ผู้ว่าฯปราจีน สนง.ปรมาณูเพื่อสันติ แถลงพบ สารซีเซียม-137 ถูกหลอมในเตาโรงรีไซเคิล ยันปนเปื้อนในพื้นที่จำกัด ไม่แพร่กระจายสู่สิ่งแวดล้อม
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 20 มี.ค.2566 ที่ห้องศูนย์กาเรียนรู้(402) ศูนย์ราชการใหม่ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี นายรณรงค์ นครจินดา ผวจ.ปราจีนบุรี พร้อมด้วย นพ.สุรินทร์ สืบซึ้ง นายแพทย์ สสจ.ปราจีนบุรี พล.ต.ต.วินัย นุชชา ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี นายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ เลขาธิการ สนง.ปรมาณูเพื่อสันติ
นางเพ็ญนภา กัญชนะ รองเลขาธิการสนง.ปรมาณูเพื่อสันติ และนายกิตติกวิน อรามบุญ หน.ปฏิบัติการฉุกเฉินทางริวเคลียร์และรังสี ร่วมกันแถลงข่าว สรุปรายงานผลการดำเนินงานแก้ไขปัญหา กรณีสารซีเซียม-137 (Cs-137) ที่ใช้กับเครื่องเลเซอร์เพื่อจับฝุ่นขี้เถ้าในโรงงานผลิตไฟฟ้าไอน้ำ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี หายไปจากพื้นที่ ก่อนพบเบาะแสว่า สารซีเซียม-137 โผล่ที่โรงหลอมเหล็กใหญ่ที่สุดใน จ.ปราจีนบุรี โดยปะปนอยู่ในเศษเหล็กอัดแท่งรอทำการหลอม
ต่อมา สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจวัดรังสี ในอุตสาหกรรมโรงหลอมโลหะจาก เศษเหล็กที่เลิกใช้แล้ว ในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี 5 แห่ง ผลการตรวจสอบพบว่ามีโรงงานแห่งหนึ่ง มีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137 ในฝุ่นโลหะที่ ได้จากผลิตโลหะ และผู้เชี่ยวชาญของ ปส. ได้ทำการควบคุมและตรวจสอบพื้นที่โรงงานโดยรอบ พบว่าโลหะที่ได้จาก กระบวนการผลิตไม่พบการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137
เมื่อตรวจวัดปริมาณรังสีโดยรอบพื้นที่บริเวณโรงงานพบว่า ระดับปริมาณรังสีอยู่ในระดับปกติตาม ปริมาณรังสีในธรรมชาติ นอกจากนี้ได้มีการตรวจสอบคุณภาพอากาศ น้ำ บริเวณโดยรอบโรงงานพบว่า ระดับรังสีอยู่ ในระดับปกติตามปริมาณรังสีในธรรมชาติ ไม่มีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีในสิ่งแวดล้อม
ส่วนการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137 ในฝุ่นแดง เกิดขึ้นจากโรงงานหลอมโลหะรีไซเคิล ที่รับ ซื้อเศษโลหะมือสอง ที่มีการปะปนของวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-134 เข้าไปในกระบวนการหลอมโลหะ และเมื่อวัสดุ กัมมันตรังสีซีเซียม-137 เข้าไปในกระบวนการหลอม ซีเซียม-137 จะถูกหลอมและระเหยกลายเป็นไอกระจายอยู่ ในเตาหลอม
ซึ่งจะมีระบบการกรองของเสียจากกระบวนการผลิตและเป็นการทำงานในระบบปิดทั้งหมด ทำให้ซีเซียม-137 จะปนเปื้อนไปอยู่ในฝุ่นโลหะที่ได้จากกระบวนการหลอม ซึ่งฝุ่นปนเปื้อนเหล่านี้จะมีระบบกรองเพื่อ ป้องกันไม่ให้เกิดการฟุ้งกระจายออกสู่สิ่งแวดล้อม และถูกจัดเก็บ ควบคุมอยู่ในระบบปิดทั้งหมด ดังนั้นฝุ่นโลหะ ปนเปื้อนได้ถูกระงับการเคลื่อนย้ายและจำกัดไม่ให้ออกนอกบริเวณโรงงาน ผลการตรวจสอบไม่พบการเปรอะเปื้อนทางรังสีของผู้ปฏิบัติงานแต่อย่างใด
เบื้องต้น สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ได้ดำเนินการตรวจวัดการเปรอะเปื้อนทางรังสีนอกร่างกายของผู้ปฏิบัติงานทั้งหมดภายในโรงงานและใกล้เคียง โดยสามารถสรุปได้ว่าฝุ่นโลหะปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม-197 มีการปนเปื้อนในบริเวณที่จำกัด และ ถูกควบคุมโดยผู้เชี่ยวชาญของสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ
โดยเหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่เกิดการแพร่กระจายของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-197 สู่สิ่งแวดล้อม ไม่เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่โดยรอบและบริเวณ และขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกและสถานการณ์ทั้งหมดได้ถูกควบคุมโดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว