เพื่อไทย ลั่น 8 ปีพอหรือยัง พาประเทศถอยหลัง ตั้งแต่รัฐประหารคนไทยได้อะไรบ้าง จวกข้าวถูกกว่ามาม่า ยางพารา 10 กิโลกรัม 100 บาท
เมื่อเวลา 21.05 น. วันที่ 31 พ.ค. 2565 ที่รัฐสภา นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย (พท.) อภิปรายว่า หลังการรัฐประหาร 22 พ.ค. 2557 มาถึงวันนี้คนไทยได้อะไรบ้าง มีหลายอย่างที่คนไทยได้ เราได้ข้าวที่ถูกกว่ามาม่า เราได้ยาง 10 กิโลร้อย เราได้วัคซีนที่ช้ากว่าประเทศอื่น เราได้เด็กจบใหม่ที่เสี่ยงต่อการว่างงานกว่าครึ่งล้าน ไม่รวมคนที่ทำงานอยู่แล้วที่ต้องตกงาน หากรัฐบาลยังบริหารงานแบบนี้ เราคงได้โอกาสอีกหลายอย่าง
“รัฐบาลที่บริหารประเทศเป็น ต้องสร้างสภาวะแวดล้อมที่ดี สร้างความเชื่อมั่นจากนักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศ นำพาเศรษฐกิจให้ขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องทั้งในภาวะปกติและภาวะวิกฤติ วันนี้มีงบประมาณหลายตัวที่ไม่ชัดเจน เช่น งบประมาณรายจ่ายบุคลากร งบประมาณหน่วยรับงบประมาณ งบบูรณาการที่เพิ่มขึ้นมาก แต่งบพัฒนาแรงงานและเทคโนโลยีถูกตัดลดลงทุกตัว”
นายกฤษฎา อภิปรายต่อว่า ที่ผ่านมาตนได้พูดคุยกับนักลงทุนทั้งในไทยและต่างประเทศ ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ารอประเทศไทยไม่ไหวจริงๆ ตนไม่แปลกใจว่าทำไมท่านถึงต้องมียุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ก็เพราะหลายอย่างที่ท่านลงทุนอาจต้องใช้เวลา 20 ปีถึงจะเสร็จ วันนี้ลาวใช้เวลาไม่ถึง 4 ปีสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อกับจีนซึ่งมีกำลังซื้อสูงที่สุด
“อินโดนีเซียจับมือกับเทสล่าเพื่อสร้างศูนย์กลางการผลิตแบตเตอรี่และรถยนต์ไฟฟ้า เวียดนามกำลังจะมีการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมมูลค่า 2 ล้านล้านบาท เพื่อรองรับการขยายตัวในระยะยาว”
นายกฤษฎา กล่าวต่อว่า ขณะที่ภูมิประเทศของไทยซึ่งควรจะได้เชื่อมโยงแปซิฟิกกับอันดามัน แต่รัฐบาลได้เปลี่ยนแปลงความได้เปรียบด้วยการบริหารที่ผิดพลาด เรากำลังจะเป็นประเทศที่ถูกลืม ตนจึงอยากถามรัฐบาลว่าสิ่งที่ควรรีบทำไม่ทำ สิ่งที่กำลังสร้างไม่เสร็จสักที
“8 ปีที่ผ่านมามากเพียงพอหรือยังที่ท่านพาประเทศถอยหลัง ล้าหลังและสิ้นหวังมาโดยตลอด ซึ่งคำตอบอยู่ในคำถาม คำถามที่สำคัญที่สุดคือท่านไม่เคยถามเลยว่าสิ่งที่ท่านทำ ประชาชนได้อะไร แต่ท่านกลับถามตัวเองเสมอว่าท่านได้อะไร ทั้งหมดคือเหตุผลว่า ผมไม่สามารถโหวตรับงบประมาณได้” นายกฤษฎา กล่าว
