พยาบาลหนุ่มดับสลดริมถนน นอนเปลือยในรถ เจออากาศร้อนจัด ตร.พบดื่มหนัก ครอบครัวไม่ติดใจการเสียชีวิต เหตุเกิดริมถนนในจ.ขอนแก่น
เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 8 เม.ย.66 ที่สภ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น พ.ต.ท.สำเนียง สำโรงพล รอง ผกก.(สอบสวน)สภ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น สอบสวนพยานแวดล้อม หลังเกิดเหตุคนเสียชีวิตเปลือยกายในรถเก๋ง เอ็มจี สีขาว ซึ่งจอดอยู่บนถนนระหว่างบ้านกง – บ้านหนองแสง พื้นที่บ้านโนนทอง ม.1ต.บ้านผือ อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น เหตุเกิดเมื่อวันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยผู้ตายอายุ 42 ปี เป็นพยาบาลวิชาชีพ ประจำรพ.สต.แห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น
จากการสอบสวนพบว่ามีพลเมืองดีเห็นรถเก๋งยี่ห้อเอ็มจี สีขาวคันดังกล่าว จอดอยู่บนถนน หันหัวรถไปทางบ้านหนองแสง ตั้งแต่ตอนเที่ยง ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศกำลังร้อนและไม่มีใครสนใจ กระทั่งช่วงเย็นชาวบ้านในละแวกดังกล่าวเห็นว่ารถไม่เคลื่อนและจอดอยู่ที่เดิม จึงเรียกคนในละแวกดังกล่าวร่วมตรวจสอบ จนเห็นว่ามีคนนอนเปลือยกายในรถ จึงเปิดประตูรถ เพื่อจะช่วยเหลือ แต่ปรากฏว่าคนในรถเสียชีวิตแล้ว จึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจ ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
หลังรับแจ้ง พ.ต.ท.วรวรรธน์ จันทร์คูเมือง สว.(สอบสวน) สภ.หนองเรือ จึงแจ้งผู้บังคับบัญชาให้ทราบและไปตรวจที่เกิดเกตุทันที พร้อมทั้งประสานแพทย์เวร รพ.หนองเรือ และเจ้าหน้าที่ ศพฐ.4 ขอนแก่น เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบรถเก๋งคันดังกล่าวจอดอยู่ จึงตรวจสอบซึ่งต้องผงะกับกลิ่นสุราที่คละคลุ้งในรถ พบบริเวณที่วางเท้าหลังคนขับ พบศพคนตายนอนหงายยาวขนาบกับเบาะรถ ในสภาพเปลือย ไม่สวมใส่เสื้อผ้า จึงให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิเต็กก่าหนองเรือ นำร่างคนตายออกมานอกรถ ก็พบเสื้อผ้าและรองเท้า ถูกถอดไว้ที่บริเวณที่วางเท้า จากนั้นตรวจค้นในรถ ทราบว่าผู้ตายชื่อ นายพิตะวัน
พ.ต.ท.สำเนียง กล่าวว่า จากการชันสูตรศพ ในเบื้องต้นเสียชีวิตมาประมาณ 4 ชั่วโมง ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย และในรถไม่พบร่องรอยการถูกรื้อค้น จากการสอบสวนบิดาและญาติพี่น้องที่มาดูศพผู้ตาย ทราบว่า ผู้ตายเป็นคนติดสุรา และดื่มสุราหนักทุกวัน ก่อนเสียชีวิตคาดว่าน่าจะขับรถตระเวนดื่มสุราไปเรื่อย จนถึงจุดที่จอดรถ น่าจะขับไปต่อไม่ไหว จึงจอดรถแล้วถอดเสื้อผ้านอนในรถ แต่อากาศร้อนน่าจะเกิดอาการฮีสโตรก ทำให้หัวใจวายตายดังกล่าว ซึ่งบิดาและญาติพี่น้องไม่ติดใจการตาย แต่ในทางคดี เพื่อความรอบคอบชัดเจน จึงได้ส่งร่างคนตายไปให้แพทย์ที่นิติเวช รพ.ศรรีนครินทร์ ทำการผ่าศพพิสูจน์ สรุปสาเหตุการตายที่ชัดเจน จากนั้นก็มอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี