ผู้แปกพักตร์โสมแดง เผยชีวิตในห้องขัง คลานเข้าไป-นั่งห้ามขยับตัวครึ่งวัน
วันที่ 28 มี.ค. บีบีซี นำเสนอชีวิตในเรือนจำเกาหลีเหนือผ่านคำบอกเล่าของ ลี ย็อง-จู หญิงผู้แปรพักตร์ อดีตผู้ต้องขังในศูนย์กักกันอนซอง ใกล้พรมแดนจีน หลังพยายามหลบหนีออกจากเกาหลีเหนือเมื่อปี 2550 แต่ถูกจับกุมในประเทศจีน และถูกส่งตัวกลับบ้านเกิด
ย็อง-จูใช้เวลา 3 เดือน ที่ศูนย์กักกันอนซ็อง ที่อยู่ใกล้พรมแดนจีน ขณะรอคำพิพากษา เธอเล่าว่า เธอต้องคลานเข้าไปในห้องขัง และถูกสั่งนั่งขัดขาและเอามือทั้งสองข้างวางบนเข่าทั้งสองข้าง และห้ามขยับตัวเป็นเวลา 12 ชั่วโมงต่อวัน
หากขยับตัวเล็กน้อยหรือซุบซิบเบาๆ จะถูกลงโทษอย่างหนัก นอกจากนี้ ถูกจำกัดการเข้าถึงน้ำ และได้รับเปลือกข้าวโพดบดเพียงไม่ชิ้นเป็นอาหาร “ฉันรู้สึกเหมือนสัตว์ ไม่ใช่คน” ย็อง-จูกล่าว
ผู้แปกพักตร์โสมแดง รายนี้กล่าวว่า ขณะนั่งในห้องขัง ได้ยินเสียงรองเท้าของผู้คุมที่ลาดตระเวนด้านนอก เมื่อเสียงดังกล่าวหายไป เธอจึงใช้โอกาสนี้กระซิบกับหนึ่งในเพื่อนร่วมห้องขังคนหนึ่ง ถึงแผนแปรพักตร์อีก แผนพบปะนายหน้า ซึ่งเป็นการสนทนาอย่างลับๆ แต่ความลับดังกล่าวแตกเสียก่อน
“ผู้คุมจะขอให้ฉันเข้ามาใกล้ลูกกรงห้องขังและยื่นมือทั้งสองข้างออกมา จากนั้น ผู้คุมเริ่มใช้พวงกุญแจทุบตีจนมือของฉันบวมและฟกช้ำ ผู้คุมเหล่านี้ถือว่าพวกเราที่พยายามออกจากเกาหลีเหนือเป็นผู้ทรยศ คุณจะได้ยินเสียงคนอื่นถูกทุบตีเนื่องจากห้องขังมีทางเดินร่วมกัน ฉันอยู่ในห้องขังที่สาม แต่ฉันได้เสียงทุบตีจากห้องขังที่สิบ” ย็อง-จูกล่าว
ในที่สุด ย็อง-จู ถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 3 ปีครึ่ง ในข้อหาพยายามหลบหนีออกนอกประเทส “ฉันกังวลว่าฉันจะยังมีชีวิตหรือไม่หลังรับโทษครบแล้ว เมื่อคุณเข้าไปอยู่ในสถานที่เหล่านี้ คุณจำเป็นต้องลืมความเป็นมนุษย์เพื่ออดทนและอยู่รอด” ย็อง-จูกล่าว
ย็อง-จู เป็นหนึ่งในจำนวนมากกว่า 200 คน มีส่วนร่วมให้ข้อมูลในการสอบสวนเชิงลึกโดยองค์การไม่แสวงผลกำไร โคเรีย ฟิวเจอร์ (Korea Future) เกี่ยวกับการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศภายในระบบเรือนจำของเกาหลีเหนือ พร้อมจัดทำแบบจำลอง 3 มิติ ของศูนย์กักกันอนซ็อง เพื่อให้คนทั่วไปเห็นสภาพการณ์ด้วยตนเอง
โคเรีย ฟิวเจอร์ ระบุผู้กระทำความผิด 597 คน ซึ่งเชื่อมโยงกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน 5,181 กรณีต่อผู้ต้องขัง 785 คนในเรือนจำเกาหลีเหนือ 148 แห่ง หลักฐานดังกล่าวรวบรวมและเก็บในฐานข้อมูลเพื่อหวังว่าสักวันหนึ่งผู้กระทำความผิดเหล่านี้จะถูกนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แม้อาจเป็นเรื่องยาก แต่การสืบสวนดังกล่าวได้รับข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญจากศาลอาญาระหว่างประเทศ หลักฐานดังกล่าวจึงเป็นที่ยอมรับในศาลและเปิดการเข้าถึงโดยเสรี
ยู ซู-ยอน ผู้อำนวยการร่วมของโคเรีย ฟิวเจอร์ ในกรุงโซล บอกบีบีซีว่า ระบบเรือนจำและความรุนแรงภายในเกาหลีเหนือใช้เพื่อปราบปรามประชากร 25 ล้านคน “ในการสัมภาษณ์ทุกครั้งที่เราทำ เราเห็นว่าสิ่งนี้ส่งผลกระทบต่อชีวิตมนุษย์อย่างไร ผู้ให้สัมภาษณ์คนหนึ่งร้องไห้เมื่อเล่าถึงการเห็นการฆ่าทารกแรกเกิด”
กรณีข้างต้นเกิดขึ้นในศูนย์กักกันจังหวัดฮัมกย็องเหนือ ผู้ให้สัมภาษณ์คนดังกล่าวเห็นเพื่อนร่วมห้องขังถูกบังคับทำแท้งแม้จะตั้งครรภ์ 8 เดือนแล้ว และแม้ว่าทารกจะรอดตาย แต่ถูกจับกดลงในอ่างน้ำถึงแก่ชีวิต
ทั้งนี้ เกาหลีเหนือปฏิเสธข้อครหาละเมิดสิทธิมนุษยชนมาตลอด บีบีซีพยายามติดต่อตัวแทนทางการเกาหลีเหนือเพื่อตอบโต้ข้อมูลการสืบสวนของโคเรีย ฟิวเจอร์ แต่ทางการเกาหลีเหนือไม่ได้ตอบรับแต่อย่างใด