ผู้นำยูเครนจี้โลก ลงโทษรัสเซีย ใช้ขีปนาวุธยิงถล่มสถานีรถไฟ พลเรือนผู้อพยพเสียชีวิตแล้ว 52 ราย

วันที่ 9 เม.ย. สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน เรียกร้องให้ประชาคมโลกดำเนินมาตรการบท ลงโทษรัสเซีย อย่างเฉียบขาด เนื่องจากทางการยูเครนและชาติตะวันตกกล่าวหาว่า กองทัพรัสเซียใช้ขีปนาวุธยิงถล่มสถานีรถไฟเมืองครามาตอสก์ ทางตะวันออกของประเทศ ส่งผลให้พลเรือนผู้อพยพเสียชีวิตแล้ว 52 ราย ในจำนวนนี้มีเด็กด้วย 5 ราย และบาดเจ็บกว่า 300 คน ท่ามกลางความพยายามอพยพพลเรือนที่ต้องการหนีภัยการสู้รบซึ่งกินเวลามานานกว่า 1 เดือนครึ่งแล้ว

AFP

ประธานาธิบดีเซเลนสกีกล่าวว่า เหตุที่เกิดขึ้นเป็นอีกหนึ่งอาชญากรรมสงครามของทางการรัสเซีย ซึ่งทุกคนที่มีส่วนรับผิดชอบจะต้องถูกนำตัวมาดำเนินคดี และว่าเป็นความชั่วร้ายที่ไร้ขีดจำกัด ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐอเมริกา ประณามเหตุที่เกิดขึ้นเป็นความสยดสยองที่เลวร้าย เช่นเดียวกับผู้นำชาติตะวันตกและพันธมิตรของสหรัฐที่ประณามเหตุโจมตีที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรง อาทิ ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครอง ผู้นำฝรั่งเศส ที่ระบุเป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ ส่วนทางการรัสเซียยืนกรานปฏิเสธการพุ่งเป้าโจมตีพลเรือน

ผู้นำยูเครนระบุด้วยว่า รายงานข่าวการโจมตีสถานีรถไฟถูกสื่อทางการของรัสเซียนำมารายงานก่อนเกิดการโจมตี พร้อมเรียกร้องให้นานาชาติที่สนับสนุนยูเครนจัดส่งอาวุธยุทโธปกรณ์มาเพิ่มอีก เพื่อให้กองทัพยูเครนใช้ต่อต้านผู้รุกราน รวมถึงย้ำความมั่นใจด้วยว่า ยูเครนจะชนะสงคราม โดยตนจะทำทุกวิถีทางเพื่อลดทอนระยะเวลาของสงครามลงเหลือน้อยที่สุด

AFP

ส่วนนางอูร์ซูลา วอน เดอร์ ไลเยิน ประธานคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป หรืออียู พร้อมนายโจเซ็ป โบเรลล์ หัวหน้างานการต่างประเทศของอียู มีกำหนดเดินทางลงพื้นที่เกิดเหตุในเมืองบูชา นอกกรุงเคียฟ ซึ่งพลเรือนหลายร้อยศพถูกสังหารในสภาพมัดมือไพล่หลัง พร้อมระบุด้วยว่า รัสเซียกำลังเผชิญกับความเสื่อมโทรม ส่วนยูเครนมีอนาคตที่สดใสร่วมกับชาติยุโรป โดยทางการอียูอยู่ระหว่างการจัดส่งความช่วยเหลือมูลค่า 7.5 ล้านดอลลาร์ยูโร หรือกว่า 273 ล้านบาท เพื่อฝึกอบรมทางการยูเครนในการสืบสวนอาชญากรรมสงครามด้วย

ด้านสถานการณ์การสู้รบโดยรวม กองทัพรัสเซียอยู่ระหว่างพยายามเชื่อมแคว้นไครเมียเข้ากับแคว้นโดเนตสก์และลูฮานสก์ที่อยู่ภายใต้ความควบคุมของกองกำลังฝักใฝ่รัสเซียทางตะวันออกของยูเครน โดยทางการยูเครนคาดว่าการสู้รบทางภาคตะวันออกของประเทศจะทวีความรุนแรงขึ้นอีก ขณะที่เมืองโอเดสซาทางใต้ของยูเครนอยู่ภายใต้การโจมตีกดดันด้วยขีปนาวุธของกองทัพเรือรัสเซีย ทั้งมีรายงานว่ากองทัพรัสเซียนำชาวยูเครนมาใช้เป็นโล่มนุษย์ที่เขตโอบูโควิชีนอกกรุงเคียฟด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
แฉสยองอีก-นานาชาติตะเพิดรัสเซียพ้นคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนยูเอ็น ไทยงดออกเสียง