่ยวชาญก็บอกว่า การสร้างพระลักษณะนี้ มักจะพบอยู่ในช่วงสมัยกรุงศรีอยุธยาเรียกว่าการ “โกลนพระ” โดยองค์พระที่อยู่ด้านในก็จะมีลักษณะใบหน้า รูปร่าง เหมือนกับองค์ที่เห็นอยู่ด้านนอกทุกประการ เพียงแต่ความคมชัดจะต่างกันเท่านั้น องค์ที่อยู่ด้านในจะคมชัดน้อยกว่าองค์ที่อยู่ด้านนอก ซึ่งหลังจากนี้จะเข้ามาสำรวจเพื่อวางแผนบูรณะซ่อมแซม และอนุรักษ์ต่อไป

สำหรับพระพุทธรูปที่อยู่รอบพระประธานในโบสถ์ (วิหาร) แห่งนี้ ล้วนแต่เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ที่อยู่คู่กับโบสถ์มานานกว่า 300 ปีแล้ว ส่วนใหญ่จึงมีรอยแตกร้าว เพราะหากเทียบกับอายุของโบสถ์เก่าหลังนี้ก็มีมาตั้งแต่ พ.ศ.2222 จึงเกิดความชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา

ซึ่งหลังจากนี้ทางพระครูสาครรัตนาภรณ์ เจ้าคณะตำบลมหาชัย เจ้าอาวาสวัดโคกขาม ยังได้สั่งให้ทำที่กั้น กันคนเข้าไปดูองค์พระแบบใกล้ๆ เพราะหวั่นว่าจะทำให้เกิดความเสียหายมากกว่าเดิม พร้อมกันนี้ยังจะได้ของดเว้นการปิดทอง การถวายดอกไม้พวงมาลัยที่องค์พระ เพื่อรอการซ่อมแซมอนุรักษ์จากกรมศิลปากรก่อน แต่ยังเปิดวิหารให้กราบไหว้ได้เช่นเดิม

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ