พรรคเป็นธรรม จัดประชุมใหญ่ ตั้ง”ปุณยวีร์”เป็นเหรัญญิก ด้าน”ปิติพงศ์”ย้ำจุดยืนไม่ร่วมรัฐบาลขั้วอำนาจเดิม จ่อถกกรรมการบริหารฯ 16 ส.ค.พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน
นายปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม พร้อมด้วยนายกัณวีร์ สืบแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม ในฐานะเลขาธิการพรรคฯ เป็นประธานการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรคฯ ที่โรงแรมรอยัลริเวอร์ เขตบางพลัด กรุงเทพฯ โดยมีวาระสำคัญในการรายงาน และรับทราบผลการเลือกตั้ง สส.เมื่อ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา ที่พรรคฯ ได้รับเลือกตั้ง สส.บัญชีรายชื่อ 1 คน คือ นายกัณวีร์ ด้วยคะแนน 180,000 คะแนน พร้อมรับทราบผลงานดำเนินกิจกรรมของพรรคฯ ในห้วงระยะเวลาที่ผ่านมา และแต่งตั้งตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคที่ว่างลง 2 ตำแหน่ง และตำแหน่งเหรัญญิกพรรค 1 ตำแหน่ง
โดยที่ประชุมฯ มีมติเอกฉันท์ให้นางสาวปุณยวีร์ เต็มเจริญ สมาชิกพรรคเป็นธรรม ซึ่งเป็นบุตรสาวของนายปิติพงศ์ ดำรงตำแหน่งเหรัญญิก และกรรมการบริหารพรรคฯ และมีมติเอกฉันท์ให้นายพงษ์ธาริน บุตรทอง สมาชิกพรรคฯ ดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคฯ
นอกจากนั้น ที่ประชุมฯ ยังมีมติแก้ไขข้อบังคับพรรคฯ ที่เกี่ยวข้องกับสมาชิกภาพของสมาชิกพรรคพรรคที่จะสิ้นสุดลง หากคณะกรรมการบริหารพรรค มีมติให้ออก เพราะกระทำผิดวินัย หรือจรรยาบรรณอย่างร้ายแรง หรือไม่ปฏิบัติตามมติของคณะกรรมการบริหารพรรค หรือฝ่าฝืนข้อบังคับพรรค หรือทำให้พรรคเสื่อมเสีย หรือมีเหตุร้ายแรงอย่างอื่น เนื่องจาก ในช่วงการเลือกตั้งนั้น มีสมาชิกพรรค ไปแสดงจุดยืนทางการเมืองที่ไม่สอดคล้องกับอุดมการณ์ของพรรคเป็นธรรม ทำให้พรรคถูกจับตา และถูกกล่าวหาจากฝ่ายความมั่นคงว่า มีนโยบายลักษณะการแบ่งแยกดินแดน
โดยนายปีติพงศ์ ยังยอมรับต่อที่ประชุมด้วยว่า สถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้ ไม่แน่นอน และพรรคเป็นธรรม เป็นพรรคการเมืองขนาดเล็ก สามารถดำเนินกิจกรรมได้ยาก จึงต้องมีท่าทีทางการเมืองที่ชัดเจน และก่อนหน้านี้ พรรคเป็นธรรมได้รับการรับเชิญจากพรรคก้าวไกลให้ร่วมรัฐบาล แต่ปัจจุบันพรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแล้ว และมีท่าทีที่จะให้พรรคการเมืองขั้วรัฐบาลเดิมเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลด้วย ซึ่งสวนทางกับอุดมการณ์ของพรรคเป็นธรรม ที่ไม่ต้องการร่วมรัฐบาลกับขั้วอำนาจเดิม
และอยากเห็นพรรคการเมืองที่ชนะการเลือกตั้ง ลำดับที่ 1 ควรได้รับตำแหน่งบริหารประเทศ ซึ่งแม้จะต้องใช้เวลาอีก 10 เดือน เพื่อให้สมาชิกวุฒิสภาหมดอำนาจลง พรรคเป็นธรรมก็สามารถรอได้ รวมถึงยังเห็นว่า การต่อรอง และการเจรจาทางการเมืองที่กำลังเกิดขึ้นนั้น ไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อประชาชน และพรรคเป็นธรรม ไม่ได้ยึดติดว่า จะต้องเป็นพรรคร่วมเท่านั้น และในวันที่ 16 สิงหาคมนี้ พรรคเป็นธรรม จะประชุมกรรมการบริหารพรรค เพื่อเตรียมทำหน้าที่ฝ่ายค้านต่อไป โดยยอมรับว่า การเป็นฝ่ายค้านนั้น สามารถทำหน้าที่ได้ยาก แต่ก็จะยังคงสนับสนุนกระบวนการการแก้ไขรัฐธรรมนูญ การกระจายอำนาจ และการคืนความเป็นธรรมให้ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป
นายปีติพงศ์ ยังกล่าวถึงทิศทางการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองของพรรคเป็นธรรม หลังจากที่สามารแจ้งเกิดในการเลือกตั้ง 14 พฤษภาคมที่ผ่านมาได้แล้วว่า ในอีก 4 ปีข้างหน้า พรรคเป็นธรรม จะชนะการเลือกตั้ง สส. แบบแบ่งแขตให้ได้ โดยจะส่งผู้สมัครให้ได้มากกว่า 25 เขตการเลือกตั้งทั่วประเทศ เพื่อให้มีโอกาสสามารถเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี ในที่ประชุมรัฐสภา หรือสภาผู้แทนราษฎรได้ พร้อมเชิญชวนประชาชน ที่ผิดหวังจากพรรคการเมืองเดิมที่ตนเองเคยศรัทธา ก็สามารถมาร่วมงานกับพรรคเป็นธรรมได้