ผู้โดยสาร แจ้งความ วินจยย.ภูเก็ต คิดแพง ไม่ไปยังตามตื๊อ ด่าหยาบ ขู่จะตี เหตุเกิดช่วงตี 4 เผยกลัวมาก วอนอย่าไปทำแบบนี้กับใคร
วันที่ 10 พ.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจโหดจัง จ.ภูเก็ต โพสต์คลิปวิดีโอพร้อมข้อความระบุว่า “#โคตรเถื่อน #วินเมืองป่าตอง #ภูเก็ต ไม่ไปด้วยขู่มี “#ตบ” แบบนี้อย่าหาทำ พฤติกรรมแบบนี้อย่าทำมาหาแดกงานด้านบริการ #แอดมิน จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ชาวบ้านนักท่องเที่ยวต้องมาเจอแบบนี้หรอ ขอตั้งคำถามนี้หรือ #เมืองท่องเที่ยว ระดับโลก!”
โดยเหตุเกิดเมื่อเวลา 04.00 น. ที่ผ่านมา บริเวณถนนราษฎร์อุทิศ 200 ปี ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต มีผู้หญิงรายหนึ่งเรียกรถจยย.รับจ้าง หมายเลขทะเบียน กน 6114 ภูเก็ต แต่หลังสอบถามราคา จึงปฏิเสธว่าไม่ไปแล้ว เดี๋ยวเพื่อนมารับ แต่รถจยย.รับจ้างกลับด่าทอผู้โดยสาร
น.ส.วิไลวรรณ ขอมอบกลาง อายุ 32 ปี ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนจะเรียกวินจยย.กลับห้อง ถามเขาว่าเท่าไหร่ เขาบอก 70 บาท ซึ่งราคานี้ไม่ยุติธรรม เพราะตนเคยขึ้น 50 บาท เขาบอกว่า 60 บาทได้ไหม ตนจึงปฏิเสธว่าไม่เป็นไรเพราะเคยไป 50 บาท แต่เขาพยายามตามตื๊อให้ตนไปให้ได้ ตนก็ปฏิเสธ แต่เขายังตามมาตลอดทาง
น.ส.วิไลวรรณ กล่าวต่อว่า เขาพูดจาเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ด่าคำหยาบคาย ตนพยายามปฏิเสธว่าไม่ไป และยกมือไหว้ขอโทษเขา แต่เขาก็พยายามตื๊อจะให้ตนไปกับเขาให้ได้ แล้วขู่จะทำร้าย เขาบอกว่าอย่าให้กูเจอนะ กูจะตี ตอนนั้นตนกลัวมาก ช่วงนั้นเป็นเวลาตี 4 มีคนน้อย ชาวต่างชาติเดินผ่านแค่ 2-3 คน น่ากลัวมากน.ส.วิไลวรรณ กล่าวอีกว่า อยากจะฝากบอกถึงวินจยย.ว่าไม่อยากให้ไปทำกริยาไม่ดีกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ ไม่อยากให้ไปทำแบบนี้กับใคร สงสารเขา อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบเคร่งครัดให้มากกว่านี้ เพราะมันน่ากลัว ตนไม่รู้จะเจอเขาอีกวันไหน ไม่รู้เขาจะมาทำร้ายตนอีกหรือเปล่า เพราะเขาขู่ตนไว้เยอะ
พ.ต.ท.ภูมิ เสมวรนนท์ รอง ผกก.(สอบสวน) ปฏิบัติหน้าที่ หัวหน้าจราจร สภ.ป่าตอง กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าเหตุเกิดขึ้นในพื้นที่ป่าตอง บริเวณอรุณ 2 ถนนราษฎร์อุทิศ 200 ปีเมื่อช่วงเช้าจึงให้ตำรวจจราจรไปตรวจสอบ ปรากฏว่าเจอคลิปกล้องวงจรปิดจากสถานที่ใกล้เคียง ทราบว่าเป็นบุคคลชายไทย และทราบรถกับป้ายทะเบียน
พ.ต.ท.ภูมิ กล่าวต่อว่า กระทั่งทราบว่าชายคนดังกล่าวมีบ้านพักไม่ไกลจาก สภ.ป่าตอง เมื่อไปถึงก็เจอบุคคลดังกล่าว จึงเชิญมาที่ สภ.ป่าตอง พบว่าผู้ต้องหาเป็นคน จ.นครศรีธรรมราช ก่อนย้ายมาทำงานที่ภูเก็ต และมีบุตร 3 คน เจ้าตัวยอมรับว่าเกิดความไม่พอใจผู้เสียหาย จึงพูดจาตามคลิปดังกล่าวจริง
เบื้องต้นในส่วนของความผิด แยกเป็นความผิดส่วนตัว ขณะนี้ผู้เสียหายได้ดำเนินการแจ้งความอยู่ และความผิดเรื่องการนำรถจักรยานส่วนบุคคลมาวิ่งรับผู้โดยสาร, ขับรถโดยใช้ใบอนุญาตขับรถที่หมดอายุและนำรถที่ไม่ได้จดทะเบียนเลขเสียภาษีมา ใช้ และไม่สวมหมวกนิรภัย ทางเจ้าตัวก็ยอมรับและเปรียบเทียบปรับ