ผู้จัดการอู่จอดเรือ ชี้ปมจุดเจอร่าง ‘แตงโม’ ไม่ไหลไปตามน้ำ แจง ‘สปีดโบ๊ท’ รุ่นที่เกิดเหตุ ถอยหลังได้ แต่ถ้าของตกจะวนกลับมาเก็บ ป้องอันตรายใบพัด
นนทบุรี : กรณีข้อสงสัยเกี่ยวกับการพบร่างของ แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ นักแสดงสาวที่พลัดตกจากเรือสปีดโบ๊ทในแม่น้ำเจ้าพระยา ก่อนที่ต่อมาทางนักประดาน้ำ จะพบเจอร่างของดาราสาวไม่ไกลจากจุดที่ตกเรือ
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายธนกฤต วงศ์สุวรรณ ผู้จัดการอู่จอดเรือ NBC ซึ่งเป็นทีมแรกที่นำเรือออกไปช่วยตามหาร่างของแตงโม นิดา ในคืนที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า การพบเจอร่างของน้องแตงโม ลอยขึ้นมาไม่ไกลจากจุดที่ตกเรือนั้นเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากกระแสน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา มีกระแสน้ำขึ้นน้ำลงตามข้างขึ้นข้างแรม
โดยช่วงที่ตนทราบเหตุและนำเรือออกไปช่วยค้นหานั้น เป็นช่วงเวลาที่กระแสน้ำกำลังหยุดนิ่งพอดี เป็นช่วงน้ำในแม่น้ำเปลี่ยนจากน้ำลงมาเป็นน้ำขึ้นพอดี ซึ่งในช่วงนี้กระแสน้ำจะสงบนิ่ง ทำให้ร่างของน้องแตงโมตกจมดิ่งลงไปอยู่ที่ก้นแม่น้ำ ซึ่งน่าจะกินเวลาประมาณ 10 นาทีจึงถึงพื้น
ประกอบกับใต้พื้นน้ำมีซากวัสดุต่าง ๆ ทับถมกองอยู่เป็นจำนวนมาก จึงทำให้ร่างของน้องแตงโมไม่ถูกกระแสน้ำพัดพาออกไปไกลจากจุดที่ตก ต่างจากศพผู้เสียชีวิตจมน้ำรายอื่นๆ ที่มักถูกกระแสน้ำพัดพาไปไกลจากจุดที่ตก ในรายของน้องแตงโมจึงไม่น่าแปลกใจที่จะพบร่างลอยขึ้นมาไม่ไกลจากจุดที่พลัดตกเรือ
นายธนกฤต กล่าวอีกว่า ในวันที่น้องแตงโมเดินทางมาขึ้นเรือที่อู่ ได้สวมใส่รองเท้าแตะแบบมีส้นมาด้วย โดยระหว่างที่เดินจากโป๊ะจะไปขึ้นเรือเมื่อน้องแตงโมเกือบจะเสียหลักล้ม ตนจึงให้น้องแตงโมพยุงตัวเกาะแขนตนไปขึ้นเรือ หลังจากขึ้นเรือไปแล้วทั้งหมดก็น่าจะถอดรองเท้ากันออกทั้งหมด เนื่องจากบนเรือนั้นปูด้วยพรม ซึ่งสามารถเดินเท้าได้นุ่มนวลกว่า
ส่วนเรื่องที่ใส่รองเท้ากับไม่ใส่รองเท้าบนเรืออะไรลื่นกว่ากันนั้น ตนตอบได้เลยว่าการไม่ใส่รองเท้าจะลื่นน้อยกว่าการใส่รองเท้าอย่างแน่นอน และ เรือสปีดโบ๊ท รุ่น COBALT นั้นมีระบบถอยหลังได้ในตัว ซึ่งตามหลักของคนขับเรือแล้ว หากเกิดสิ่งของตกลงไปในน้ำจะใช้วิธีการขับเรือไปวนกลับมาเก็บสิ่งของ ไม่ใช่วิธีการถอยเรือเข้าไปเก็บ เพราะวิธีถอยหลังเข้าไปเก็บก็เท่ากับการหันใบพัดเรือเข้าไปหาของที่จะเก็บซึ่งเป็นอันตราย