ผู้ต้องหามาตรา 112 พบตำรวจบางปู รับทราบข้อกล่าวหาแต่ให้การปฏิเสธ ลั่นขอสู้ในชั้นศาล

Home » ผู้ต้องหามาตรา 112 พบตำรวจบางปู รับทราบข้อกล่าวหาแต่ให้การปฏิเสธ ลั่นขอสู้ในชั้นศาล



ผู้ต้องหามาตรา 112 พบตำรวจบางปู รับทราบข้อกล่าวหาแต่ให้การปฏิเสธ ลั่นขอสู้ในชั้นศาล

นางสาวสุพรรษา เจือเพชร อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาในคดี 112 พร้อมด้วยทนายความและพรรคพวกรวม 4 คน ได้เดินทางมาที่สถานีตำรวจภูธร (สภ.) บางปู จ.สมุทรปราการ เมื่อเวลา 09.30 น. วันจันทร์ (22 มี.ค.) เข้าพบ พันตำรวจเอก พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผู้กำกับ สภ.บางปู และพนักงานสอบสวน เพื่อรับทราบข้อกล่าวตามหมายเรียกของพนักงานสอบสวน สภ.บางปู สมุทรปราการ และสอบปากคำเพิ่มเติม หลังจากถูกแจ้งข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการละเมิดกฎหมายอาญามาตรา 112

ตำรวจอ้างว่า ผู้ต้องหากระทำผิดกรณีที่ไปแขวนป้ายดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูงใต้พระบรมพระฉายาลักษณ์ที่หน้าสถานตากอากาศบางปู กลางดึกคืนวันที่ 5 ม.ค. ที่ผ่านมา

ส่วนการรักษาความปลอดภัย ตำรวจจัดวางกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งในและนอกเครื่องแบบกว่า 2 กองร้อย และตั้งด่านคัดกรองบุคคลที่จะเข้าออกในพื้นที่โรงพัก สภ.บางปู เพื่อป้องกันการเกิดเหตุความวุ่นวาย

นอกจากข้อกล่าวหาละเมิดกฎหมายอาญามาตรา 112 แล้ว ตำรวจยังแจ้งข้อกล่าวหาละเมิดพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ความสะอาด แก่นางสาวสุพรรษาอีก 1 ข้อกล่าวหา ซึ่งผู้ต้องหารายนี้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและขอให้การในชั้นศาล

เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการพิมพ์รายนิ้วมือบันทึกทำประวัติและให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานทำการเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอไว้ตรวจสอบ พร้อมทั้งสั่งให้ผู้ถูกกล่าวหาเดินทางไปยังศาลจังหวัดสมุทรปราการ โดยมีพนักงานสอบสวนเดินทางไปเข้ายื่นคำร้องต่อศาลเพื่อให้ศาลออกหมายขังผู้ต้องหา ซึ่งจะเป็นขั้นตอนในการดำเนินการต่อไป  

พ.ต.อ.พิสุทธิ์ เผยว่า ผู้ต้องรายดังกล่าวเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนแล้วตามหมายเรียก ซึ่งขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาและสอบสวนปากคำพิมพ์รายนิ้วมือตรวจเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ  หลังจากเสร็จสิ้นการสอบสวน ทางพนักงานสอบสวนก็จะสั่งให้ผู้ต้องหาเดินทางไปที่ศาลจังหวัดสมุทรปราการ โดยมีพนักงานสอบสวนจะเดินทางไปยื่นคำร้องต้อศาล เพื่อให้ศาลออกหมายขังผู้ต้องหา จะเป็นขั้นตอนในการดำเนินการต่อไป

ขณะเดียวกันที่บริเวณหน้าศาลจังหวัดสมุทรปราการ พ.ต.อ.เติมรัศมิ์ จินดาวัฒน์ ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ จัดวางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนทั้งในและนอกเครื่องแบบกว่า 2 กองร้อย เพื่อคอยอำนวยความสะดวกและป้องกันเหตุความวุ่นวาย ซึ่งเหตุการณ์ต่างๆ ผ่านไปได้ด้วยดีไม่มีเหตุความวุ่นวายใดๆ เกิดขึ้นแต่อย่างใด

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ