สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เผยเมื่อวันจันทร์ (24 ก.ค.) ว่ามีมติส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ว่ามติของรัฐสภาที่ไม่เห็นชอบให้เสนอชื่อนายกรัฐมนตรีซ้ำได้เมื่อวันที่ 19 ก.ค. ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่

นอกจากนี้ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินยังเรียกร้องให้ชะลอการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ที่มีกำหนดจัดประชุมอีกครั้งในวันพฤหัสบดี (27 ก.ค.) เอาไว้ก่อน

มติดังกล่าวของรัฐสภาเกิดขึ้นระหว่างการโหวตนายกรัฐมนตรีรอบที่ 2 หลังจากนายสุทิน คลังแสง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้รัฐสภารับรองให้เป็นนายกรัฐมนตรี หลังจากได้รับการสนับสนุนไม่ถึงเกณฑ์ 50% ของสมาชิกรัฐสภาทั้งหมดที่มีอยู่ในครั้งแรกเมื่อวันที่ 13 ก.ค.

หลังจากนายสุทินเสนอชื่อ ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยทักท้วงประธานรัฐสภาขึ้นมาว่า การเสนอชื่อคนเดิมทำไม่ได้ เพราะข้อบังคับการประชุมรัฐสภาข้อที่ 41 ที่กำหนดว่าห้ามเสนอญัตติซ้ำในสมัยประชุมเดียวกัน จึงเสนอญัตติให้ลงมติว่าการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีคนเดิมทำได้หรือไม่

ฝ่ายที่สนับสนุนนายพิธาแย้งว่าการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีไม่ได้เป็นญัตติด้วยซ้ำ เพราะญัตติในภาษาอังกฤษใช้คำว่า (Motion/โมชัน) แต่การเสนอชื่อใช้คำว่า (Nomination/นอมิเนชัน) นอกจากนี้ ถ้าหากการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีเป็นญัตติจริง การเสนอญัตติให้โหวตว่าเสนอชื่อซ้ำได้หรือไม่ก็จะตกไป เพราะการเสนอญัตติซ้อนญัตติทำไม่ได้

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ตัดสินใจให้โหวต พบว่าสมาชิกรัฐสภาส่วนใหญ่เห็นว่าการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีเป็นญัตติหนึ่ง ทำให้การเสนอชื่อคนเดิมทำไม่ได้ตามญัตติข้อที่ 41

• จบแล้ว! มติสภา 394 เสียง ไม่ให้เสนอชื่อ “พิธา” ซ้ำอีก หมดสิทธิ์เป็นนายกฯแล้ว

ช่วงต่อมาของวันเดียวกัน นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตสมาชิกสภายกร่างรัฐธรรมนูญในยุคคณะรัฐประหาร คสช. โพสต์เฟซบุ๊กว่า มติของรัฐสภาดังกล่าวเป็นการบิดเบือนรัฐธรรมนูญ เพราะรัฐธรรมนูญเขียนเรื่องการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีไว้ต่างหาก การเสนอชื่อจึงไม่เท่ากับญัตติ

• บวรศักดิ์ อดีตมือเขียนรัฐธรรมนูญยุค คสช. โพสต์ผิดหวังมติห้ามเสนอนายกฯ ซ้ำ