พท.ซัด บิ๊กตู่ ทำไทยเสียโอกาสเป็นศูนย์กลางขนส่งทางราง ห่วงรถไฟเร็วสูงไทยไปไม่ถึงไหน

Home » พท.ซัด บิ๊กตู่ ทำไทยเสียโอกาสเป็นศูนย์กลางขนส่งทางราง ห่วงรถไฟเร็วสูงไทยไปไม่ถึงไหน


พท.ซัด บิ๊กตู่ ทำไทยเสียโอกาสเป็นศูนย์กลางขนส่งทางราง ห่วงรถไฟเร็วสูงไทยไปไม่ถึงไหน

พท.ซัด บิ๊กตู่ ทำไทยเสียโอกาสเป็นศูนย์กลางขนส่งทางราง ห่วงรถไฟเร็วสูงไทยไปไม่ถึงไหน การพัฒนาจะตามหลังมาก ต้องเปลี่ยนวิธีคิดก่อนไทยรั้งท้ายทุกด้าน

วันที่ 5 พ.ย.64 นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ ส.ส.หนองคาย และอดีตรองเลขาธิการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รถไฟความเร็วสูงจีน-ลาว ระยะทาง 1,035 กม. ระยะทางในลาว 414 กม. ได้เปิดดำเนินการแล้ว หลังจากที่เริ่มก่อสร้างในปี 2559 สร้างความอิจฉาและเสียดายให้กับคนไทยส่วนใหญ่ที่อยากเห็นประเทศไทยมีระบบรถไฟความเร็วสูง ทั้งที่สปป.ลาวยังมีถนนลูกรังจำนวนมากและยังเหลือถนนลูกรังมากกว่าประเทศไทยเสียอีก

นายกฤษฎา กล่าวว่า นอกจากนี้ลาวและจีนใช้เวลาประมาณ 5 ปีในการก่อสร้างทางรถไฟดังกล่าว ขณะที่ประเทศไทยสร้างแค่ 3.5 กม. แต่ใช้เวลากว่า 2 ปีครึ่งกว่าจะเสร็จ สะท้อนความล้มเหลวในประสิทธิภาพการบริหารจัดการของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งหากตัดสินใจทำทั้งสายและมีประสิทธิภาพเหมือนรถไฟความเร็วสูงจีน-ลาว ป่านนี้ก็คงใกล้เสร็จแล้วเช่นกัน ไม่ต้องพูดว่าหากเริ่มต้นทำในสมัยรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ที่มีอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร บริหาร ป่านนี้อาจจะมีหลายเส้นทาง หรืออาจจะทำทะลุไปถึงประเทศมาเลเซียแล้ว ซึ่งนอกจากที่ประเทศไทยจะเสียโอกาสแล้ว ไทยยังทำให้ประเทศมาเลเซียเสียโอกาสไปด้วย

นายกฤษฎา กล่าวว่า จากข้อมูลเบื้องต้นพบว่าการเดินทางจากเวียงจันทน์ไปคุนหมิง จะใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 ช.ม. จากปกติจะใช้เวลา 2 วัน นอกจากนี้ราคาค่าโดยสารก็ไม่แพง โดยมีราคาค่าโดยสารในชั้นต่างๆ ดังนี้ นครหลวงเวียงจันทน์-บ่อเต็น (ปลายทางชายแดนประเทศจีน) ตู้โดยสารชั้น 1 คนละ 294 หยวน หรือ 529,000 กีบ หรือ 1,510 บาท ตู้โดยสารชั้น 2 คนละ 185 หยวน หรือ 333,000 กีบ หรือ 950 บาท ค่าโดยสารรถไฟความเร็วธรรมดา คนละ 132 หยวน หรือ 238,000 กีบ หรือ 680 บาท ส่วนค่าโดยสารจากบ่อเต็นไปยังคุนหมิงยังไม่มีข้อมูล แต่หากพิจารณาในส่วนแรกจะเห็นได้ว่าราคาไม่แพงนัก

นายกฤษฎา กล่าวว่า การที่รถไฟความเร็วสูงจากจีนมาถึงลาวนี้ แต่รถไฟความเร็วสูงของไทยยังไม่ไปไหน ได้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อสถานะการนำของประเทศไทยในอาเซียน เรื่องหนึ่งที่พล.อ.ประยุทธ์ อาจจะคาดไม่ถึงคือความล่าช้าและด้อยประสิทธิภาพของพล.อ.ประยุทธ์ ทำให้ประเทศไทยสูญเสียศูนย์กลางการขนส่งทางรางไปให้กับสปป.ลาวไปแล้ว ทั้งนี้เพราะประเทศไทยยังตามหลังสปป.ลาวอีกหลายปีกว่าไทยจะทำรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อลาวเสร็จ ในระหว่างช่วงเวลาหลายปีนี้ สปป.ลาวจะพัฒนาเป็นศูนย์กลางขนส่งทางราง ทั้งด้านขนส่งคนและขนส่งสินค้าแซงหน้าประเทศไทยไปไกล และไทยเองก็ต้องไปพึ่งลาวในการเชื่อมต่อไปจีน กว่ารถไฟความเร็วสูงของไทยที่จะเชื่อมต่อจะเสร็จ จะพัฒนาเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางรางไปไกลแล้ว

นายกฤษฎา กล่าวว่า ดังนั้น จึงเป็นความจำเป็นเร่งด่วนที่ประเทศไทยต้องทำรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อไปเวียงจันทน์จากหนองคาย เพื่อเชื่อมต่อไปจีน ตามที่คณะทำงานเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทยเสนอ เพื่อไม่ให้ไทยตกขบวนรถไฟความเร็วสูงนี้นานไปนัก และยังมีเวลาพัฒนาควบคู่ไปกับสปป.ลาว ก่อนที่สปป.ลาวจะแซงหน้าทิ้งไทยไปไกลแบบกู่ไม่กลับ ซึ่งจะทำให้ไทยสูญเสียการนำในอาเซียนไปทีละเรื่อง หลังจากที่ประเทศเวียดนามส่งออกชนะไทยมาหลายปีแล้ว และการลงทุนจากต่างประเทศของเวียดนามก็แซงไทย อีกทั้งธุรกิจผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และอุปกรณ์ไฮเทคก็ย้ายไปประเทศเวียดนามหมดแล้ว อินโดนีเซียก็พัฒนาธุรกิจเทคโนโลยีสมัยใหม่ไปไกลกว่าไทยมาก การผลิตรถยนต์สมัยใหม่ ก็ย้ายไปประเทศอินโดนีเซีย เป็นต้น หากประเทศไทยยังมีผู้นำที่ยังตามโลกไม่ทัน ไทยจะล้าหลังและจะตามหลังประเทศอื่นๆในอาเซียนในทุกด้าน

“พล.อ.ประยุทธ์ น่าจะต้องขอบคุณหญิงสาวชาวอุดรธานี ที่เดินทางไปเพื่อเตือนสติพล.อ.ประยุทธ์ ตรงๆตอนที่พล.อ.ประยุทธ์ ลงพื้นที่อุดรฯ ว่า “พัฒนาไม่ได้ก็เกษียณไปเถอะ” มากกว่าที่จะส่งตำรวจไปข่มขู่ เพราะเชื่อว่าหากถามประชาชนทั้งประเทศส่วนใหญ่ก็จะคิดเหมือนหญิงสาวอุดรฯ ท่านนี้ เพราะตลอด 7 ปีที่ผ่านมาประเทศไทยได้เสื่อมถอยอย่างมากแล้ว และยังไม่เห็นทิศทางเลยว่าพล.อ.ประยุทธ์ จะพัฒนาประเทศต่อไปได้อย่างไร มีแต่จะทำให้ประเทศไทยเสื่อมลงตลอด”

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ