เหลือผู้แข่งขันเพียงแค่ห้าคนเท่านั้น ทุกภารกิจจึงสำคัญถึงขั้นชี้ชะตา ในสัปดาห์นี้มีการยุบรวมทีมสำหรับความท้าทายทางธุรกิจ ทำให้เจสสิกา, หลุยส์, โมนิกา, อิรินา และ พอลลีนา มาร่วมทำงานในก๊วนเดียวกัน

ทั้ง 5 เริ่มกิจกรรมในสัปดาห์นี้ด้วยการเตะฟุตบอลกับเด็กๆ จาก Boys ‘Town สิงคโปร์ ซึ่งในตอนนี้มีนายชาตรี ศิษย์ยอดธง ประธานและซีอีโอของวัน แชมเปียนชิพ เข้าร่วมมื้อเช้าเพื่อพบปะสนทนากับผู้แข่งขันของเรา โดยพูดคุยถึงเส้นทางที่ผู้แข่งขันแต่ละคนต้องฝ่าฝันจนกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ จากนั้นเขาก็ร่วมทีมกับผู้แข่งขัน เพื่อลงแข่งเกมฟุตบอลกระชับมิตรกับเด็กๆ จาก Boys ‘Town สิงคโปร์

Boys ‘Town เป็นองค์กรการกุศลที่ก่อตั้งโดยคณะภราดาเซนต์คาเบรียล (Montfort Brothers of St. Gabriel) ในปีพ.ศ. 2491 เพื่อช่วยเหลือเด็กและเยาวชนที่ตกทุกข์ได้ยาก นายชาตรีเป็นหนึ่งในผู้บริจาคและผู้สนับสนุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดขององค์กรการกุศลนี้

หลังจากร่วมกิจกรรมกับเด็กๆเสร็จแล้ว ทั้ง 5 คน ร่วมทดสอบความท้าทายทางธุรกิจ ซึ่งความพิเศษในตอนนี้คือ ไม่มีทีมวาเลอร์และทีมคอนเควสต์อีกต่อไป เพราะผู้แข่งขันต้องทำงานร่วมกันเป็นทีมเดียว นั่นหมายความว่าต่อไปนี้พวกเขาจะได้รับการประเมินศักยภาพเป็นรายบุคคล

ผู้แข่งขันต้องทำงานร่วมกันเพื่อจัดอีเวนต์แสดงสินค้าให้กับ Jakarta International Expo (JI Expo) และลูกค้าที่มีศักยภาพ พวกเขายังได้รับมอบหมายให้สรรค์สร้างการนำเสนอทางการตลาดที่โชว์ความโดดเด่นของสิ่งอำนวยความสะดวก, เทคโนโลยี และบริการที่ล้ำสมัยของ JI Expo โดยในตอนนี้มีแขกรับเชิญพิเศษเพื่อมาร่วมให้คำปรึกษาแก่ผู้เข้าแข่งขัน คือ สองพี่น้องมหาเศรษฐีชาวอินโดนีเซีย ปราจนา และ กรุณา มุรดายา

ซึ่งในตอนนี้ทั้ง 5 คน ตัดสินใจให้พอลลีนาเป็นผู้จัดการโครงการ เนื่องจากความเป็นเจ้าถิ่นอินโดนีเซียของเธอ ส่วนของความท้าทายครั้งนี้ ผู้แข่งขันจะต้องตระเวนคุยกับว่าที่ลูกค้าที่มีศักยภาพของ JI Expo และเสนอขายเป็นรายบุคคล ในตอนท้ายของกิจกรรม ลูกค้าจะได้ลงคะแนนให้กับผู้แข่งขันที่พวกเขามองว่าคนๆนี้มีทักษะการขายดีที่สุด

ลูกค้าที่ว่ามีทั้ง เจสสิกา เฟลิเซีย อังวาร์ ผู้อำนวยการของ Barre 2 Barre และซีเรียสรี คีโต, อัลเธีย ลิม กลุ่มซีอีโอของ Gushcloud International, คริส อัง รองประธานของ Three Angles Group, คาร์ลอส อาลีมูรัง ซีอีโอของ ONE Esports และคนอื่นๆอีกมากมาย

ผู้ตัดสินมองว่าผู้แข่งขันจัดการกับอีเวนต์นี้ได้ในระดับปานกลาง และกรุณาเปรียบเทียบภาพรวมของการทำการตลาดนี้กับงานนำเสนอของเด็กนักเรียนมัธยมปลาย ส่วนชาตรีไม่ประทับใจเอาเสียเลย

ในส่วนของการขายรายบุคคล อิรินาค่อนข้างเกรี้ยวกราดกับการสร้างสายสัมพันธ์ของเธอ แต่เธอก็ยังให้ความสำคัญกับการจัดส่งของเธอมากเกินไป นิฮาริกาคิดว่าพอลลีนาขาดพลังงานและความกระตือรือร้น ชาตรีกล่าวว่าหลุยส์ไร้ความน่าจดจำ ขณะที่กรุณาบอกว่าเขาดูกระวนกระวายและเกร็ง ปราจนากล่าวว่าโมนิกาทำได้ดี แต่ใช้วิธีขายแกมบังคับเกินไป

ในขณะเดียวกันทุกคนต่างชื่นชมเจสสิกาสำหรับความสามารถในการขายของเธอ และเธอก็สามารถสร้างส่วนร่วมกับลูกค้าในระดับอารมณ์ได้อย่างโดดเด่น กรุณาบอกว่าเธอเกิดมาเพื่อสิ่งนี้

เมื่อมาถึงช่วงตัดสิน นายชาตรีแสดงความยินดีกับผู้แข่งขัน 5 คนสุดท้ายที่มาได้ไกลขนาดนี้ แต่เขากลับกล่าวถึงการจัดอีเวนต์ครั้งนี้ว่า “น่าเบื่อและจืดชืดสุดๆ” และเขารู้สึกผิดหวังที่ทีมเลือกใช้วิธีเพลย์เซฟอย่างการนำเสนองานพรีเซนต์ของพวกเขาในแบบที่ใครๆก็ทำกัน

อิรินาตั้งข้อสังเกตว่าเจสสิกาแทบจะเหมาทำงานของทีมคนเดียว และหลุยส์แทบไม่ทำงานอื่นนอกเหนือจากความรับผิดชอบของตนเท่าไหร่ หลุยส์ที่แทบไม่ค่อยแสดงอารมณ์รุนแรงออกมาให้เห็น ถึงกับระเบิดอารมณ์ใส่ผู้แข่งขันคนอื่นๆที่ไม่ยอมให้เขาให้ความช่วยเหลือในด้านอื่นๆ เพราะพวกเขาไม่อยากเสี่ยง

อิรินาอยู่อันดับบ๊วยในส่วนของการปิดการขายรายบุคคลโดยได้รับคะแนนโหวตจากลูกค้าเป็นศูนย์ ขณะที่เจสสิกากลายเป็นผู้ชนะด้วยคะแนนโหวตท่วมท้น อย่างไรก็ตาม ชาตรีบอกว่าเขาไม่รู้จักเจสสิกาดีพอเพราะว่าเธอสงวนท่าทีเก่งมาก เจสสิกาย้อนว่าเธอไม่จำเป็นต้องเปิดใจเพราะเธอไม่เคยตกอยู่ในสามอันดับล่าง

นิฮาริกาตำหนิพอลลีนาที่นำทีมไปสู่ความล้มเหลวและกล่าวว่าแนวคิดนี้ไม่ตกตะกอนดีพอ เธอยังรู้สึกประหลาดใจที่เห็นหลุยส์ในตอนนี้กล่าวโจมตีผู้แข่งขันคนอื่นอย่างเปิดเผย

สุดท้ายแล้ว พอลลีนาก็น้อมรับคำตำหนิที่นำทีมไปสู่ความล้มเหลวและเลือกที่จะพาหลุยส์และอิรินาไปที่ห้องเย็น หลังจากเปิดฉากพูดคุยกับผู้แข่งขันอย่างร้อนแรงอีกรอบ ชาตรีและนิฮาริกาก็ทำการคัดพอลลีนาออกจากการแข่งขัน

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ “The Apprentice: ONE Championship Edition” และวิธีรับชมได้ที่: https://www.onefc.com/the-apprentice