นครราชสีมา – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้ลงนามในหนังสือ เรื่อง การสั่งจองวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ( COVID-19 ) ถึงเลขาธิการวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เป็นหนังสือทิ้งทวน 2 ฉบับ ฉบับแรก ลงวันที่ 25 พฤษภาคม 2564 โดยมีเนื้อหาใจความว่า
ด้วยทราบว่า ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ได้ผสานความร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุขและสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ในการจัดหาวัคซีนทางเลือกเพิ่มเติม เพื่อช่วยให้ประชาชนเข้าถึงและได้รับวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ได้เร็วที่สุด รวมทั้งเป็นการควบคุมและยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและกระจายวัคซีนในสถานการณ์ฉุกเฉินให้เป็นไปอย่างทั่วถึง ทั้งภาครัฐภาคเอกชนที่มีความประสงค์ที่จะจัดซื้อวัคซีนเพื่อนำไปฉีดให้กับประชาชนหรือบุคลากรในหน่วยงาน
จ.นครราชสีมา ได้หารือร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา มีความยินดีให้การสนับสนุนและให้ความร่วมมือจังหวัดนครราชสีมาในการจัดหาวัคซีนมาให้กับประชาชนชาว จ.นครราชสีมา ให้เพียงพอกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่เพื่อสร้างความเชื่อมั่นรวมทั้งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของจังหวัดฯ และของประเทศไทย ตลอดจนสร้างมาตรฐานความปลอดภัยและเพิ่มขีดความสามารถที่จะช่วยเหลือให้ประชาชนทุกระดับได้กับมาดำเนินชีวิต เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไป ดังนั้นจึงใคร่ขอจองวัคซีนจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จำนวน 100,000 โดส และพร้อมปฏิบัติตามเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ทุกประการ ทั้งนี้เพื่อความชัดเจนในกรณีอำนาจหน้าที่ในการจัดการจัดซื้อวัคซีนดังกล่าว จ.นครราชสีมา ได้เร่งหารือเรื่องดังกล่าวไปยังกระทรวงมหาดไทยอีกทางหนึ่งด้วยแล้ว ผลการพิจารณาเป็นประการใด ขอความกรุณาแจ้งให้ จ.นครราชสีมาทราบด้วย
นอกจากนี้ยังมีหนังสือเรื่อง หารือกรณีการจัดหาวัคซีนเพื่อให้บริการประชาชนถึง อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ตามที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้เป็นตัวแทนรัฐบาลไทยในการนำเข้าวัคซีน “ซิโนฟาร์ม” ที่ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลกและสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาได้พิจารณาอนุมัติการขอขึ้นทะเบียนวัคซีนดังกล่าว โดยเป็นตัวแทนรัฐบาลไทยในการจัดหาและนำเข้าวัคซีนทางเลือกเพิ่มเติม เพื่อช่วยให้ประชาชนเข้าถึงและได้รับวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันได้เร็วที่สุดนั้น เรื่องจากโรคโควิดได้มีการแพร่ระบาดในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ส่งผลให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก ซึ่ง จ.นครราชสีมา มีจำนวนประชากรทั้งสิ้น 2,692,889 คน มีเป้าหมายในการฉีดวัคซีนให้ได้ร้อยละ 70 ของประชากรในพื้นที่ คิดเป็นจำนวนประชากร 1,885,023 คน แต่ปัจจุบันสามารฉีดวัคซีนให้กับประชาขนได้เพียง 89,290 คน คิดเป็นร้อยละ 4.74 ของประชากรในพื้นที่และยังไม่สามารถระบุได้ว่า จ.นครราชสีมา จะได้รับการจัดสรรวัคซีนเพิ่มเติมอีกจำนวนเท่าใด ในขณะที่ประชาชนในพื้นที่จังหวัดฯ มีความต้องการในการฉีดวัคซีนเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นการกดดันต่อการทำงานของจังหวัดฯ ประกอบกับ จ.นครราชสีมา มีเป้าหายที่จะเปิดจังหวัดฯในห้วงเดือนสิงกาคม – กันยายน 2564 ซึ่งจังหวัดฯ จะมีการแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอลสโมสรชายและสโมสรหญิง ชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย 2021 และในเดือนธันวาคม 2564 จ.นครราชสีมาเป็นเจ้าภาพในการจัดงานศิลปะนานาชาติระดับโลก ครั้งที่ 2 ( Thailand Biennale, Korat 2021 ) ซึ่งจะมีนักกีฬา ศิลปิน และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางมาในจังหวัดฯเป็นจำนวนมาก จึงมีความจำเป็นต้องจัดเตรียมความพร้อมเรื่องวัคซีน เพื่อให้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อโควิด เป็นไปในทางที่ดีขึ้น
ด้าน นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา มีความพร้อมที่จะใช้เงินสะสมของ อบจ.ซื้อวัคซีนซิโนฟาร์ม จากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จำนวน 100,000 โดส ตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ประสานเข้ามา เพื่อนำมาฉีดให้กับประชาชนในพื้นที่ฟรี แต่ทั้งนี้ก็ต้องรอให้ทางกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ได้ปลดล็อกกฎระเบียบต่างๆ เพื่อให้ อปท.สามารถดำเนินการได้โดยไม่ผิดกฎหมาย ซึ่งที่ผ่านมาทาง อบจ.นครราชสีมา ก็ให้ความร่วมมือกับทุกภาคส่วน ในการป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง เพราะโรคระบาดถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องได้รับการแก้ไขโดยเร็ว เพื่อให้พี่น้องชาวโคราชได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ตามนโยบายของ อบจ. และหลังจากที่นายวิเชียร จันทรโณทัย ย้ายออกไปเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิแล้ว ตนเองก็พร้อมที่จะทำงานร่วมกับนายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาคนใหม่อย่างเต็มที่ นางยลดาฯ กล่าว