พยาบาลสาววัย 29 ถูกตัดกระเพาะอาหารทิ้ง อาการมีแค่อย่างเดียว หารู้ไม่คือมะเร็ง!

Home » พยาบาลสาววัย 29 ถูกตัดกระเพาะอาหารทิ้ง อาการมีแค่อย่างเดียว หารู้ไม่คือมะเร็ง!
พยาบาลสาววัย 29 ถูกตัดกระเพาะอาหารทิ้ง อาการมีแค่อย่างเดียว หารู้ไม่คือมะเร็ง!

โคลอี สเตอร์ลิง พยาบาลวัย 29 ปี จากเมืองเมอร์ซีย์ไซด์ ประเทศอังกฤษ ได้แชร์เรื่องราวกับเว็บไซต์เดลี่เมล โดยเธอได้เล่าว่าเธอเพิ่งรักษามะเร็งกระเพาะอาหารระยะที่ 3 สำเร็จ และต้องตัดกระเพาะอาหารออกทั้งหมด

พูดถึงอาการของโรค โคลอีเล่าว่าเธอเริ่มมีอาการแสบร้อนกลางอกหลังรับประทานอาหารตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2022 ในช่วงแรก อาการนี้จะเกิดขึ้นหลังจากเธอกินอาหารเผ็ดหรือมันเท่านั้น เธอจึงแค่กินยาลดกรดเพื่อบรรเทาความไม่สบาย แต่หลังจากนั้น อาการนี้เกิดขึ้นบ่อยมากขึ้นหลังจากทุกมื้อ และการกินยาเพียงช่วยบรรเทาอาการได้ชั่วคราว โคลอีจึงเข้ารับการส่องกล้องและพบว่ามีแผลเล็ก ๆ ในกระเพาะอาหาร แพทย์ยังพบว่าเธอติดเชื้อแบคทีเรีย H. pylori และได้รับยารักษา แต่ยังคงมีอาการแสบร้อนกลางอก

จนถึงเดือนพฤศจิกายน 2023 เธอมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง “ทุกครั้งที่ฉันกินหรือดื่ม แม้กระทั่งน้ำ ฉันรู้สึกเจ็บที่กระดูกหน้าอกและหลัง นอกจากนี้ ฉันยังปวดที่ช่องท้องขวาบน” เธอกล่าว โคลอีกลับไปหาหมอและได้รับการตรวจชิ้นเนื้อแผลในกระเพาะอาหาร ผลตรวจพบว่าเธอเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารชนิดอะดีโนคาร์ซิโนมา ระยะที่ 3

จากนั้นโคลอีได้รับเคมีบำบัด 4 รอบ และเมื่อวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา เธอเข้ารับการผ่าตัดตัดกระเพาะอาหารออกทั้งหมดและตัดต่อมน้ำเหลืองบางส่วนออก

หลังจากผ่านประสบการณ์นี้ เธอแนะนำคนหนุ่มสาวว่า “จงใส่ใจอาการผิดปกติของร่างกายและไปหาหมอ อย่าคิดว่าคุณยังเด็กเกินกว่าจะเป็นมะเร็ง มะเร็งไม่ละเว้นใคร!”


อะไรคือสาเหตุของมะเร็งกระเพาะอาหาร?

มะเร็งกระเพาะอาหารมีหลายประเภท แต่ชนิดที่พบบ่อยที่สุดคือมะเร็งอะดีโนคาร์ซิโนมา มะเร็งกระเพาะอาหารเกิดขึ้นเมื่อยีนกลายพันธุ์ใน DNA ของเซลล์กระเพาะอาหาร DNA จะกำหนดให้เซลล์รู้ว่าควรเติบโตเมื่อใดและควรตายเมื่อใด เนื่องจากการกลายพันธุ์ เซลล์จึงเติบโตอย่างรวดเร็วและกลายเป็นเนื้องอกแทนที่จะตาย เซลล์มะเร็งจะแย่งพื้นที่จากเซลล์ที่แข็งแรงและสามารถแพร่กระจายไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย (การแพร่กระจาย)

ตามข้อมูลจากคลีฟแลนด์คลินิก สาเหตุที่แน่ชัดของการกลายพันธุ์ใน DNA ของเซลล์กระเพาะอาหารที่นำไปสู่มะเร็งกระเพาะอาหารยังไม่ชัดเจน อย่างไรก็ตามมีปัจจัยเสี่ยงบางประการที่เพิ่มความเสี่ยง ได้แก่:

  • การติดเชื้อแบคทีเรียเฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลไร (H. pylori)
  • โรคกรดไหลย้อนเรื้อรัง
  • โรคกระเพาะอาหารอักเสบ
  • การติดเชื้อไวรัส Epstein-Barr
  • ประวัติการมีแผลในกระเพาะอาหารหรือมีติ่งเนื้อในกระเพาะอาหาร
  • การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง เค็ม หรืออาหารรมควันและดอง
  • การรับประทานอาหารที่มีผักและผลไม้ต่ำ
  • การสัมผัสกับสารต่าง ๆ เช่น ถ่านหิน โลหะ และยาง เป็นประจำ
  • การสูบบุหรี่
  • การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป
  • โรคอ้วน
  • การมีภาวะโรคกระเพาะอักเสบเรื้อรังจากภูมิคุ้มกันตนเอง
  • ภาวะทางพันธุกรรมบางประการ เช่น กลุ่มอาการลินช์ กลุ่มอาการ Peutz-Jeghers การเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม ฯลฯ
  • ประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ