ผอ.สนง.พระพุทธฯนนทบุรี บุกวัดพิสูจน์ความจริง กรณี แจ้งจับอลัชชี ขยี้กามดญ.วัย14 ถกเครียดรักษาการเจ้าอาวาส รับเป็นพระลูกวัด เพิ่งมาบวชได้ 2พรรษา ที่ผ่านมาเห็นเด็กสาวมาขอเงินที่กุฏิบ่อยครั้ง กลางคืนก็ไม่เว้น ล่าสุดเจ้าตัวเผ่นออกจากวัดไปแล้ว
เมื่อวันที่ 26 เม.ย. 2566 นายธานี พิกุลทอง ผอ.สนง.พระพุทธศาสนาประจำจังหวัดนนทบุรี เดินทางเข้าพบพระสมุห์พิสุทธิ์ วิสุทโธ รักษาการเจ้าอาวาสวัดฝาง ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณี ผู้ปกครองของด.ญ.วัย14ปี แจ้งความว่า บุตรสาวถูก ด.ญ.ซึ่งเป็นเพื่อนวัยเดียวกันล่อลวงไปให้ พระพร อายุ 63 ปี พระลูกวัด วัดฝาง ล่วงละเมิดทางเพศและข่มขืนกระทำชำเราหลายครั้ง
หลังจากใช้เวลาพูดคุยสอบถามรายละเอียดประมาณครึ่งชั่วโมง นายธานีกับพระสมุห์พิสุทธิ์ ได้ออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว โดยพระสมุห์พิสุทธิ์ รักษาการเจ้าอาวาส กล่าวว่า พระพร เป็นพระลูกวัดแห่งนี้จริง เพิ่งมาบวชเป็นพระได้เพียง 2 พรรษา ที่ผ่านมาได้เคยตักเตือนเกี่ยวกับเรื่องที่ปล่อยให้เด็กวัยรุ่นผู้หญิงเข้ามาขอเงินจากพระพรเป็นประจำไปแล้วหลายครั้ง แม้แต่ในยามค่ำคืน
ซึ่งเท่าที่สังเกตเห็นพบว่าในแต่ละอาทิตย์เด็กหญิงทั้งสองคนจะวนเวียนมาขอเงินจากพระพรประมาณ 5 ครั้งต่อสัปดาห์ ซึ่งก็ไม่ทราบว่าในแต่ละครั้งพระพรให้เงินเด็กหญิงไปครั้งละเท่าไหร่ จนกระทั่งเพิ่งมาทราบเรื่องเมื่อเช้านี้และก็ไม่พบเห็นพระพรตั้งแต่เช้านี้ทั้งๆ ที่วัดมีการจัดงานครบรอบวันมรณภาพของอดีตเจ้าอาวาส ซึ่งเมื่อวานนี้ก็ยังเห็นพระพรมาช่วยงานในวัดอยู่เลย
พระสมุห์พิสุทธิ์ กล่าวอีกว่า หลังทราบเรื่องว่าพระพรถูกผู้ปกครองเด็กหญิงแจ้งความจับ ได้ให้คนในวัดไปดูที่กุฎิก็พบว่าที่กุฎิถูกล็อกกุญแจด้านนอกไว้ โดยที่ไม่มีใครทราบว่าพระพรหายตัวไปไหน พยายามโทรศัพท์ติดต่อกับพระพร แต่ไม่สามารถติดต่อได้ อย่างไรก็ตามในตอนนี้ทางวัดจะรอคำชี้แจงรายละเอียดจากทางพระพรก่อน เพื่อพิจารณาบทลงโทษต่อไปหากพบว่ากระทำความผิดจริงตามที่ผู้ปกครองได้แจ้งความดำเนินคดีเอาไว้
ทางด้านนายธานี กล่าวว่า หลังจากทราบเรื่องตนได้เดินทางมาตรวจสอบและติดตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นแล้ว แต่พบพระพรซึ่งถูกกล่าวหาไม่อยู่วัด โดยไม่มีใครทราบว่าพระพรเดินทาง จึงยังไม่มีใครทราบรายละเอียดในข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น แต่อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ทางผู้ปกครองของเด็กได้เข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้ หากทางพระพรที่ยังหายตัวไปและทางวัดยังไม่สามารถติดต่อได้ ก็เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายเรียกตัวให้มาพบเพื่อสอบปากคำ
แต่หากทางพระพรยังไม่มาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจจนถึงขั้นออกหมายจับแล้ว ก็สามารถสันนิษฐานมูลเหตุแห่งความผิดได้ว่าหมดจากความเป็นพระไปแล้วหรือยัง ทางรักษาการเจ้าอาวาสซึ่งเป็นผู้ปกครองก็สามารถพิจารณาไปตามกฎของสงฆ์ได้ แต่หากทางพระพรยืนยันในความบริสุทธิ์ใจก็สามารถกลับมาชี้แจงหรืออธิบายข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นได้เช่นกัน