ผู้เชี่ยวด้านการข่าว และความมั่นคง ตั้งข้อสังเกต เรือปริศนาขนาดใหญ่ ที่จมลงหน้าอ่าวสิชล อาจเป็นเรือแท็งค์เกอร์ บรรทุกน้ำมันนอกระบบ ในน่านน้ำสากล
จากกรณีเรือพบเรือปริศนา บริเวณใกล้แท่นขุดเจาะเชพรอน หลังเกาะสมุยราว 70 ไมล์ทะเล ซึ่งเรือดังกล่าวได้จมลงแล้วในระดับความลึกที่ประมาณ 28-30 เมตร ห่างจากชายฝั่งอำเภอสิชล จ.นครศรีธรรมราช 30 ไมล์ทะเล ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อวันที่ 10 ม.ค. 2565 นาวาเอกสมเกีรยรติ ทรงสวัสดิ์ รองผอ.ศรชล.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ทัพเรือภาคที่ 2 ได้ส่งเรือหลวงทับละมุเข้าประจำอยู่ในพื้นที่ติดตามการรั่วไหลของน้ำมัน พร้อมทั้งเตรียมแผนด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการรวมทั้งการสืบสวนหาที่มาของเรือลำนี้
ขณะเดียวกันรายงานแจ้งว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านการข่าวและความมั่นคงรายหนึ่งในภาคใต้ได้ตั้งข้อสังเกตเรือลำนี้ว่า หากพิจารณาจากภาพถ่ายที่ถูกเผยแพร่ออกมานั้น จะสังเกตได้ว่าบนสะพานเดินเรือคล้ายกับว่ามีการทิ้งเรือไปไม่นาน และมีเหตุผลบางประการ
จากภาพที่สนับสนุนแนวทางการสืบสวนคาดว่าเรือลำนี้คือเรือแท็งเกอร์ บรรทุก “น้ำมันนอกระบบ” ที่ลอยลำอยู่นอกน่านน้ำไทย เป็นการประกอบธุรกิจนอกกฎหมาย ลอยน้ำเป็นจุดขนถ่ายน้ำมันนอกระบบกระจายไปยังชายฝั่งของบางประเทศ หรืออาจเป็นภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยของประเทศไทยก็เป็นไปได้เช่นเดียวกัน
ในเมื่อเรือลำนี้เป็นเรือนอกระบบและเป็นเรือที่มีขนาดใหญ่ การจะเดินเรือหรือลากจูงกลับเข้าไปยังท่าเรือในประเทศในย่านนี้เพื่อซ่อมบำรุงนั้นเป็นไปได้ยาก เสี่ยงต่อการถูกตรวจสอบ จะลอยออกจากท่าเรือในประเทศย่านนี้ยิ่งเป็นไปไม่ได้แน่ เพราะต้องผ่านการจราจรทางน้ำที่หนาแน่น รวมทั้งการควบคุมจราจรทางน้ำจากเจ้าหน้าที่รัฐ
“ที่มาแท้จริงของเรือลำนี้จึงน่าจะลอยลำอยู่กลางทะเลนอกน่านน้ำมาตั้งแต่ต้น มีกิจกรรมต่อเนื่องมายาวนานหลายปี ขาดการซ่อมบำรุง และไม่คุ้มค่าที่จะลากกลับเข้าฝั่ง จึงรื้อถอนอุปกรณ์ต่าง ๆ ออก จากนั้นได้ทำการขนย้ายอุปกรณ์ไปยังเรือลำอื่น แล้วมีการทำบางอย่างเพื่อให้น้ำไหลเข้าเรือ
จากนั้นคนประจำเรือได้สละเรือปล่อยให้จม แต่เรือกลับไม่จม จึงลอยเคว้งอยู่กลางทะเล ไหลไปตามกระแสน้ำและเข้าสู่น่านน้ำประเทศไทยตามแรงลมของมรสุมตะวันออก กระทั่งเจ้าหน้าที่แท่นขุดเจาะน้ำมันได้พบเห็นเป็นครั้งแรกนั่นเอง” ผู้เชี่ยวชาญด้านการข่าวระบุ
อย่างไรก็ตามข้อมูลนี้จะต้องรอการพิสูจน์จากกองทัพเรือและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง และรอให้มีการเปิดเผยภาพสุดท้ายขณะเรือจมจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง