จากเหตุการณ์ ‘พายุไต้ฝุ่นยางิ’ ได้พัดเข้าชายฝั่งถล่มหลาย ๆ ประเทศแทบเอเชีย ทั้งฟิลิปปินส์ จีน ลาว พม่า และเวียดนาม จนสร้างความเสียหายให้แก่บ้านเรือนและประชาชนเป็นอย่างหนัก ตั้งแต่วันที่ 7 ก.ย. 2567 ที่ผ่านมา โดยล่าสุดเมื่อวานนี้ (10 ก.ย.) ทางฝั่งภาคเหนือและอีสานของไทย ได้แก่ จังหวัดเชียงราย จังหวัดเชียงใหม่ หนองคาย ก็ได้รับอิทธิพลของพายุงิจนสร้างเดือดร้อนให้ประชาชนเช่นเดียวกัน
ล่าสุดวันที่ 14 ก.ย. 2567 ทางสื่อต่างประเทศพม่ารายงานว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้น เป็นน้ำท่วมครั้งใหญ่ของประเทศ เพราะมีหลายพื้นที่จมหายไปกับน้ำ โดยตอนนี้มียยอดผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 33 ราย สูญหายกว่า 200 ราย คาดการณ์ว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากเหตุการณ์ดินภูเขาถล่มและน้ำป่าไหลหลาก
- อาลัย ‘เอส มูลนิธิ ดิ อาร์ค’ เสียชีวิตกระทันหัน หลังช่วย ‘น้ำท่วมเชียงราย’
- ความรู้ช่วงน้ำท่วม “รถยนต์” จมน้ำนาน ควรทำอย่างไร ให้ใช้ได้อีกครั้ง
- เผย สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 10 จังหวัด ล่าสุด กระทบ 6 หมื่นครัวเรือน
การช่วยเหลือในพม่าค่อนข้างล่าช้า เนื่องจากพื้นที่ภัยพิบัติเกิดขึ้นเป็นวงกว้าง ปัญหาการสู้รบกับประชาชนในหมู่บ้านห่างไกลถูกตัดขาด อิทธิพลจากพายยางิ หย่อมความกดอากาศพัดผ่านพม่า ทำให้ฝนตกหนักเกือบทั้งประเทศ เขื่อนแตก 2 แห่ง และมวลน้ำจากภาคเหนือไหลลงใตัทำให้น้ำเอ่อท่วมหลายพื้นที่
ด้านประเทศเวียดนามรายงานยอดเสียชีวิตสูงสุด 233 ราย สูญหายกว่า 103 ราย หลังจากเจอพายยุยางิลูกที่ 3 ตอนนี้ระดับน้ำกำลังลดลงเรื่อย ๆ ด้านความเสียหายมีบ้านเรือนกว่า 200,000 หลัง พื้นที่การเกษตร 1.2 ล้านไร่ พืช 2.4 แสนไร่ สวนไม้ผลประมาณ 1.4แสนไร่ กระชังเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ 1,848 กระชัง วัว 4,594 ตัวและสัตว์ปีกมากกว่า 1.7 ล้านตัว ได้รับผลกระทบครั้งใหญ่จากเหตุการพายุยางิพัดถล่ม
ขอบคุณข้อมูลจาก World Forum ข่าวสารต่างประเทศ