พท. สับระบบราชการเปิดช่องทุจริต ธุรกิจสีเทาบานเป็นดอกเห็ด ชี้สังคมจับตาคดี “ตู้ห่าว” จะรอดหรือไม่ ตอกผู้นำปล่อยกลุ่มทุนจีนหนุนการเมือง ทำตัวเหนือกม.
14 ธ.ค. 65 – น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณีธุรกิจทุนจีนสีเทาของ นาย “ตู้ห่าว” ซึ่งมีจุดเริ่มต้นจากการบุกทลายผับดังย่านเจริญราษฎร์ พบยาเสพติดและบ่อนการพนัน นำไปสู่การขยายผลให้เห็นว่า ทุนจีนสีเทามีเครือข่ายที่เติบโต ฝังรากอยู่ในสังคมไทยจนมีมูลค่าเงินหมุนเวียนและทรัพย์สินเกือบหมื่นล้านบาทว่า
ขอตั้งคำถามหาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ดำเนินการจริงจังมาตลอด 8 ปี ทุนจีนสีเทาคงไม่เติบโตเหมือนในวันนี้ใช่หรือไม่ กรณีของนายตู้ห่าว ไม่ใช่ความผิดส่วนบุคคล แต่เป็นเพราะการบริหารราชการแผ่นดินที่ล้มเหลว ปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชั่นจึงเติบโต ซึ่งสาเหตุของความล้มเหลวการตรวจสอบการทุจริตและทุนจีนสีเทา ดังนี้
1. ตั้งแต่รัฐประหารเป็นต้นมา ไม่มีการตรวจสอบของฝ่ายค้าน 2. เจ้าหน้าที่รัฐย่อหย่อนในการบังคับใช้กฎหมาย 3. มีผลประโยชน์ต่างตอบแทนที่ทุนจีนเสนอให้ผู้มีอำนาจ เพราะมีหลักฐานเชิงประจักษ์ว่าทุนจีนสีเทาบริจาคให้พรรคร่วมรัฐบาล เพราะมีความใกล้ชิดกับพรรคการเมืองใช่หรือไม่
ประกอบกับ การประเมินขององค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International – TI) ปี 2564 ประเทศไทยมีคะแนนการรับรู้ทุจริตอยู่ที่อันดับที่ 110 จาก 180 ประเทศ นับว่าเป็นอันดับต่ำที่สุดในรอบ 10 ปี เป็นเครื่องยืนยันถึงความล้มเหลวในการจัดการเรื่องนี้อย่างจริงจัง
น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องสืบสวนลงโทษให้ถึงต้นตอ อย่ากลัวเจอตอ เรียกความเชื่อมั่นคืนสู่ประชาชน ปกป้องภาพลักษณ์ของประเทศไทยไม่ให้ถูกขนานนามว่า เป็นฐานของการฟอกเงินผิดกฎหมาย ทั้งยาเสพติดและธุรกิจสีเทา เพราะความเชื่อมั่นในการลงทุนของต่างชาติต้องเกิดจากภาพลักษณ์ของรัฐบาลที่ดี
วันนี้สังคมไทยกำลังจับตามองและตั้งคำถามว่า คดีนายตู้ห่าว จะจบลงอย่างไร จะหลุดพ้นจากความผิดเพราะมีคนใหญ่คนโตในรัฐบาลคอยช่วยเหลือหรือไม่ พรรคพท.เล็งเห็นความสำคัญเรื่องนี้ ถึงประกาศนโยบายเพื่อไทยมา ยาเสพติดต้องหมดไป คืนสังคมปลอดภัยให้ลูกหลาน เร่งสร้างความโปร่งใสด้วยระบบราชการดิจิทัล เพิ่มประสิทธิภาพระบบราชการ ด้วยการบริการที่รวดเร็ว ลดขั้นตอน ตรวจสอบได้ ต่างประเทศถึงจะมั่นใจ การลงทุนถึงจะเติบโต
“วันนี้สังคมไทยต้องการการเปลี่ยนแปลง ถ้า 8 ปีที่ผ่านมา ยังแก้ไม่ได้ ควรเปิดทางให้พรรคที่ทำได้ ทำเป็น และเคยทำสำเร็จมาแล้ว ได้ลงมือทำเป็นของขวัญปีใหม่ อยู่นานถ้าทำงานไม่เป็นประเทศชาติก็ยากจะพัฒนา“ น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าว