พรรคร่วมรัฐบาลรวมตัว แถลงฉะ “ก้าวไกล” เล่นเกมนับองค์ประชุมไม่สนเรื่องความเดือดร้อนประขาชน “จุลพันธ์” เหน็บคงแตกฉานการเป็นฝ่ายค้านแล้ว ด้าน “อดิศร” ไม่อยากให้เป็นเกมชิงไหวพริบ ส่วน “ภูมิใจไทย” อัด เหมือนเด็กไม่ได้ดั่งใจ ก็ตีโพยตีพาย บอกจะไม่ประมาทก้าวไกลอีก
สส.พรรคร่วมรัฐบาล นำโดยนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย แถลงภายหลังองค์ประชุมล่มว่า ต้องขออภัยพี่น้องประชาชน เนื่องจากเรื่องที่กำลังพิจารณาเกี่ยวกับราคาพืชผลทางการเกษตร สมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลหลายคนเตรียมอภิปรายโดยลงชื่อเกือบร้อยคน แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ไม่สามารถอภิปรายได้ เราเข้าใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้เป็นผลมาจากเมื่อวาน (30 ส.ค.) ที่ฝ่ายค้านเสนอญัตติขอให้สภาพิจารณาเห็นชอบ และแจ้งให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ดำเนินการให้มีการออกเสียงประชามติ
เพื่อสอบถามความเห็นของประชาชนต่อการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งต้องเข้าใจ สส.ฝั่งรัฐบาลว่า เรื่องความเดือดร้อนของประชาชนทางการเกษตร จะถูกแซงไม่ได้ ที่ประชุมจึงมีมติเห็นชอบให้เดินไปตามระเบียบวาระเดิม คงเป็นเหตุให้ฝ่ายค้านอึดอัด อย่างไรก็ตาม เรื่องการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ พรรคเพื่อไทย
ที่นำโดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ประกาศชัดเจนว่าจะดำเนินการนำเรื่องนี้เข้าประชุมในคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นนัดแรกๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องดำเนินการอยู่แล้ว แต่เมื่อการประชุมวันนี้มีการเสนอนับองค์ประชุม แม้จะเป็นกลไกตรวจสอบของฝั่งเสียงข้างน้อย แต่พรรคก้าวไกลที่เสนอนับองค์ประชุมก็ไม่ได้แสดงตนในที่ประชุมจนสภาล่ม ทั้งที่วันนี้ไม่ใช่ญัตติกฎหมาย แต่เป็นเรื่องความเดือดร้อนประชาชน จึงไม่ควรนำการเมืองมาเกี่ยวข้อง โดยสภาครั้งที่แล้ว เราชวนพรรคก้าวไกลนับองค์ประชุมหลายครั้ง ก็ไม่ทำ แต่วันนี้คงแตกฉานการเป็นฝ่ายค้านแล้ว จึงเสนอนับองค์ประชุม
ด้านนายอดิศร เพียงเกษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคที่กำลังจะทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้าน รู้สึกจะขยันขันแข็งเป็นพิเศษ เพราะตนเคยเป็นฝ่ายค้านมาก่อน การนับองค์ประชุมเป็นอาวุธเดียวที่สำคัญของฝ่ายค้าน ตนไม่คิดว่าทางฝ่ายค้านจะใช้อาวุธนี้เร็วจนเกินไป การนับองค์ประชุมหรือการวอล์คเอาท์ ในกรณีที่เป็นกฎหมายสำคัญต่อบ้านเมืองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ในกรณี 11 ญัตตินี้ เป็นผลประโยชน์ของเกษตรกรทั้งสิ้น ตนจึงแปลกใจว่าที่พรรคร่วมรัฐบาล จึงไม่สามารถเข้าร่วมแสดงตน จึงขอแสดงบทบาทของฝ่ายค้าน คือวอล์คเอาท์แทนฝ่ายค้าน
ดังนั้น ตนไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ชิงไหวชิงพริบมากจนเกินไปในสภา เพราะอีก 4 ปีข้างหน้า องค์ประชุมนั้นเป็นฝ่ายรัฐบาล ถ้าฝ่ายรัฐบาลไม่ทำองค์ประชุม เกรงว่าทางฝ่ายที่จะทำหน้าที่ฝ่ายค้านจะไม่มีโอกาสได้พิจารณากฎหมายแม้แต่ 1 ฉบับ
ขณะที่ สส.พรรคภูมิใจไทย นำโดยนายภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง และโฆษกพรรค กล่าวว่า สส.ของพรรคนั่งรอ เพื่อที่จะอภิปรายญัตติความเดือดร้อนประชาชนตั้งแต่เมื่อวาน ซึ่งพรรคก้าวไกลพยายามขอเปลี่ยนระเบียบวาระขึ้นมาแซง 11 ญัตติ แต่เสียงข้างมากในที่ประชุมไม่เห็นด้วยกับญัตติพรรคก้าวไกล เขาจึงบอกว่า พรรคร่วมรัฐบาลเล่นละครว่าปากท้องพี่น้องประชาชนสำคัญ แต่ประชามติไม่สำคัญ ซึ่งไม่เป็นความจริง พวกตนไม่ได้บอกว่าประชามติไม่สำคัญ แต่ปากท้องประชาชนสำคัญมากกว่า ซึ่งสิ่งที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ใครไม่ให้ความสำคัญเรื่องความเดือดร้อนประชาชน เห็นได้จากทั้ง 11 ญัตติในวันนี้ไม่มีญัตติของพรรคก้าวไกลแม้แต่ญัตติเดียว
วันนี้กลับอาละวาดตีโพยตีพาย เหมือนเด็กไม่ได้ดั่งใจ ก็ไม่เอาด้วย ซึ่งองค์ประชุมเป็นหน้าที่ สส.ทั้งหมด ที่บอกพรรคมีอยู่ 150 ชีวิต แต่ไม่กดแสดงตนหมายความว่าอย่างไร ถึงเวลาแทนที่จะใช้เวทีสภาแก้ปัญหาประชาชน กลับมาเอาเล่นเกมการเมือง ซึ่งน่าเสียใจอย่างยิ่ง