วันที่ 11 ก.พ. ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า ประธานาธิบดีมาซิดีเนียเหนือ ประเทศในบอลข่าน พาเด็กหญิง ดาวน์ซินโดรม วัย 11 ขวบ เดินไปส่งถึงโรงเรียน หลังทราบว่าเด็กหญิงคนนี้ถูกกลั่นแกล้ง (บูลลี่)
ประธานาธิบดีสเตโว เปนดารอฟสกี จูงมือด.ญ.เอ็มบาล อาเดมี ขณะเดินไปโรงเรียนประถมศึกษาในเมืองกอสตีวาร์ เมื่อวันจันทร์ที่ 7 ก.พ.
โฆษกประธานาธิบดีบอกกับซีเอ็นเอ็นว่า ด.ญ.เอ็มบาถูกรังแกที่โรงเรียนเนื่องจากผลพวงของการมีอาการดาวน์ ภาวะทางพันธุกรรมที่เกิดความบกพร่องในการเรียนรู้ ปัญหาสุขภาพ และลักษณะใบหน้าโดดเด่น
แถลงการณ์ของทำเนียบประธานาธิบดีระบุว่า นายเปนดารอฟสกีพูดคุยกับพ่อแม่ของด.ญ.เอ็มบาลเกี่ยวกับความท้าทายของเด็กหญิงและครอบครัวเผชิญอยู่ทุกวัน
“พฤติกรรมของผู้ทำอันตรายสิทธิเด็กเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ โดยเฉพาะเมื่อเกิดกับเด็กที่มีพัฒนาการผิดปกติ เด็กเหล่านี้ไม่เพียงควรได้รับสิทธิที่สมควรได้รับ แต่ยังมีความรู้สึกเสมอภาคและยินดีต้อนรับในโต๊ะเรียนและสนามโรงเรียน เป็นหน้าที่ของเรา ในฐานะของรัฐ แต่ในฐานะปัจเจกบุคคลด้วย และหัวใจหลักในภารกิจร่วมกันนี้คือความเห็นอกเห็นใจ ซึ่งจะไม่เพียงช่วยเด็กเหล่านี้อย่างเอ็มบลา แต่จะยังช่วยให้คนอื่นเรียนรู้จากเด็กเหล่านี้ว่า จะมีความสุข แบ่งปัน และเป็นหนึ่งเดียวกัน อย่างจริงใจ ได้อย่างไร” ประธานาธิบดีมาซิโดเนียเหนือระบุ
จากวิดีโอที่ทำเนียบประธานาธิบดีเผยแพร่ นายเปนดารอฟสกีนั่งลงกับครอบครัวของด.ญ.เอ็มบลา และมอบของขวัญแก่เด็กด้วย และยังโบกมือให้ด.ญ.เอ็มบลานอกรั้วโรงเรียน ขณะที่เด็กเดินเข้าไปในอาคาร
“เราทั้งหมดมีความเท่าเทียมในสังคม ผมมาที่นี่เพื่อให้การสนับสนุนและเพิ่มความตระหนักว่า การนับรวมทุกกลุ่มคน (inclusion) เป็นหลักการสำคัญ” ประธานาธิบดีระบุ
ประธานาธิบดีกล่าวว่า ให้กำลังใจและสนับสนุนพ่อแม่ของด.ญ.เอ็มบลาในการต่อสู้ของพวกเขาเพื่อปกป้องสิทธิของเด็กๆ ที่เป็นเหมือนลูกสาวตัวเอง
“อคติในบริบทนั้นเป็นอุปสรรคสำคัญในการสร้างสังคมเท่าเทียมกันและเป็นธรรมสำหรับทุกคน” นายเปนดารอฟสกีกล่าว
เขายังย้ำว่ามีข้อบังคับทางกฎหมายและศีลธรรมเพื่อจัดการศึกษาแบบเรียนรวม ซึ่งเน้นที่การพัฒนาทักษะและความสามารถของเด็กที่มีกระบวนการพัฒนาที่แตกต่างกัน และเน้นย้ำความจำเป็นในการปลุกจิตสำนึกของสาธารณชนในประเด็นนี้
ทั้งนี้ มาซิโดเนียเหนือเคยเป็นส่วนหนึ่งของยูโกสวาเวีย เป็นประเทศไม่มีทางออกสู่ทะเลในยุโรปตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีประชากรราว 2 ล้านคน