ผู้เชี่ยวชาญจากสหรัฐฯ ยก 3 อาหาร "เร่งความแก่" กระตุ้นอักเสบ แต่คนไทยกินทุกวัน

Home » ผู้เชี่ยวชาญจากสหรัฐฯ ยก 3 อาหาร "เร่งความแก่" กระตุ้นอักเสบ แต่คนไทยกินทุกวัน
ผู้เชี่ยวชาญจากสหรัฐฯ ยก 3 อาหาร "เร่งความแก่" กระตุ้นอักเสบ แต่คนไทยกินทุกวัน

ผู้เชี่ยวชาญจากสหรัฐฯ ยก 3 อาหาร “เร่งความแก่” กระตุ้นการอักเสบของร่างกาย เป็นอาหารที่คนไทยกินกันทุกวัน

อาหารบางชนิดที่รับประทานมากเกินไป อาจกระตุ้นการอักเสบในร่างกาย ซึ่งเชื่อมโยงกับปัญหาผิว เช่น โรคผิวหนังอักเสบ eczema สะเก็ดเงิน และสิว นอกจากนี้ อาหารเหล่านี้ยังอาจเร่งกระบวนการชราภาพของร่างกายให้เร็วขึ้น

เราทราบกันดีว่า รังสี UV เป็นสาเหตุหลักของริ้วรอยก่อนวัยบนผิวหนัง เช่น ริ้วรอยลึก รอยเหี่ยวย่น ผิวหย่อนคล้อย จุดด่างดำ กระ และฝ้า แต่สิ่งที่หลายคนอาจไม่รู้คือ อาหารที่เรารับประทานทุกวันมีผลต่อสุขภาพผิวมากกว่าการใช้เซรั่มหรือครีมบำรุงผิวเสียอีก

ดร.โรเบิร์ต ดับเบิลยู.บี. เลิฟ (Robert W. B. Love) นักประสาทวิทยาจากนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา อธิบายว่า อาหารบางชนิดสามารถกระตุ้นการอักเสบในร่างกาย ซึ่งส่งผลให้เกิดปัญหาผิว เช่น โรคเรื้อนกวาง สะเก็ดเงิน และสิว นอกจากนี้ อาหารเหล่านี้ยังสามารถเร่งกระบวนการชราภาพของร่างกายให้เร็วขึ้นอีกด้วย

3 อาหารที่ควรลดหรือบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม 

1. เนื้อย่าง

เนื้อที่ผ่านกระบวนการย่างจนไหม้เกรียมอาจเพิ่มสาร AGE (Advanced Glycation End Products) ในร่างกาย ซึ่งส่งผลให้เกิดการอักเสบ การอักเสบเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของความชรา เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานี้ ควรเลือกบริโภคเนื้อที่ปรุงสุกแบบไม่ไหม้เกรียม

2. น้ำตาลทรายขัดขาว

น้ำตาลทรายขัดขาวทำให้ระดับอินซูลินและน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่กระตุ้นให้เกิดการอักเสบ นอกจากนี้ ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานประเภทที่ 2 รวมถึงเพิ่มโอกาสในการเกิดโรคอัลไซเมอร์ ดังนั้น ควรลดปริมาณการบริโภคน้ำตาลให้น้อยลง

3. อาหารทอด

อาหารทอดมักมีคาร์โบไฮเดรตสูง ซึ่งสามารถกระตุ้นการหลั่งอินซูลินและทำให้เกิดการอักเสบได้ นอกจากนี้ อาหารทอดมักใช้น้ำมันพืชที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ซึ่งทำให้เกิดการอักเสบในร่างกาย แนะนำให้ใช้วิธีทอดแบบไร้น้ำมัน หรือใช้น้ำมันมะกอกแทน ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพและช่วยให้ผิวดูเปล่งปลั่งขึ้น

อาหารที่ช่วยชะลอวัย ควรรับประทานอะไรดี?

1. ผักวอเตอร์เครส (Watercress) หรือสลัดน้ำ

ผักวอเตอร์เครสมีน้ำเป็นส่วนประกอบถึง 95% และให้วิตามินซีสูงถึง 98% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน การรับประทานอาหารที่มีน้ำและวิตามินซีสูง จะช่วยเพิ่มการผลิตคอลลาเจน ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ขึ้น

2. ปลาไขมันสูง (Fatty Fish)

กรดไขมันโอเมก้า-3 มีความสำคัญต่อสุขภาพผิว หากต้องการมีผิวเปล่งปลั่ง ควรรับประทานปลาไขมันสูง เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า และปลาซาร์ดีน กรดไขมันเหล่านี้ช่วยเสริมสร้างเยื่อหุ้มเซลล์ ลดความแห้งกร้าน และช่วยให้ผิวดูสุขภาพดีขึ้น

นอกจากนี้ หนังปลาเป็นแหล่งคอลลาเจนชั้นดีที่ไม่ควรมองข้าม

3. หอยนางรม

หอยนางรมอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายของอนุมูลอิสระและรังสี UV

หอยนางรมเพียง 1 ตัว สามารถให้ปริมาณทองแดง (copper) ได้ถึง 0.4 มิลลิกรัม ซึ่งเป็นแร่ธาตุสำคัญที่ช่วยในการสังเคราะห์คอลลาเจน

4. อะโวคาโด

อะโวคาโดถือเป็น ซูเปอร์ฟู้ดสำหรับผิวพรรณ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลผิวให้ดูอ่อนเยาว์

อะโวคาโดอุดมไปด้วยวิตามินอีและไขมันดี ซึ่งช่วยปกป้องผิวจากริ้วรอยก่อนวัยและความเสียหายจากแสงแดด นอกจากนี้ ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวยังช่วยให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น จึงช่วยควบคุมน้ำหนักได้อีกด้วย

5. มะเขือเทศ

มะเขือเทศเป็นหนึ่งในอาหารที่สามารถใช้ปรุงอาหารได้หลากหลาย มีเบต้าแคโรทีนและวิตามินซีสูง ซึ่งเป็นสารอาหารที่ดีต่อผิว

มะเขือเทศยังมี ไลโคปีน (Lycopene) ซึ่งช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV และช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนให้มากขึ้น

6. ผักโขม (Spinach)

ผักโขมอุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อสุขภาพผิว ผม และเล็บ มีแร่ธาตุสำคัญ เช่น แคลเซียม โพแทสเซียม แมกนีเซียม ธาตุเหล็ก และวิตามิน A, C, E, K, B6 และโฟเลต ซึ่งช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของเซลล์ผิว

 

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ