พท.หวั่นยอดติดเชื้อพุ่ง จี้ บิ๊กตู่ อย่าโฟกัสผิดจุด รอพร้อมก่อนปรับเป็นโรคประจำถิ่น

Home » พท.หวั่นยอดติดเชื้อพุ่ง จี้ บิ๊กตู่ อย่าโฟกัสผิดจุด รอพร้อมก่อนปรับเป็นโรคประจำถิ่น


พท.หวั่นยอดติดเชื้อพุ่ง จี้ บิ๊กตู่ อย่าโฟกัสผิดจุด รอพร้อมก่อนปรับเป็นโรคประจำถิ่น

เพื่อไทยหวั่นโควิดหลังสงกรานต์ ยอดติดเชื้อพุ่ง หลังตายเกินร้อย 10 วันติด ห่วงไทยเกิดสังคมอนาถา จี้รอท้องถิ่นพร้อมก่อนปรับเป็นโรคประจำถิ่น

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 19 เม.ย.2565 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม.และโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เป็นห่วงการระบาดของโควิด-19 หลังเทศกาลสงกรานต์อย่างมาก เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อมากกว่าที่ภาครัฐรายงาน 3 เท่า ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตจากโควิดเกิน 100 คนต่อวันติดต่อกัน 10 วันแล้วนับตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย. อีกทั้งยอดผู้ป่วยอยู่ในโรงพยาบาล ผู้ป่วยปอดบวมและผู้ป่วยหนักเพิ่มขึ้น ขณะที่ในหลายจังหวัดยังมีอัตราการฉีดวัคซีนเข็ม 3 น้อยมากเพียง 20 กว่าล้านคน ซึ่งยังไม่ถึง 60-70% ที่จะสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ได้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงต้องเร่งฉีดวัคซีนเข็ม 3 และ 4 ให้มากที่สุด เพราะจะช่วยลดความรุนแรงของโรคได้

ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่พบปะประชาชน พบว่าแม้เวลาจะผ่านมากว่า 2 ปีที่มีการระบาดเกิดขึ้น แต่รัฐบาลยังปล่อยให้ประชาชนช่วยเหลือตนเอง จนเป็นต้นเหตุที่อาจก่อให้เกิดสังคมอนาถา คนหาเช้ากินค่ำ อาชีพอิสระ ตกงานขาดรายได้ และเข้าไม่ถึงระบบการรักษาได้ทันเวลา ตอนนี้โรงพยาบาลของรัฐหลายแห่งจำกัดจำนวนการตรวจหาเชื้อต่อวัน ทำให้ประชาชนเข้าถึงการรักษาล่าช้า เสียชีวิตก่อนเวลาอันควร

น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวต่อว่า ส่วนที่รัฐบาลมีแนวคิดจะปรับให้โควิดเป็นโรคประจำถิ่นนั้น อยากให้ ศบค.ประเมินสถานการณ์การระบาดของโรคและถามความพร้อมของท้องถิ่นก่อน รวมทั้งสัดส่วนการรับวัคซีนเข็ม 3 ซึ่งควรเกิน 60% ของประชากรที่รับวัคซีนได้ เพราะขณะนี้ในบางจังหวัดที่เคยมีข่าวว่าจะถูกปรับให้เป็นโรคประจำถิ่น เมื่อมีข่าวแพร่กระจายออกไปทั้งที่ไม่มีการเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติตัวของคนในท้องถิ่น บางรายติดเชื้อแล้วออกไปใช้ชีวิตปกติ ด้วยความเข้าใจผิดว่าโควิดเป็นโรคประจำถิ่นแล้ว เหมือนโรคหวัดธรรมดา เกิดมาจากการสื่อสารที่ของรัฐที่ไม่เป็นเอกภาพ ไม่มีความแน่นอนของข้อมูล

หากรัฐบาลไม่มีข้อมูลเพียงพอ ขอให้ศึกษากรณีตัวอย่างจากต่างประเทศที่ไม่ใส่หน้ากากอนามัย และไม่มีมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม โควิดถูกทำให้กลายเป็นโรคประจำถิ่น แต่ต้องแลกมาด้วยอัตราการเสียชีวิตพุ่งสูงขึ้น ขอให้รัฐบาลคิดให้ตกผลึกก่อนจะประกาศใช้มาตรการใดๆ เพราะผู้ที่ได้รับผลกระทบคือการเจ็บป่วยล้มตายของประชาชน นอกจากนี้พรรคสนับสนุนให้ปรับมาตรการการเปิดประเทศที่เหมาะสม สะดวก ไม่เป็นภาระต่อประชาชนและชาวต่างประเทศ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและการลงทุนใหม่ๆ เศรษฐกิจไทยจึงจะเดินหน้าต่อไปได้

โควิดระลอกนี้คนติดเชื้อมากขึ้น เสียชีวิตมากขึ้น รัฐบาลอย่าบริหารจัดการเหมือนคนเคยชินกับโรค พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ อย่าทำตัวเลื่อนลอยอยู่เหนือปัญหา โฟกัสผิดจุด การระบาดของโควิดยังอยู่ คนยากคนจนยังลำบากอีกมาก และรอคอยการช่วยเหลือจากรัฐบาลอยู่” น.ส.ธีรรัตน์ กล่าว

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ