ผู้ปลูกสับปะรด ร้องแบกต้นทุนสูง แต่ราคารับซื้อยังต่ำ วอนเห็นใจเกษตรกรหน่อย ชี้ผู้ปลูกแทบไม่ได้อะไร ขายไม่ได้ก็ต้องปล่อยให้เน่าตายคาสวน
7 พ.ค. 2565 – ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยัง ต.บ้านเสด็จ อ.เมือง จ.ลำปาง ซึ่งเป็นแหล่งปลูกสับปะรดสายพันธุ์ปัตตาเวียแหล่งใหญ่ โดยก่อนหน้านี้เกษตรจังหวัดระบุว่า ในปีนี้คาดว่าจะมีผลผลิตประมาณ 4.6 หมื่นตัน
เมื่อไปถึงพบว่ามีแปลงที่รอเก็บเกี่ยวอยู่จำนวนมาก โดยมีเกษตรกรใช้ใบห่อหัวสับปะรดกันแดดที่ร้อนจัดเพื่อรอให้โตเต็มที่ เมื่อผลเริ่มแก่และตาเป็นสีเหลือง จึงเก็บเกี่ยวออกจำหน่าย นอกจากนี้พื้นที่บางส่วนที่เก็บเกี่ยวแล้วและรอออกผลใหม่ เนื่องจากการปลูก 1 หน่อ สามารถออกผลได้ 2-3 ครั้ง
นายจง ไตรยงค์ อายุ 67 ปี กล่าวว่า ปีนี้ราคาสับปะรดไม่ได้สูงมาก เฉลี่ยอยู่ที่กิโลกรัมละ 4 – 4.50 บาท ยังไม่รู้ว่าจะลดลงอีกหรือไม่ หากจะให้เกษตรกรอยู่ได้ ต้องรับซื้อในราคากิโลกรัมละ 6 บาทขึ้นไป เพราะช่วงนี้ต้นทุนทุกอย่างขึ้นราคาเกือบเท่าตัว ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ย ยาบำรุงต่าง ๆ ผู้ปลูกแทบไม่ได้อะไรเลย แต่ต้องอดทนทำต่อ เพราะเป็นอาชีพ หากขายไม่ได้ก็ต้องปล่อยให้เน่าตายคาสวน
เกษตรกรพยายามปรับตัว หาสายพันธุ์อื่นมาปลูกเสริม เนื่องจากพันธุ์ปัตตาเวียขายผลสดยาก เพราะมีรสชาติเปรี้ยว เหมาะกับส่งโรงงานมากกว่า หากนำไปขายต้องคัดเกรดที่เป็นน้ำผึ้งเท่านั้นรสชาติถึงดี ตนซื้อสายพันธุ์ตราดสีทองมาปลูก ซึ่งลักษณะคล้ายภูแล แต่ผลใหญ่กว่า รสชาติหวานกรอบ เก็บได้นาน และพอขายได้
อย่างไรก็ตาม อยากให้รัฐบาล จังหวัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือ หลัก ๆ คือเรื่องพยุงราคาปุ๋ย ยาต่าง ๆ เพราะเป็นต้นทุนหลักในการปลูกสับปะรด ช่วยลดต้นทุนในการปลูกลงไปได้บ้างก็ยังดี เพราะหลังจากประสบปัญหาโควิด-19 มาหลายปี ขายผลผลิตได้ไม่ดีแล้ว ต้องมาแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้น ขอให้เห็นใจเกษตรกรด้วย