ชมรมสหกรณ์ครูขอนแก่น ยื่น ประธานสภา สอบจริยธรรม เอกราช ช่างเหลา ส.ส.พปชร. ปมยักยอกเงินสหกรณ์กว่า 431 ล้าน กมธ.ปปช. ยันจะสอบให้ถึงที่สุด

เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.2564 ที่รัฐสภา ชมรมสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น นำโดย นายไพทูรย์ พิมพ์ทอง รองประธานชมรมฯ ยื่นหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภา ผ่านนายราเมศ รัตนะเชวง เลขานุการประธานสภา นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ นายอภิชาติ ศิริสุนทร ส.ส.บัญชีรายชื่อและกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล และนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพื่อขอให้ตรวจสอบจริยธรรมและลงโทษ นายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ให้พ้นจากสมาชิกภาพความเป็นส.ส.

กรณีมีการทุจริตเงินกว่า 431 ล้านบาทของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นจำกัด และผู้กระทำผิดได้ยอมรับสภาพหนี้และให้การรับสารภาพแล้ว

นายไพทูรย์ กล่าวว่า ตนและสมาชิกสหกรณ์ฯ ที่มาวันนี้ สบายใจที่ส.ส.จะตรวจสอบจริยธรรมของผู้กระทำความผิด และเป็นความหวังของสหกรณ์ออมทรัพย์ฯ และหวังอย่างยิ่งว่านายชวน หลีกภัย ประธานสภา จะดำเนินการต่อไป

ด้านนายธีรัจชัย กล่าวว่า เรื่องนี้มีการร้องเรียนมายังกมธ.ป.ป.ช. ตั้งแต่ปีที่แล้ว ซึ่งกมธ.ได้ตรวจสอบทั้งหมดเรียบร้อยและเชิญตำรวจและป.ป.ง. มาสอบข้อเท็จจริง และตำรวจได้สั่งฟ้องไปในคดีอาญาที่ 0258/2564 เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2564 ในข้อหาร่วมกันยักยอกทรัพย์ ปลอมแปลงเอกสาร และใช้เอกสารสิทธิ์ปลอมในจำนวนเงิน 431 ล้านบาท

ต่อมาวันที่ 25 พ.ย. นายเอกราช ได้มาทำสัญญากับศาลว่าจะจ่ายเงิน 431 กว่าล้านบาทพร้อมดอกเบี้ย 6.5 ต่อปี โดยจะชำระให้เสร็จภายใน 5 ปี เริ่มชำระงวดแรก 31 ธ.ค.65 และภายในวันที่ 31 ธ.ค.ของทุกปี กรณีเช่นนี้มีความผิดคือ การปลอมเอกสารเบิกจ่ายและยักยอกเงิน โดยสหกรณ์ออมทรัพย์ฯ มีข้อสงสัยว่า การเป็นส.ส.ไปกระทำความผิดเช่นนี้ จะต้องมีความผิดตามมาตรฐานจริยธรรมหรือไม่

นายธีรัจชัย กล่าวอีกว่า กมธ.ดำเนินการมาตลอด กระทั่งสั่งฟ้องแล้ว 2 คดี ซึ่งคดีหนึ่ง กมธ.ส่งเรื่องให้ป.ป.ง.ตรวจสอบเรื่องการฟอกเงิน และจะเชิญ ป.ป.ง.มาติดตามความคืบหน้าต่อไป ขณะนี้ทั้ง 2 คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล จ.ขอนแก่น จึงขอตั้งคำถามไปยังพปชร. ที่มีนายเอกราช เป็นส.ส.ว่า จะปล่อยให้นายเอกราช ดำรงตำแหน่งส.ส.เช่นนี้โดยไม่ทำอะไรเลยหรือ นอกจากนี้ยังมีคำถามฝากไปยังนายชวน ว่าจะดำเนินการอย่างไรหรือไม่ รวมทั้งขอให้ดำเนินการด้วย ทั้งนี้กมธ.จะตรวจสอบให้ถึงที่สุด

ขณะที่นายอภิชาติ กล่าวว่า พรรคก้าวไกลถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ นักการเมืองต้องซื่อสัตย์สุจริต โดยตนจะรับเรื่องนี้และใช้กลไกสภาตรวจสอบให้ถึงที่สุด เพื่อความโปร่งใสและต้องหยิบยยกมาตรฐานทางจริยธรรมทางการเมืองมาตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเข้มข้น

ด้านนพ.ชลน่าน กล่าวว่า เรื่องนี้พรรคเพื่อไทยมีมตินำเรื่องเข้ากระบวนการพิจารณา ซึ่งมีคณะกรรมการจริยธรรมอยู่แล้ว หรือกมธ.ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริงนี้ นอกจากนี้เป็นเรื่องของสภาจะต้องดูแลสมาชิกภาพเพื่อทำหน้าที่ที่ดีสุดต่อประชาชนโดยเฉพาะเรื่องมาตรฐานจริยธรรม