พท.รุมสับประยุทธ์ บริหารเศรษฐกิจเหลว ทำไทยไร้อนาคต แนะคนพาลไม่ควรเป็นผู้นำ

Home » พท.รุมสับประยุทธ์ บริหารเศรษฐกิจเหลว ทำไทยไร้อนาคต แนะคนพาลไม่ควรเป็นผู้นำ


พท.รุมสับประยุทธ์ บริหารเศรษฐกิจเหลว ทำไทยไร้อนาคต แนะคนพาลไม่ควรเป็นผู้นำ

เพื่อไทย รุมสับ “ประยุทธ์” บริหารเศรษฐกิจเหลว ทำไทยไร้อนาคต แนะคนพาลไม่ควรเป็นผู้นำ แนะเก็บของออกจากทำเนียบฯ แล้วลาออกเพื่อดับทุกข์

เมื่อวันที่ 23 ส.ค.65 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์ ด้านเศรษฐกิจ นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล ส.ส.เลย และ กรรมการบริหารพรรค นายศรัณย์ ทิมสุวรรณ ส.ส.เลย และนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง ร่วมแถลงข่าวด้านเศรษฐกิจประจำสัปดาห์

นายพิชัย กล่าวว่า ประเด็น 8 ปีของพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ได้สร้างปัญหาให้กับประเทศไทยมากขึ้นเรื่อยๆ นอกจากจะมีคนจำนวนมากไม่พอใจ ส่วนตัวเชื่อว่าพล.อ.ประยุทธ์ไปต่อได้ยากแล้ว ไม่ว่าคำตัดสินจะออกมาอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์กลายเป็นสาเหตุแห่งทุกข์ไปแล้ว ประชาชนกำลังประสบความทุกข์ 4 เรื่องดังนี้ 1.ทุกข์จากการมีหนี้ รายได้ไม่พอรายจ่าย ต้องไปกู้หนี้ยืมสิน หนี้ครัวเรือนพุ่งสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทยเกือบ 15 ล้านล้านบาท พอกู้ระบบไม่ได้แล้วก็ต้องไปกู้หนี้นอกระบบที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยมหาโหด อีกไม่นานดอกเบี้ยก็จะขึ้นอีก เพราะสหรัฐมีแนวโน้มที่จะขึ้นดอกเบี้ยอีก อาจจะขึ้นถึง 0.75% เป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน เพราะเงินเฟ้อของสหรัฐยังสูงอยู่ เมื่อสหรัฐขึ้นไทยก็อาจจะต้องขึ้นดอกเบี้ยด้วย ซึ่งภาระดอกเบี้ยจะเป็นปัญหาอย่างมากในอนาคต ทั้งหนี้สาธารณะและหนี้ครัวเรือน รวมถึงหนี้เสียของธนาคารด้วย

นายพิชัย กล่าวต่อว่า 2.ทุกข์จากค่าใช้จ่ายสูง ค่าครองชีพสูง เงินเฟ้อ สินค้าแพง และล่าสุดการต้องจ่ายค่าไฟฟ้าที่แพงขึ้น หลังจากจ่ายค่าน้ำมันและค่าก๊าซหุงต้มที่พุ่งกระฉูดแล้ว ประชาชนต้องมาจ่ายค่าไฟฟ้าที่แพงขึ้นอย่างมาก แต่พล.อ.ประยุทธ์กลับทำได้แค่สอนธรรมะ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค และตลกร้ายเดิมยิ่งร้ายหนักขึ้น เพราะประเทศไทยมีการผลิตไฟฟ้าล้นเกิน แต่เชื้อเพลิงขาดแคลนต้องนำเข้าในราคาสูงมากแล้ว ตอนนี้น้ำมันดิบราคาต่ำกว่า $90 ต่อบาเรลแล้ว แต่ทำไมราคาน้ำมันดีเซลในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์อยู่ที่ 29.95 บาท แต่รัฐบาลปัจจุบันยังคงอยู่ที่ 34.95 บาท แสดงถึงการบริหารจัดการที่ต่างกันมาก 3.ทุกข์ของการไม่มีรายได้จากการบริหารล้มเหลวของพล.อ.ประยุทธ์ เศรษฐกิจไตรมาสที่แล้วไทยขยายได้ 2.5% แต่มาเลเซียกลับขยายได้ถึง 8.9% เวียดนามขยายได้ 7.7% และฟิลิปปินส์ขยายได้ 7.4% หรือแม้แต่สิงคโปร์ยังขยายได้ 4.8% เวียดนามที่เคยตามหลังไทยมาตลอดกลับมีการส่งออกสูงกว่าไทยตั้งแต่ปี 2562 และ 4.ทุกข์จากไม่เห็นอนาคต ไม่รู้ว่าประเทศไทยจะไปทางไหน มองไปไหนก็มืดมน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ไม่รู้เลยว่าจะหางานทำได้อย่างไร ทุกข์ทั้งหมดนี้เกิดมาจากพล.อ.ประยุทธ์ ดังนั้นจะปลดทุกข์คนไทยได้ พล.อ.ประยุทธ์ต้องออกไป ดังคำสอนที่ว่า “พาโล อปริณายโก” แปลว่า “คนโง่ คนพาล ไม่ควรเป็นผู้นำ”

นายเลิศศักดิ์ กล่าวว่า ในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้จะครบระยะเวลาการดำรงตำแหน่งนายกฯ ของ พล.อ ประยุทธ์ ในฐานะผู้นำของประเทศควรต้องเสียสละลาออก เพื่อรักษาไว้ซึ่งจริยธรรมทางการเมือง ป้องกันวิกฤตทางการเมืองที่จะเกิดขึ้นจากความไม่พอใจของพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ และความพยายามสืบทอดอำนาจเพื่อปกป้องปิดบังความผิดพลาดจากการบริหารประเทศตลอดระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในด้านความตกต่ำของเศรษฐกิจไทย ที่เติบโตรั้งท้ายในอาเซียน และประเด็นทุจริตที่พรรคร่วมฝ่ายค้านได้เปิดประเด็นไว้ในช่วงการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา ทั้งนี้ ผลการสำรวจของ Japan Center For Economic Research พบว่าเศรษฐกิจไทยภายใต้การนำของพล.อ ประยุทธ์ นำพาเศรษฐกิจไทยดิ่งเหว การเติบโตทางเศรษฐกิจในไตรมาสแรกขยายตัวต่ำสุดใน 5 ชาติของอาเซียน

นายเลิศศักดิ์ กล่าวต่อว่า และที่ตนอภิปรายเรื่องการต่อสัญญาซื้อน้ำประปา 20 ปี ที่ตนกล่าวหาท่านนายกฯ และรมว.มหาดไทยในข้อหาปล่อยปะละเลย ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ส่อทุจริตเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนเพียงรายเดียว ซึ่ง รมว.มหาดไทยได้ตอบและยืนยันในที่ประชุมสภาว่าไม่เห็นด้วยกับผู้บริหารและบอร์ดของการประปาส่วนภูมิภาค ที่จะต่อสัญญาให้กับเอกชน จึงขอเรียกร้องให้ รมว.มหาดไทย สั่งการให้ผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาค ออกคำสั่งให้มีการเตรียมการเข้าดำเนินการโดยบุคลากรของการประปาก่อนสิ้นสุดสัญญาในวันที่ 14 ต.ค.ตามที่ได้รับปากต่อสภาไว้ เช่น การเตรียมโครงสร้างบุคลากรด้านการผลิตน้ำประปา เพื่อรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการผลิตจากเอกชน และขอเรียกร้องให้ผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาคบริหารกิจการประปาซึ่งเป็นทรัพยากรของชาติให้เป็นธรรม มีธรรมาภิบาลในการบริหารองค์กรและผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างเป็นธรรม และตัดสินใจใดๆ เพื่อประโยชน์ของผู้ใช้น้ำประปาโดยรวม

ด้านนายศรัณย์ กล่าวว่า ปัญหาการหลอกลวง การช่อโกงประชาชนไม่ใช่เรื่องใหม่ในสังคมไทย ดูเหมือนจะยังทวีความรุนแรงมากขึ้น ไม่ว่าจะจากเทคโนโลยีใหม่ๆ ทำให้กลุ่มมิจฉาชีพเข้าหาประชาชนได้มากมายหลายช่องทาง ประสานกับความไม่เอาใจใส่ในการแก้ไขปัญหาและคุ้มครองประชาชนของภาครัฐ ทำให้มีประชาชนจำนวนมากตกเป็นเหยื่อ สูญเสียทรัพย์สิน กระทบความเชื่อมั่นในภาพรวมของประเทศ จากการที่มีกลุ่มมิจฉาชีพจากต่างชาติเข้ามาทำการหลอกลวงมากขึ้น แต่รัฐบาลก็ยังคงไม่สนใจ ไม่ตั้งใจแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว เช่น สอท.หรือ ปอท.กลับไม่สามารถปฏิบัติงานได้อย่างเหมาะสม เนื่องจากขาดกำลังพล ขาดอุปกรณ์และผู้มีความรู้เฉพาะทาง แต่กลับมุ่งต่อต้านข่าวที่เป็นผลเสียกับรัฐบาล ในเอกสารงบประมาณปี 66 ซึ่งกำลังพิจารณาอยู่ในสภาขณะนี้ หน่วยงานและโครงการซึ่งมีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือ ให้คำปรึกษา และรับปัญหาของประชาชนผู้ถูกโกงผ่านช่องทางต่างๆ กลับเป็นโครงการที่ถูกปรับลด แต่โครงการที่มีเป้าหมายเพื่อปกป้องรัฐบาล กลับได้งบประมาณเต็ม ตอกย้ำให้เห็นว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการรักษาอำนาจของตน มากกว่าความปลอดภัยในทรัพย์สินของประชาชน

นายศรัณย์ กล่าวอีกว่า รัฐบาลไม่เคยมีแผนรองรับ หรือช่วยเหลือประชาชน ที่ตกเป็นเหยื่อของขบวนการหลอกลวงจากวิธีต่างๆ เช่น Forex3d วงแชร์ต่างๆ หรือการหลอกให้ลงทุนผ่านช่องทางออนไลน์ ถึงแม้คดีจะถึงที่สิ้นสุด มีคำตัดสิน แต่ประชาชนผู้ตกเป็นเหยื่อก็แทบไม่มีโอกาสจะได้ทรัพย์สินที่สูญเสียไปคืน หรือแม้แต่ความช่วยเหลือจากรัฐก็ไม่เคยมี เพราะหน่วยงานไม่สามารถติดตามทรัพย์สินดังกล่าวได้ เป็นผลมาจากรัฐบาลไม่เคยตั้งใจแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง ทำให้หน่วยงานที่ควรต้องรับผิดชอบไม่สามารถทำงานได้ ผลสุดท้ายความเสียหายที่เกิดจากความไม่เอาไหนและไม่ใส่ใจของรัฐบาล ก็ตกกับประชาชน โดยสนใจแต่หาทางโกงเวลา ยืดอายุการอยู่ในอำนาจของตัวเองเพียงอย่างเดียว

นายอนุสรณ์ กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยสถานะ 8 ปีของพล.อ.ประยุทธ์ ว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยอย่างไรเป็นเรื่องที่ต้องลุ้น แต่ที่ไม่ต้องลุ้นคือเสียงประชาชน เพราะมีการสรุปผลโหวตเสียงประชาชนครั้งที่ 2 พบว่า 93.17% โหวตไม่ควรให้พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ เกิน 8 ปี หากใครคิดจะวิ่งเต้นช่วยเหลือกันอย่างไรให้ฟังเสียงประชาชนให้ดี พล.อ.ประยุทธ์ตอบคำถามทำไมข้าวของแพง ค่าไฟแพง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขึ้นราคา โดยทำตัวเป็นมรรคทายกให้โอวาทอ้างธรรมะ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรคแม้แต่พระพยอม กัลยาโณ พระนักเทศน์ชื่อดังยังออกมาแย้งว่าอริยสัจ 4 คือการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า 4 เรื่อง คือ เรื่องทุกข์ เหตุของทุกข์ การดับทุกข์ และข้อปฏิบัติที่ทำให้ทุกข์ดับ ค่าไฟขึ้นมันจะเกี่ยวกับอริยสัจ 4 ได้ยังไง ประชาชนเขาถามปัญหา ก็บอกวิธีแก้ปัญหามาดีๆ หรือที่พล.อ.ประยุทธ์อ้างธรรมะ แท้จริงแล้วหมายถึงการสารภาพว่าตัวเองไร้ฝีมือ ไม่มีวิธีแก้ปัญหา เลยปล่อยลอยแพประชาชนตามยถากรรม ความจริงถ้าพล.อ.ประยุทธ์จะอ้างอริยสัจ 4 ควรนำมาประกอบการพิจารณาตัดสินใจเลือกทางเดินชีวิตกรณี 8 ปีประยุทธ์ จนแฮชแท็ก #นายกเถื่อน พุ่งติดเทรนด์ทวิตเตอร์ประเทศไทยจะดีกว่า

นายอนุสรณ์ กล่าวต่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ทุกข์ เหนื่อย เครียด จากการที่ถูกประชาชนออกมาด่า ออกมาขับไล่ 8 ปี ไม่มีผลงานอะไร และรัฐธรรมนูญเขียนห้ามเป็นนายกฯ รวมกันเกิน 8 ปี สมุทัย สาเหตุแห่งทุกข์ คือการอยากสืบทอดอำนาจ อยากเป็นนายกฯ นานๆ แต่ฝีมือไม่มี แก้ปัญหาไม่ได้ กลายเป็นการสะสมปัญหาจนเกิดวิกฤต นิโรธ การดับทุกข์ คือการเก็บข้าวของออกจากทำเนียบ กลับบ้าน ตั้งสติ รู้จักคำว่าพอ มรรค หนทางของการดับทุกข์ คือการลาออก หรือ ยุบสภา

“8 ปีที่ผ่านมาพล.อ.ประยุทธ์ น่าจะได้ทำในสิ่งตัวเองอยากทำมาเกือบครบหมดแล้ว เหลือเพียงการได้ถ่ายรูปกับผู้นำประเทศต่างๆ ที่จะมาประชุมเอเปค เพื่อเป็นเกียรติเป็นศรีกับวงศ์ตระกูล หากใครการันตีได้ว่าพล.อ.ประยุทธ์จะได้รับสิทธิถ่ายรูป เชื่อว่าพล.อ.ประยุทธ์อาจตัดสินใจในทางที่เป็นประโยชน์กับประเทศชาติก็เป็นได้” นายอนุสรณ์ กล่าว

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ