สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย และในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวอภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณประจำปี พุทธศักราช 2565 ซึ่งถือได้ว่า เป็นงบประมาณที่มีนัยยะสำคัญอย่างยิ่ง ต่อชีวิตของประชาชนทั้งประเทศ ที่จะฝ่าช่วงเวลาวิกฤตของประเทศ และพาประชาชนอยู่รอดได้หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาร่างงบประมาณฉบับนี้ แต่สิ่งที่เห็นอันเป็นข้อมูลที่ประจักษ์ชัด กลับตรงกันข้าม เหมือนอยู่กันคนละโลก กับประชาชนเจ้าของประเทศ วันนี้ประชาชนกำลังลำบากอย่างแสนสาหัส แต่รัฐบาลกลับวางแผนจัดงบประมาณปี 2565 ราวกับประเทศอยู่ในสถานการณ์ปกติดี ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น
ไม่อาจจะยอมรับร่างงบประมาณ 2565
สำหรับร่างงบประมาณ 2565 ที่รัฐบาลนำเสนอมาให้รัฐสภาพิจารณานั้น มีเรื่องที่ไม่อาจจะยอมรับให้ผ่านได้ใน 4 ประเด็น ดังนี้
1.ไม่มีการจัดลำดับความสำคัญของปัญหา ไม่ตรงเป้า ไม่บรรเทาความเดือดร้อน ไม่ลดความรุนแรงของปัญหา นั่นคือวันนี้ยังจัดงบประมาณให้กับกระทรวงกลาโหมมากที่สุด และที่สำคัญเป็นวงเงินงบประมาณ ที่มากกว่าของกระทรวงสาธารณสุข ถึงเกือบ 5 หมื่นล้านบาท
วันนี้ไทยกำลังทำสงครามอยู่กับใคร หรือที่ต้องใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ แต่ขณะนี้ ไทยกำลังทำสงครามกับโรคระบาดที่น่ากลัวที่สุด ซึ่งน่าแปลกใจที่พบว่า งบกระทรวงสาธารณสุข ถูกปรับลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปี อาจกล่าวได้ว่า ในห้วงเวลาที่ประเทศมีความจำเป็นสูงสุดด้านสาธารณสุข แต่กระทรวงสาธารณสุข กลับไม่ได้รับการสนับสนุนทางด้านงบประมาณอย่างเต็มที่
2.ไม่คำนึงถึงปัญหาทุกข์ร้อนของประชาชน ไม่แยแสทุกข์ของประชาชน ไม่เห็นประชาชนอยู่ในสายตางบประมาณของกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น กระทรวงพัฒนาสังคมฯ กระทรวงแรงงาน กลับถูกตัดลดลงไปอย่างมาก
3. ที่ไม่มีวิสัยทัศน์ ขาดการคิดวางแผนงบประมาณในการวางโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อเตรียมตัวให้ประเทศออกจากวิกฤต โดยเฉพาะในส่วนของธุรกิจ SME นั้น กลับไม่ได้ให้ความสำคัญเท่าที่ควร รวมถึงการสนับสนุนการฟื้นฟูกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมต่างๆ ที่กระทบกระเทือน เพราะภาวะการระบาดของโควิด ด้วย
4.สะท้อนถึงความอ่อนด้อย ในด้านการบริหารจัดการแบบมืออาชีพไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่น ไม่ทำให้เกิดความมั่นใจว่า จะก้าวพ้นวิกฤตในอนาคตได้ไม่รู้จักวิธีหาเงินเข้าประเทศ รู้จักแต่วิธีการกู้เพื่อนำมาใช้แบบไม่ก่อให้เกิดรายได้ ไม่ก่อให้เกิดการหมุนของวงรอบทางเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม แผนงบประมาณของประเทศ ที่ถูกจัดขึ้นอย่างไร้ยุทธศาสตร์ ในสภาวการณ์ที่ประเทศกำลังเผชิญวิกฤตอย่างรุนแรงเช่นนี้ ตนไม่อาจยอมรับให้ผ่านสภาแห่งนี้ได้ ด้วยการบริหารจัดการโดยรัฐบาลที่ไร้ศักยภาพที่นำโดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คนนี้ พล.อ.ประยุทธ์ต้องเสียสละตนเอง คืนความสุขกลับมาให้ประชาชน ด้วยการลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี