พท.เตือนรีดภาษีคริปโต ทำลายบรรยากาศลงทุน อัดบิ๊กตู่เอาแต่กู้ เก็บรายได้ไม่เข้าเป้า

Home » พท.เตือนรีดภาษีคริปโต ทำลายบรรยากาศลงทุน อัดบิ๊กตู่เอาแต่กู้ เก็บรายได้ไม่เข้าเป้า



พท.เตือนรัฐรีดภาษีคริปโต ทำลายบรรยากาศลงทุน อัด “ประยุทธ์” เก็บรายได้ไม่เข้าเป้า เอาแต่กู้ ไม่ใช่ทางแก้ปัญหา

เมื่อวันที่ 6 ม.ค. นายจักรพงษ์ แสงมณี นายทะเบียนพรรคเพื่อไทย และอดีตเลขานุการรมว.คลัง กล่าวกรณีที่กรมสรรพากรประกาศจะเก็บภาษีคริปโตฯว่า การกำหนดให้มีการจัดเก็บภาษีคริปโตฯ ด้วยการหัก ณ ที่จ่ายร้อยละ 15 ของกำไร และบุคคลที่มีเงินได้จากการซื้อ-ขายคริปโต จะต้องยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาด้วยนั้น รัฐบาลกำลังทำให้เกิดความสับสนและแตกตื่นในตลาดการลงทุน โดยเฉพาะประเด็นการคิดคำณวนในการจัดเก็บภาษี เพราะบุคคลธรรมดารายใดก็ตามที่ได้รับผลประโยชน์จากสินทรัพย์ดิจิทัลในรูปแบบใดก็ตาม จะต้องจ่ายภาษีทั้งหมด อย่างไรก็ตาม การพัฒนาตลาดการเงินที่เป็นความหวังในการหารายได้ของคนหลายล้านคนในประเทศไทย จำเป็นต้องให้ระยะเวลาในการบ่มเพาะความรู้ นักลงทุนทั้งรายย่อย รายกลาง และรายใหญ่ได้เรียนรู้ และทำความเข้าใจข้อควรปฏิบัติและข้อผิดพลาด การเติบโตของตลาดการเงิน ถ้ามีเงื่อนไขมาก มีความยุ่งยากและมีต้นทุนสูง จะไม่เอื้อต่อการลงทุนหรือระดมเงิน รัฐจึงมีหน้าที่สำคัญคือการสร้างบรรยากาศ ช่วยเหลือและช่วยคัดกรองการลงทุนเพื่อป้องกันการทุจริต อย่างประเทศสิงคโปร์มุ่งลดกฎเกณฑ์ต่างๆ ให้สามารถเกิดการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลให้สะดวกรวดเร็ว ถ้าเรายังไม่อยากเสียโอกาสในการพัฒนาตลาดการเงินแบบดิจิทัล ที่กำลังมีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้น

นายจักรพงษ์ กล่าวต่อว่า ขณะที่การเก็บภาษียังไม่มีความชัดเจน ยังมีช่องว่างของการปฏิบัติตามกฎหมายในการคำณวน จะทำให้นักลงทุน บุคคลธรรมดารายย่อยได้รับอุปสรรคในการซื้อขายสินทรัพย์ จนทำให้มีแต่นักลงทุนรายใหญ่ได้ประโยชน์ ยิ่งทำให้เกิดความเหลือมล้ำมากยิ่งขึ้น รัฐบาลควรกลับไปศึกษาให้แน่ชัดก่อน การที่รัฐบาลประกาศจะเก็บภาษีในช่วงนี้ น่าจะเป็นเพราะเข้าตาจน เมื่อการจัดเก็บรายได้ที่ไม่เข้าเป้านับตั้งแต่พล.อ.ประยุทธ์เข้ามาบริหารประเทศ เป็นเวลาเกือบ 8 ปีติดต่อกันทำให้รัฐต้องหารายได้จากทางอื่น ซึ่งพรรคพท.เสนอทางออกมาโดยตลอด คือการทำให้เศรษฐกิจกลับมาขยายตัว มุ่งใช้เงินที่กู้มาให้มีประโยชน์ ไม่ใช้การจัดเก็บภาษีแบบที่ไม่มีระบบที่แน่ชัด อย่าซ้ำรอยภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่เข็นออกมาใช้ในขณะที่ยังไม่พร้อม จนทำให้ประชาชนเดือดร้อนกันไปทั่ว แต่รัฐกลับต้องขาดรายได้ไปหลายหมื่นล้านต่อปี อย่าใช้วิธีที่ไม่รอบคอบแบบเก่ากับการเก็บภาษีในธุรกิจแบบใหม่ เพราะจะทำให้ได้ไม่คุ้มเสีย

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ