เพื่อไทย อัดรัฐบาลประยุทธ์ ถลุงภาษี 3.7 พันล้านบาท ต้านทุจริต ประจานความล้มเหลว ซัดอยู่ 8 ปีฉุดอันดับดิ่งลงเรื่อยๆ จี้ลงจากอำนาจก่อนประเทศพัง
จากกรณีคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2565 เห็นชอบแผนปฏิบัติการด้านการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ ระยะที่ 2 (พ.ศ. 2566-2570) ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี มี 605 โครงการ วงเงิน 3,748.70 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2565 น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม.และโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า รู้สึกเศร้าใจกับรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ นำเงินงบประมาณจากภาษีของพี่น้องประชาชน มาแก้ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นที่รัฐบาลไม่สามารถทำได้สำเร็จ นับตั้งแต่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ได้ประกาศไว้ในการแถลงนโยบายรัฐบาลเมื่อวันที่ 25-26 ก.ค. 2562 แก้ปัญหาการทุจริต เป็น 1 ในนโยบายหลัก 12 ด้าน
“การอนุมัติงบประมาณดังกล่าวถือเป็นการประจานความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นของรัฐบาล เป็นการใช้งบประมาณอย่างสิ้นเปลือง ไม่เหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจ แทนที่จะนำงบประมาณนี้ไปใช้ในการสนับสนุนด้านการศึกษา ช่วยเหลือเด็กและเยาวชนไม่ให้หลุดออกจากระบบ หรือนำไปแก้ไขช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่เผชิญปัญหาปากท้องซึ่งจะเหมาะสมกว่า”
น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวต่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ที่อ้างตนว่ามาจากประชาชน ควรรู้ปัญหาประเทศว่า ขณะนี้คนไทยต้องเผชิญกับความทุกข์ยากอย่างแสนสาหัส จากความล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดินโดยฝีมือของพล.อ.ประยุทธ์ นับตั้งแต่ที่พล.อ.ประยุทธ์เป็นผู้นำรัฐประหารจนมาถึงปัจจุบัน ดัชนีชี้วัดคะแนนปลอดคอร์รัปชั่นในประเทศไทย ที่จัดอันดับโดยองค์กร Transparency International พบว่าคะแนนในปี 2564 อยู่ที่ 35 คะแนน ต่ำสุดในรอบ 10 ปี
“ส่วนอันดับตกลงมาต่ำที่สุดในรอบ 4 ปี สวนทางยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีที่ตั้งเป้าว่าจะทำให้คะแนนคอร์รัปชั่นทำได้ไม่ต่ำกว่า 50 คะแนนภายในปี 2565 เพียงแค่การตั้งเป้าหมายนี้ คงทำได้ยากยิ่งกว่าเข็นครกขึ้นภูเขา พล.อ.ประยุทธ์อยู่ในอำนาจมา 8 ปี อันดับและคะแนนการรับรู้การทุจริตตกต่ำลงมาเรื่อยๆ เหตุใดจึงต้องใช้งบประมาณหลายพันล้านบาท เพื่อให้การแก้ทุจริตสำเร็จ ทั้งที่อายุรัฐบาลเหลือไม่ถึง 6 เดือน”
น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวอีกว่า การแก้ปัญหาทุจริตไม่สามารถแก้ไขด้วยเงินงบประมาณ ทางออกเดียวที่จะทำให้การแก้ไขปัญหานี้เป็นไปได้คือ ฝากรัฐบาลชุดใหม่ที่มีความรู้ความสามารถ เข้ามาฟื้นฟูซากปรักหักพังเหล่านี้ให้จบสิ้น ประเทศไทยพังมามากพอแล้วจากน้ำมือของพวกท่าน
“รัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่พวกท่านกล่าวหาว่าโกงนั้น ในปี 2548 อันดับการประเมินจาก Transparency International องค์กรเดียวกันก็พบว่าการรับรู้การทุจริตอยู่ในอันดับที่ 59 จากวันนั้นจนถึงวันนี้ วลีที่ว่า ดีและไม่โกงมีจริงหรือไม่ คงเป็นคำถามที่หลายคนมีคำตอบในใจอยู่แล้ว พล.อ.ประยุทธ์อย่าหลอกตัวเองอีกเลย ลงจากอำนาจก่อนที่ประเทศจะเสียหายไปมากกว่านี้” น.ส.ธีรรัตน์ กล่าว