สายไหมต้องรอด พาสองตายาย ร้องสำนักนายกฯ หลังถูกลูกสาวคนเล็ก วางยากล่อมประสาท หลอกเอาที่ดินกว่า 100 ไร่ที่ปากช่อง มูลค่า 500 ล้านบาท และยังถอนเงินออกจากบัญชีกว่า 10 ล้านบาท
วันนี้ (19 ต.ค.66) ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล สำนักนายกรัฐมนตรี นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พา 2 ตายาย คือ นายนอ อายุ 83 ปี และนางแว่น อายุ 69 ปี พร้อม ลูกสาวคนโตและหลานสาว เดินทางเข้าพบ ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตอารีรัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรี ที่
หลัง ตายาย ถูกลูกสาวแอบเอายากล่อมประสาทให้กินเป็นเวลานาน 3 ปี จนเกือบจะเสียสติ สุดท้ายมีการช่วยเหลือออกมาได้ หลานพาเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลจนกลับมาปกติ จากนั้นพบว่าเงินในบัญชีธนาคารกว่า 10 ล้าน รวมทั้งที่ดินกว่า 100 ไร่ มูลค่า 500 ล้านบาท ถูกโอนไปเป็นชื่อลูกสาวจนหมด ตายายเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยกับชีวิต จึงมาร้องขอความช่วยเหลือกับเพจสายไหมต้องรอด
โดยนายนอ เปิดเผยว่า ตนเองถูกลูกสาวแท้ๆ ฮุบสมบัติทุกอย่างไป ทั้งบ้าน และที่ดิน เงินมูลค่า 10 กว่าล้าน ที่ดินปากช่อง 100 ไร่ ไร่ละ 5 ล้านบาท รวมเกือบ 500 ล้านบาท โดยตนเองไม่รู้ว่า เอาไปได้อย่างไร มีครั้งหนึ่งลูกสาวได้เอาเอกสาร มาให้ปั๊มลายนิ้วมือ แต่ไม่ได้บอกว่าเอาไปทำอะไร ตอนที่อยู่ในบ้าน ลูกสาวได้เอายาเม็ดมาให้ทาน ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 3 เวลา โดยอ้างว่าเป็นยาแก้สมองเสื่อมหลังจากที่ทั้งสองคนกินเข้าไปแล้ว มีอาการปากแห้ง คอแห้ง ตาค้าง แล้วมีอาการชักเกร็ง มีอาการคล้ายกับคนบ้า นายนอ วอนขอ ให้ลูกสาวเอาเงิน และทรัพย์สินทุกอย่างมาคืน
ด้าน นางสาวอาภาพัชร์ หรือแพรว หลานสาวคนโตของตา ยาย เปิดเผยว่า ตากับยาย มีลูกสาว 2 คน คนโต คือ แม่ของตนเอง ส่วนลูกสาวคนเล็กของตายาย คือน้าสาวของตนเอง ซึ่งช่วงแรกก็อยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ไม่มีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งอะไรกัน
ช่วงเกือบสามปีที่ผ่านมา เริ่มมีปัญหาเกี่ยวกับการแบ่งมรดกของตายาย และทำให้ตา ยาย เข้าใจลูกสาวคนโตผิด ว่าจะมาเอาสมบัติของตัวเอง ตายายจึงเลือกที่จะอยู่กับลูกสาวคนเล็ก และตัดขาดลูกสาวคนโต
โดยลูกสาวคนเล็กมีการก่อกำแพงสูงกว่า 2 เมตร ปิดกั้นบ้านทั้งสองฝั่ง ซึ่งในช่วงเกือบสามปีผ่านมา แม่ของตนเองก็ไม่เคยได้พูดคุย หรือติดต่อกับตายายอีกเลย กระทั่งมีอยู่วันหนึ่ง แม่ของตนเองได้ยินเสียงคนร้องไห้ พอเดินไปดูพบว่า เป็นยาย มานั่งร้องไห้อยู่ข้างกำแพง แม่จึงพายายเข้ามาที่บ้าน พูดคุยสอบถามจนได้ความว่า ถูกลูกสาวคนเล็ก แอบเอายากล่อมประสาทให้กินเป็นเวลานาน 3 ปี และพบว่าเงินในบัญชีธนาคารกว่า 10 ล้านบาท ถูกโอนเข้าบัญชีลูกสาวคนเล็ก และเงินทุกบัญชีไม่เหลือสักบาท รวมทั้งที่ดินกว่า 100 ไร่ที่ปากช่อง มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท ถูกโอนไปเป็นชื่อลูกสาวคนเล็กจนหมด
หลังจากทราบเรื่อง ตนเองและแม่ จึงพาตายายเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนข้อหาลักทรัพย์ ล่าสุดพนักงานสอบสวนมีคำสั่งฟ้องลูกสาวคนเล็กไปยังอัยการแล้ว แต่ทางตนเองและแม่เกรงว่า จะไม่ปลอดภัยและไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากมีการเอาที่ดินไปจำนองกับผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ด้วย จึงมาร้องขอความช่วยเหลือกับเพจสายไหมต้องรอด
นางสาวแพรว ยังเปิดเผยอีกว่า ทางลูกสาวคนเล็กที่เป็นคู่กรณี ตอนนี้ยังไม่พูดอะไร ล่าสุดนี้ไปฟ้องให้พ่อแม่ เป็นคนไร้ความสามารถ แต่ตนเองก็ได้พาตายายประเมินที่โรงพยาบาล ปรากฏว่าร่างกายและสมองปกติ ไม่ได้ไร้ความสามารถ และตอนนี้ตำรวจสั่งฟ้องเพียงแค่ลูกสาวคนเล็ก หนึ่งคน เรื่องอยู่ที่อัยการ ยังไม่รู้สั่งฟ้องต่อศาลหรือไม่
ด้าน ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตอารีรัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กรณีของสองตายายนั้น เรื่องของเงินในบัญชีที่หายไป นั้นจะต้องเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการ
ส่วนเรื่องของที่ดินที่ถูกลูกสาวนำไปจำนองนั้น จะต้องประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนเรื่องดังกล่าวด้วยเช่นกันว่าเป็นการปิดบังอำพรางหรือไม่ พร้อมจัดชุดคุ้มครองพยาน เนื่องจากสองตายายเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยเพราะจากข้อมูลได้รับข้อมูลว่ามีหนึ่งในคนในครอบครัวเสพยาเสพติด ทั้งนี้ จะให้ตาและยายไปตัดผมที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อนำไปพิสูจน์ทราบว่ามีสารเสพติดหรือไม่