ฝ่านค้าน รุมซัดรัฐบาลอย่าโยนความผิด เย้ยยิ่งตอกย้ำความขัดแย้ง ยันทำหน้าที่เต็มที่ จวกประธานทำหน้าที่ไม่เป็นกลาง ย้อน รังสิมา ใครทำลายชื่อเสียงสภา
เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.2564 ที่รัฐสภา ส.ส.ฝ่ายค้าน นำโดย นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานวิปฝ่ายค้าน นางมนพร เจริญศรี ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย และนายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงภายหลังสภาล่ม
นายสมคิด กล่าวว่า สถานการณ์ของสภาวันนี้ บ่งบอกถึงความไม่พร้อมของรัฐบาล เราให้เวลาและให้โอกาส ซึ่ง 2 ปีครึ่งที่ผ่านมาเราช่วยเป็นองค์ประชุมตลอด แต่เห็นได้ชัดว่า สิ่งที่เกิดขึ้นแม้กระทั่งกฎหมายของรัฐบาลเองก็ไม่รับผิดชอบ มีสัญญาณมา 2-3 สัปดาห์แล้ว ยืนยันว่าที่องค์ประชุมครบ บางครั้งเราก็ช่วยประคอง อยากให้สภาเดินหน้าได้
แต่วันนี้เราเห็นความผิดปกติ ไม่มาประชุม หากไปตรวจสอบว่าพรรครัฐบาลจำนวนมากที่ไม่เข้าร่วมประชุมเป็นใคร ก็จะทราบว่าอะไรเกิดขึ้น ฉะนั้น ไม่ใช่ฝ่ายค้านจะเล่นเกมไม่ให้ประชุม ฝ่ายค้านคือตัวนั่งประชุม แต่ทางการเมืองนั้นเราไม่อยากให้รัฐบาลเอาเปรียบเราตลอดเวลา
นายสมคิด กล่าวว่า เรื่ององค์ประชุมเราช่วยกันมาตลอด แต่ช่วงหลังเราพูดอย่างชัดเจน เราบอกวิปรัฐบาลว่าเราจะไม่แสดงตนเป็นองค์ประชุมในบางเรื่อง ไม่ได้ปิดบังเพราะอยากให้รัฐบาลเตรียมตัวและกระตุ้นให้มาทำงาน
ด้านนางมนพร กล่าวว่า การที่ส.ส.รัฐบาลอ้างว่ากฎหมายไม่ได้บอกว่าองค์ประชุมเป็นของรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน โดยน.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ เสนอให้นับองค์ประชุมแบบขานชื่อและแสดงตน ซึ่งหลายคนคงจำได้สมัยพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล น.ส.รังสิมาหรือไม่ที่ทำลายความเชื่อมั่นของระบบรัฐสภา ลุกขึ้นไปลากเก้าอี้ของนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภา บนบัลลังก์ และวอล์กเอาต์ เขวี้ยงเก้าอี้ เขวี้ยงหนังสือ แต่วันนี้พอมาเป็นรัฐบาล กลับบอกว่าฝ่ายค้านไม่อยู่เพื่อเป็นองค์ประชุม ไม่ช่วยกันพิจารณากฎหมายเพื่อช่วยเหลือประชาชน
อยากย้ำเตือนอีกครั้งว่าพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมฝ่ายค้านได้ทำหน้าที่ ส.ส. ในการเป็นองค์ประชุม แต่สมาชิกฝ่ายรัฐบาลไม่เข้าร่วมเป็นองค์ประชุม และหลายคนก็มีกรณีกดบัตรแทนกันด้วย อย่างไรก็ตาม เพื่อไทยและพรรคร่วมฝ่ายค้านยึดมั่นในระบบรัฐสภา และเราจะทำหน้าที่แก้ไขปัญหาให้ประชาชนต่อไป
ขณะที่นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เราเห็นสถานการณ์แบบนี้มาตลอดสมัยประชุมที่ผ่านมา แต่ความจริงคือเสียงของพรรครัฐบาล มีมากกว่าฝ่ายค้าน แต่เสียงที่มีจำนวนมาก กลับไม่สะท้อนความเป็นเอกภาพของพรรครัฐบาล และยิ่งตอกย้ำให้เห็นว่ามีความขัดแย้งอย่างมากในพรรครัฐบาลหรือพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด
นอกจากนี้ ประธานในที่ประชุมต้องเป็นกลางมากกว่านี้ ต้องไม่พูดจากระทบกระเทียบ ทั้งนี้ เหตุการณ์สภาล่มในวันนี้ เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องทบทวนตัวเองว่า สาเหตุที่แท้จริงเป็นเพราะสิ่งใด อยากย้ำว่าพรรคฝ่ายค้านพร้อมทำหน้าที่อย่างแข็งขัน โดยเฉพาะการประชุมร่วมรัฐสภาและประชุมสภาในวันที่ 21-24 ธ.ค. เราทำหน้าที่อย่างเต็มที่ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นอุบัติเหตุหรือความตั้งใจ รัฐบาลต้องตอบประชาชน ไม่ใช่ฝ่ายค้าน