เมื่อวันศุกร์ สำนักพระราชวังญี่ปุ่นประกาศว่า เจ้าหญิงมาโกะ พระราชนัดดาในสมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ จะทรงเข้าพิธีสมรสกับนายเคอิ โคะมุโระ อดีตพระสหายร่วมชั้นเรียน ในวันที่ 26 ตุลาคมนี้ เเม้ว่าก่อนหน้านี้จะเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์การหมั้นของพระองค์รวมถึงการขุดคุ้ยประวัติของฝ่ายชายโดยสื่อญี่ปุ่น ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์
เมื่อปีค.ศ. 2017 เจ้าหญิงมาโกะ พระชันษา 29 ปี ทรงหมั้นหมายกับนายโคะมุโระซึ่งมีอายุเท่ากัน ภาพที่ทั้งสองส่งรอยยิ้มให้แก่กันระหว่างงานแถลงข่าวได้เคยสร้างความประทับใจแก่สาธารณชน
อย่างไรก็ตาม ต่อมาบรรดาสำนักข่าวแทบลอยด์ต่างรายงานถึงความขัดแย้งทางการเงินระหว่างแม่ของนายโคะมุโระและอดีตคู่หมั้นของเธอ จนต้องเลื่อนพิธีสมรสเมื่อช่วงต้นปีค.ศ. 2018 ต่อมาในเดือนสิงหาคมปีเดียวกัน นายโคะมุโระเดินทางไปศึกษาต่อที่วิทยาลัยกฎหมายในสหรัฐฯ และไม่เดินทางกลับญี่ปุ่นอีกเลยจนถึงวันจันทร์ที่ผ่านมา
สำนักข่าวเกียวโดรายงานโดยอ้างสำนักพระราชวังหลวงญี่ปุ่นว่า เจ้าหญิงมาโกะประชวรด้วยพระโรคเครียดหลังผ่านเหตุการณ์ร้ายแรง หรือ PTSD ซึ่งเป็นกรณีคล้ายกับสมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะที่ทรงเผชิญกับความยากลำบากด้านสภาพจิตใจเช่นกัน
ตามธรรมเนียมปฏิบัติแล้ว เจ้าหญิงมาโกะจะทรงลาออกจากราชวงศ์ญี่ปุ่นหลังทรงเข้าพิธีสมรส โดยจะไม่มีการจัดพิธีสมรสตามแบบราชวงศ์ และมีรายงานด้วยว่าเจ้าหญิงยังทรงไม่รับเงินขวัญถุงมูลค่าหนึ่งล้านดอลลาร์
รายงานสื่อยังระบุด้วยว่า เจ้าหญิงมาโกะและนายโคะมุโระจะจดทะเบียนสมรสที่สำนักงานอำเภอท้องถิ่น โดยจะมีการปรับข้อมูลของราชวงศ์หลังเจ้าหญิงมาโกะทรงลาออกจากการเป็นสมาชิกราชวงศ์แล้ว
ข่าวอื้อฉาวต่อทั้งคู่เริ่มขึ้นเมื่อสำนักข่าวแทบลอยด์แห่งหนึ่งรายงานโดยอ้างอดีตคู่หมั้นแม่ของนายโคะมุโระว่า แม่ลูกคู่นี้ไม่สามารถใช้หนี้ราว 35,000 ดอลลาร์คืนให้เขาได้ โดยนายโคะมุโระระบุว่า อดีตคู่หมั้นของแม่เขามอบเงินดังกล่าวให้เป็นของขวัญ ไม่ได้มอบเป็นเงินกู้แต่อย่างใด
สำนักข่าวต่างๆ รายงานถึงข่าวนี้มากขึ้น มีกระแสกดดันให้สมาชิกราชวงศ์ออกมาแสดงท่าทีต่อประเด็นนี้ ต่อมานายโคะมุโระออกแถลงการณ์ถึงประเด็นดังกล่าวโดยละเอียดในปีนี้
ทั้งนี้ นายโคะมุโระจบการศึกษาจากวิทยาลัยกฎหมายฟอร์ดแฮมในปีนี้ และสอบเนติบัณฑิตเพื่อประกอบวิชาชีพด้านกฎหมายในช่วงฤดูร้อนที่กำลังจะถึง มีรายงานว่า เขาประกอบอาชีพนิติกรที่สำนักงานกฎหมายในสหรัฐฯ
คู่หมั้นของเจ้าหญิงมาโกะบินกลับกรุงโตเกียวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการเดินทางกลับญี่ปุ่นของเขาครั้งแรกในรอบสามปี นายโคมุโระกลับมาพร้อมผมทรงหางม้าจนสื่อแทบลอยด์และสื่อโทรทัศน์ตั้งคำถามว่า ทรงผมของเขาถือเป็นการไม่เคารพราชวงศ์ญี่ปุ่นหรือไม่
สำนักข่าวญี่ปุ่นไมนิจิเผยแพร่ผลสำรวจล่าสุด ระบุว่า ผู้ตอบแบบสอบถาม 38 เปอร์เซ็นต์สนับสนุนการสมรสครั้งนี้ 35 เปอร์เซ็นต์ไม่เห็นด้วยกับการสมรส ในขณะที่อีก 26 เปอร์เซ็นต์ไม่สนใจประเด็นดังกล่าว